วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีรายงานข่าวเกี่ยวกับ เครือข่ายลักลอบซื้อขายไข่และการอุ้มบุญผิดกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลประโยชน์จากร่างกายของผู้หญิงโดยขาดมาตรฐานทางการแพทย์ที่ปลอดภัย แพทยสภาขอแจ้งเตือนประชาชนให้ตระหนักถึงความเสี่ยงก่อนตัดสินใจเข้าร่วมกระบวนการเหล่านี้
การบริจาคไข่ รายได้ที่ต้องแลกด้วยสุขภาพ
การบริจาคไข่ คือ กระบวนการที่ผู้หญิงบริจาคเซลล์ไข่เพื่อใช้ในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ กระบวนการนี้เริ่มจาก การกระตุ้นรังไข่ด้วยฮอร์โมน เพื่อให้ผลิตไข่หลายใบกว่าปกติ จากนั้นแพทย์จะทำ การเก็บไข่โดยใช้เข็มเจาะผ่านช่องคลอดไปยังรังไข่ เพื่อดูดไข่ออกมา โดยผู้บริจาคจะได้รับ ยาดมสลบ หรือยาชาเพื่อลดความเจ็บปวดระหว่างกระบวนการ
แต่การซื้อขายเพื่อการค้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไทย อย่างไรก็ตามยังมีขบวนการลักลอบซื้อไข่ โดยใช้โฆษณาชวนเชื่อว่าค่าตอบแทนสูง แต่แท้จริงแล้วความเสี่ยงทางสุขภาพอาจรุนแรงและส่งผลระยะยาว
ความเสี่ยงของการขายไข่
ภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OHSS) อาจทำให้ท้องบวมรุนแรง เสี่ยงลิ่มเลือด อวัยวะล้มเหลว และอาจถึงแก่ชีวิตความไม่สมดุลของฮอร์โมน ส่งผลต่ออารมณ์ การมีประจำเดือน และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็ง
ภาวะแทรกซ้อนจากการเจาะเก็บไข่ เสี่ยงติดเชื้อ เลือดออกในช่องท้อง หรือรังไข่บิดหมุน ซึ่งอาจกระทบต่อการมีบุตรในอนาคต
การอุ้มบุญ ภาระที่มากกว่าการตั้งครรภ์ปกติ
การอุ้มบุญ คือกระบวนการที่หญิงคนหนึ่งตั้งครรภ์แทนผู้อื่น โดยใช้ตัวอ่อนที่เกิดจากไข่และอสุจิของผู้อื่น ผ่านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ กระบวนการเริ่มจาก การเตรียมโพรงมดลูกของหญิงอุ้มบุญด้วยฮอร์โมนเพื่อให้พร้อมสำหรับการฝังตัวอ่อน จากนั้น ตัวอ่อนจะถูกย้ายเข้าสู่มดลูกผ่านกระบวนการทางการแพทย์ เมื่อการฝังตัวสำเร็จ หญิงอุ้มบุญจะตั้งครรภ์ต่อและคลอดบุตรเช่นเดียวกับการตั้งครรภ์ทั่วไป ในประเทศไทยอนุญาตเฉพาะกรณีที่เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมาย แต่การอุ้มบุญเชิงพาณิชย์ถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ความเสี่ยงของการอุ้มบุญ
ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน เกิดจากการใช้ฮอร์โมนเพื่อเตรียมมดลูก เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจล้มเหลว และอาจถึงแก่ชีวิต
ภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์ หญิงอุ้มบุญมีโอกาสที่จะเกิดครรภ์เป็นพิษ ตกเลือด หรือคลอดก่อนกำหนด สูงกว่าการตั้งครรภ์ทั่วไป
ผลกระทบทางจิตใจ อาจเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดจากการแยกจากทารกที่อุ้มมาเป็นเวลาหลายเดือน
อันตรายของตลาดมืดและการอุ้มบุญผิดกฎหมาย
มีรายงานข่าวหลายกรณีที่หญิงไทยถูกล่อลวงไปยังต่างประเทศเพื่อขายไข่หรือรับอุ้มบุญโดยไม่ได้สมัครใจ ตลาดมืดเหล่านี้มักขาดมาตรฐานทางการแพทย์และเต็มไปด้วยความเสี่ยง เช่น การใช้ยากระตุ้นไข่อย่างไร้การควบคุม เพื่อให้ได้จำนวนไข่มากที่สุด อาจมีการใช้ยากระตุ้นฮอร์โมนเกินขนาด ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OHSS)
ค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม หญิงที่ถูกล่อลวงมักได้รับค่าตอบแทนต่ำกว่าที่ควร หรือถูกเอาเปรียบ โดยไม่ได้รับการดูแลเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการกระตุ้นไข่หรือการตั้งครรภ์
ความเสี่ยงทางกฎหมาย การอุ้มบุญที่ผิดกฎหมายอาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดี มีโทษจำคุก การกักขังและบังคับควบคุม ผู้หญิงที่ตกเป็นเหยื่ออาจถูกยึดพาสปอร์ต บังคับให้ทำตามคำสั่งของนายหน้า หรือถูกกักขังในสถานที่ที่ไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้
ความเสี่ยงจากการค้ามนุษย์ หญิงที่ถูกล่อลวงอาจถูกพาไปยังประเทศที่ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง ทำให้ตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดอำนาจต่อรอง เสี่ยงต่อการถูกบังคับใช้แรงงานหรือการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ
ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจขายไข่หรืออุ้มบุญ
แพทยสภาขอเตือนให้ ประชาชนพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเข้าร่วมกระบวนการเหล่านี้ เพราะผลกระทบต่อสุขภาพและจิตใจอาจรุนแรงกว่าที่คิด การตัดสินใจควรตั้งอยู่บน ข้อมูลที่ถูกต้อง คำแนะนำจากแพทย์ และมาตรฐานทางกฎหมาย สำหรับผู้ที่ต้องการมีบุตรผ่านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาต และปฏิบัติตามแนวทางทางการแพทย์และกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อปกป้องสิทธิของทุกฝ่าย
แม้ว่าการบริจาคไข่และการอุ้มบุญอาจถูกมองว่าเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ผลกระทบต่อสุขภาพและข้อกฎหมายอาจรุนแรงกว่าที่คาดคิด แพทยสภาตระหนักถึงความยากลำบากและแรงกดดันที่ผลักดันให้หลายคนพิจารณาทางเลือกนี้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกท่านไตร่ตรองอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อปกป้องสุขภาพและสิทธิของตนเอง
สุขภาพของท่านมีค่าเกินกว่าที่จะแลกเปลี่ยนกับความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่ออนาคต โปรดให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของตนเองเป็นอันดับแรกเสมอ
บทความโดย
ศ.คลินิก นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ กรรมการแพทยสภา
และ อดีตประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี