ความจริงของชีวิต ผมอยู่ “แนวหน้า” มาตลอด บนเส้นทางการเปลี่ยนประเทศไทย จากเหตุการณ์เล็กๆ ไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ 14 ตุลาคม 16 อันยิ่งใหญ่ของประชาชนไทย
เริ่มต้นจากการเป็นกรรมการชมรมสังคมศึกษาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพญาไท รุ่น 2508 เมื่อข้ามฟากมาเรียนที่รั้วของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในคณะวิศวะกรรมศาสตร์จุฬา รุ่น 251 เรียนมากกว่าคนเรียนเก่งที่เรียน 4 ปีจบ โดยเรียนถึง 6 ปี เพราะรวมทั้งการทำกิจกรรมทั้ง 6 ปี ระบบอาวุโส Sotus = Seniority Order Tradition Unity & Spirit ให้อะไรเยอะ “เทิดทูนสถาบัน เคารพรุ่นพี่ รักเพื่อนและดูแลรุ่นน้อง” ที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน
เริ่มทำกิจกรรมความรู้ที่ชมรมวิชาการวิศวะจุฬาฯ ผลิตตำราราคาถูกจำหน่ายแก่บุคคลทั่วไป เป็นตัวแทนคณะวิศวฯ ไปร่วมกับสโมสรนิสิตจุฬาฯ “สังเกตการณ์เลือกตั้งกทม.2512” ออกนอกคณะไปร่วมงานชมรมปาฐกถาและโต้วาที ชมรมค่ายอาสาสมัครจุฬา ฯลฯ นำนิสิตรุ่นน้องออกจำหน่ายดอกป๊อปปี้ วันทหารผ่านศึก สมัยคุณหญิงจงกลนี กิตติขจร
ทำกิจกรรมต่างๆ มากมายในจุฬาฯ และมีโอกาสไปอยู่สวนโมกข์กับท่านพุทธทาสร่วมเดือนโดยไปกับ ดร.ระวี ภาวิไลและครอบครัว ได้อะไรมากมายเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของพระดีแท้
ไปร่วมงานค่ายสจม.และไปค่ายนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม ที่จ.นราธิวาส อยู่ร่วมเดือน เริ่มการเมืองระดับมหาวิทยาลัย เมื่อร่วมกับนายฉันท์แก่นและนิสิตจุฬาฯ กรณีคอร์รัปชั่นจุฬาฯ
ต่อด้วยการต่อต้านสินค้าญี่ปุ่นและรณรงค์ผ้าดิบกับนิสิตวิศวฯรุ่นน้องนาม ธีรยุทธ บุญมี
และในที่สุดจากกิจกรรมที่ทำมาทั่วคณะและจุฬาฯ จึงได้รับการคัดเลือกสมัครอุปนายกสจม.ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนท่วมท้น และได้ทำหน้าที่นายกสโมสรจุฬาฯเกือบตลอดปี 2514
และได้ร่วมกิจกรรมของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยที่มีธีรยุทธ เป็นเลขาธิการ
แม้สมัยเป็นซีเนียร์อาวุโส (ปี 2515) ก็ได้ร่วมกับนิสิตรุ่นน้องในการทำกิจกรรมเกี่ยวกับวิศวฯ โดยเรียกร้องเงินทุนวิศวฯ 5,000 บาทคืน เพราะครม. ไม่สามารถหางานให้นิสิตที่จบไปทำได้ และการเรียกร้องให้มีการสงวนอาชีพวิศวฯ ให้แก่คนไทย ในยุคเริ่มต้นที่ต่างชาติเริ่มมีอิทธิพล
l ความประทับใจ ที่ติดแนบแน่นมากับหัวใจ คือ การได้กราบลงบนพื้นถนน ขณะรถยนต์พระที่นั่ง ของในหลวงและสมเด็จฯ ได้เสด็จฯทรงดนตรีที่หอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะนายกสโมสรนิสิตจุฬาฯ ได้ร่วมงานในหลวงเสด็จฯต้อนรับอาคันตุกะจากประเทศอินเดีย รวมทั้งการเป็นตัวแทนนิสิตจุฬาฯร่วมโต๊ะเสวยกับควีนอลิซเบธและดยุคแห่งอังกฤษเสด็จจุฬาฯ
l แล้วชีวิตก็ดำเนินไปตามบทเพลงเสียงเพรียกจากประชาชนจากการรับราชการที่กทม.ได้ทำนามบัตรชื่อ นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ที่ห้อยท้ายด้วยคำว่า “ข้าราชการของประชาชน” ได้ร่วมกับอ.ธีรยุทธ บุญมี พี่ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพชร อ.ทวี หมื่นนิกร พี่ไขแสง สุกใส ฯลฯ ก่อตั้งกลุ่มและเป็นหนึ่งใน 13 กบฏเรียกร้องรัฐธรรมนูญของเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ในยุคของดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เลขาธิการศนท.และ ดร.ประสารไตรรัตน์วรกุล นายกฯจุฬา และยังคงดำรงฐานะราษฎรเต็มขั้นทำงานในภาคประชาชน-พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย
จนเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก็ได้เดินทางสู่ชนบท ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไทยต่อไป ในนามของ “กป.ปช.” คณะกรรมการประสานผู้รักชาติรักประชาธิปไตยแห่งประเทศไทยแต่ไม่สำเร็จ จึงกลับออกมาจากป่า คืนสู่เมือง ทำงานอาชีพวิศวฯ สร้างถนน โรงเหล้า ฯลฯ ร่วมก่อตั้ง “กลุ่มเพื่อนพ้องน้องพี่”ดูแลเพื่อนมิตรและน้องๆ ที่ผิดหวังกันมา ให้พักตัวฟื้นใจใหม่
ได้ร่วมในเหตุการณ์ 17 พฤษภา 2535 แล้วเข้าร่วมกับพรรคพลังธรรม ทำงานตามอุดมคติ เมื่อคราพรรคพลังธรรมร่วมรัฐบาล ก็ได้ทำงานเป็นที่ปรึกษารมว.อุตสาหกรรม-ไชยวัฒน์สินสุวงศ์ ร่วมขบวนการธงเขียวเรียกร้องรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 แต่ก็ถูกแทรกแซงทางการเมือง โดยนายทุนสามานย์ที่เข้ามาเป็นเจ้าของพรรคทางลัด ซื้อเสียงซื้อสส. ซื้อพรรคจัดตั้งรัฐบาล
จึงได้ร่วมออกโรงคัดค้าน “ระบอบเผด็จการรัฐสภาพรรคการเมืองทุนสามานย์ ทักษิณ” ร่วมกับ พธม.-พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปี 2548-2551 และ กปปส.ปี 2556-2557 จนถึงเหตุการณ์ 22 พ.ค. 2557 จนมาถึงปัจจุบันในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ และรัฐธรรมนูญมีชัย ฉบับลงประชามติ 7 สิงหาคม 2559
l บทสรุปจากการผ่านการเมืองไทยมา ร่วม 40 ปี อุปสรรคที่ขวางทางประชาธิปไตยไทย คือ
1.ระบบโครงสร้างของสังคม ที่เหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมคนส่วนน้อยได้ประโยชน์จากคนส่วนใหญ่
2.คุณภาพประชาชนไทยต่ำ ที่ไม่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากนักการเมืองข้าราชการและนายทุน
l งานใหญ่ทั้งสองนี้ ต้องได้รับการสร้างสรรค์และพัฒนาไปด้วยกันตลอดเส้นทางไปสู่ประชาธิปไตย โดยต้องมีผู้นำและกลุ่มคนที่หลากหลายมีพลังในการสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลง อย่างเอาจริงแน่วแน่
เป็นบทบาทของแนวหน้าและแนวหลัง ที่จะต้องสามัคคีร่วมมือร่วมใจกัน เดินหน้าไปด้วยกัน
นี่คืองานแนวหน้า ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม ต้องการคิด-ทำจริง “Change with คิด & ทำ”
l วันนี้ได้มาสู้ “แนวหน้า” อีก เป็นหนังสือพิมพ์ที่นำความคิด เพื่อการเปลี่ยนแปลงไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี