วันอาทิตย์นี้ก็จะเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เป็นวันมหาปวารณาออกพรรษา ซึ่งพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนาจะกระทำพิธีปวารณาว่า ซึ่งได้อยู่จำพรรษามาตลอดฤดูฝนตามพระวินัยนั้นบัดนี้การจำพรรษาจะครบกำหนดจำพรรษาในราตรีนี้แล้ว และถึงกาลออกพรรษาแล้ว
ก็ต้องทำความเข้าใจตรงนี้ว่า แม้จะเป็นวันครบกำหนดออกพรรษา แต่พระวินัยบัญญัติให้พระสงฆ์ออกพรรษาได้ในเวลาอุทัยของวันรุ่งขึ้น นั่นคือในเวลาที่สามารถมองเห็นลายมือได้ด้วยแสงธรรมชาติ ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 หากพระภิกษุรูปใดออกพรรษาก่อนวันเวลาดังกล่าว ก็ต้องถือว่าแหกพรรษาและผิดพระวินัย ไม่สามารถรับอานิสงส์แห่งการเข้าพรรษาได้
ประเพณีการออกพรรษามีมาแต่ครั้งพุทธกาล ซึ่งต่อเนื่องจากประเพณีการเข้าพรรษาซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติเป็นพระวินัยไว้ทั้งสองห้วงเวลา
เวลาแรกคือการเข้าพรรษา ซึ่งพระภิกษุจะต้องเข้าพรรษาในวันถัดไปหลังจากพระจันทร์เพ็ญในกลุ่มดาวอาสาฬหะ หรือกล่าวให้เข้าใจง่ายก็คือตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 เป็นต้นไป โดยมีข้อยกเว้นซึ่งมีพระพุทธานุญาตไว้ตามที่มหาราชเจ้าแห่งแคว้นมคธได้ขออนุญาตไว้ นั่นก็คือถ้าภิกษุใดมีกิจอันจำเป็น ไม่สามารถเข้าพรรษาได้ในวันดังกล่าว ก็อาจปวารณาเข้าพรรษาในเวลาถัดไปได้ 15 วัน ซึ่งหมายความว่าสามารถเข้าพรรษาได้ในอีกห้วงเวลาหนึ่ง ในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9
ดังนั้นเมื่อว่าตามพระวินัยดังกล่าว วันเข้าพรรษาในพระพุทธศาสนาจึงมี 2 วัน คือวันเข้าพรรษาหน้า ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8
เป็นต้นไป และวันเข้าพรรษาหลังคือ วันขึ้น1 ค่ำ เดือน 9 เป็นต้นไป
เวลาที่สองก็คือเวลาออกพรรษา สำหรับภิกษุที่เข้าพรรษาในวันเข้าพรรษาหน้าก็จะออกพรรษาในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ส่วนภิกษุที่เข้าพรรษาในวันเข้าพรรษาหลังก็จะออกพรรษาในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 12
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ทรงเข้าพรรษาและออกพรรษาตามพระวินัยเช่นเดียวกัน และในโพธิกาลนั้นมีอยู่พรรษาหนึ่งที่มีความระบุในพระไตรปิฎกว่าพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จไปโปรดพระพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์และจำพรรษาอยู่ที่ดาวดึงส์นั้น ครั้นถึงกาลออกพรรษาพระพุทธองค์ก็เสด็จกลับสู่มนุษย์โลก ที่เมืองสังกัสสะ ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของประเพณีทำบุญออกพรรษามากมายหลายประเพณี
แต่ก็จะมีรูปแบบตรงกันคือมีการแห่พระพุทธรูปปางลีลา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ทำบุญตามแบบแผนที่เป็นประเพณีปฏิบัติสืบมา ดังเช่นในพื้นที่ภาคใต้ ก็จะเป็นประเพณีชักพระ ที่มีการแห่พระพุทธรูปไปตามถนนหรือลำน้ำ ประดับประดารถหรือเรืออย่างวิจิตรงดงาม และมีบรรดาผู้คนชักหรือแห่เรือพระหรือรถทรงพระนั้นไปรอบบ้านรอบเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลของคนทั้งหลาย
ในภาคเหนือหรือภาคอีสานก็มีประเพณีออกพรรษาที่ปฏิบัติกันมาช้านานแล้วเช่นเดียวกัน
ซึ่งแม้จะแตกต่างกันไปตามพื้นที่ แต่สิ่งที่เหมือนกันทั่วประเทศก็คือในเทศกาลเข้าพรรษานั้นชาวพุทธส่วนใหญ่ก็จะน้อมใจตั้งใจที่จะกระทำการหรืองดเว้นกระทำการบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งเป็นไปในทางที่ดี เช่น การเว้นจากการเล่นการพนันหรือเสพสุรา หรือเว้นจากการล่วงละเมิดศีลทั้งห้า เป็นต้น
ดังนั้นเทศกาลเข้าพรรษาจึงเป็นเทศกาลของการคิดดี พูดดี ทำดี ซึ่งชาวพุทธส่วนใหญ่ของประเทศก็ได้ปฏิบัติกันมากบ้าง น้อยบ้าง ตามกำลังศรัทธามุ่งมั่นของแต่ละคน
ดังนั้นครั้นถึงกาลออกพรรษา บางครั้งแทนที่จะอิ่มเอิบในคุณงามความดีที่ปฏิบัติมาตลอดกาลพรรษา ก็กลับคิดเสียว่าทำความดีมาตลอดเทศกาลเข้าพรรษาแล้ว เมื่อออกพรรษาก็ออกจากความดีไปเสียด้วย
คือประพฤติผิด พูดผิด ทำผิดอย่างไรมาแต่ก่อน ก็จะกลับไปทำผิดเช่นนั้นอีก ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย
ที่น่าเสียดายก็เพราะว่า การอบรมกายและใจตลอดเวลาช่วงเข้าพรรษานั้น ไม่ได้ผลชะงัดตามที่ควรจะเป็น หากมีฐานะเป็นเพียงแค่เอาก้อนหินทับต้นหญ้าไว้ก็เพียงแค่ชะลอการงอกงามไว้ระยะเวลาหนึ่ง ครั้นยกเอาก้อนหินนั้นออกไป หญ้านั้นก็จะงอกงามตามเดิมอีก
เมื่อเป็นเช่นนั้นอานิสงส์ของการประพฤติปฏิบัติดีในช่วงเข้าพรรษาก็หมดสิ้นไป และบางครั้งเกิดวิบากหนักกว่าที่คาดคิด ถึงขั้นเสียชีวิต เจ็บป่วย ทุพพลภาพก็มีให้เห็นอยู่ถมไป
พรุ่งนี้ก็จะถึงวันออกพรรษาแล้ว จึงควรที่ชาวพุทธทั้งหลายจะได้สังวรไว้ว่า ได้ประพฤติปฏิบัติดีมาตลอดกาลเข้าพรรษาแล้ว พึงรับเอาอานิสงส์แห่งการประพฤติปฏิบัติดีนั้นให้บังเกิดเป็นความดีความงามความเจริญรุ่งเรืองของชีวิต ดีกว่าที่จะตัดรอนให้สิ้นไปเสีย
ออกพรรษาก็ออกไป ให้ออกไปเฉพาะวันเวลาที่เทศกาลเข้าพรรษาหมดลง แต่จะไม่ออกจากความดีความงามที่ได้ฝึกฝนอบรมตนมาตลอดห้วงพรรษาและพึงทำให้เป็นบาทฐานหรือความคุ้นชินที่จะประพฤติปฏิบัติดีสืบไป ก็จะเป็นมงคลแก่ชีวิตและจะทำให้ชีวิตนี้มีความสวัสดีสืบไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี