ทำอย่างไรจึงจะได้การเมืองที่มีธรรมาภิบาลหลังการเลือกตั้งใหญ่      

เรียน คุณวิภาวดีฯ ที่นับถือ

นักการเมืองต้องการแต่การเลือกตั้ง ไม่สนใจว่า หลังเลือกตั้งแล้ว ประเทศชาติจะเป็นอย่างไร นักการเมืองสนใจแต่ผลประโยชน์ตัวเอง เฉพาะเรื่องพวงเล็กพวงใหญ่ยังบังคับให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญปี’๕๐ สมัยนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯนั้น เป็น“ตราบาป”ของวงการเมือง เพราะความต้องการจะเปลี่ยนระบบเลือกตั้งจากพวงใหญ่เป็นพวงเล็กนั้น เป็นความต้องการของมังกือสุพรรณที่ยื่นคำขาดให้ปชป. ทำให้ปชป.ต้องบังคับเอามติครม.มาเป็นมติพรรค โดยให้เหตุผลว่า ถ้าไม่ยอมก็ไม่สามารถเล่นการเมืองต่อไปได้ ซึ่งผมอยากถามเหมือนกันว่า ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว “เล่นการเมืองเพื่อใคร” ถึงไม่ถามก็ได้คำตอบเพราะประวัติศาสตร์การเมืองไทย๘๔ ปี บ่งบอกแล้ว โดยมีเสาโฮปเวลล์,บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน,โรงพัก,ศูนย์โอท็อป,สนามกีฬาฯ ที่เป็นประจักษ์พยานถึงการทุจริตคอร์รัปชั่น

เผือกร้อนลูกล่าสุดคือ รถเมล์เอ็นจีวี ที่ยังหาทางออกไม่ได้ ทั้งๆ ที่ติดป้ายโฆษณาว่านายกฯจะนั่งประเดิมวันที่ ๒๑ ธ.ค.ที่ผ่านไป นัยว่าจะช่วยแก้ปัญหาประชาชนยากจนที่ไร้ความสามารถนั่งรถไฟฟ้าสารพัดสีมีชัย ที่ค่าโดยสารแพงระยับ นัยว่าการขนส่งระบบรางของประเทศไทยนั้นมีเพื่อ“ไฮโซ”เท่านั้น เพราะดูเหมือนไม่ว่าแก้ไขอย่างไรก็ลูบหน้าปะจมูก ลำพังภาษีที่เพิ่มขึ้นเพราะเป็นรถที่ผลิตในประเทศจีนทั้งคัน มิใช่นำมาประกอบในมาเลย์ ดังนั้นผู้นำเข้าก็ต้องชำระภาษีในอัตราที่สูงขึ้นแล้วยังมีค่าปรับอีก ทำให้กำไรหด ส่วนแบ่งขนมเค้กคงไม่เหลือ แต่เรื่องสำคัญคือ“รายละเอียดครุภัณฑ์”ที่ระบุว่าเป็นรถที่ผลิตในประเทศจีน แล้วนำมาประกอบในมาเลเซีย ดังนั้นถึงเคลียร์เรื่องภาษีได้ ก็ยังมีปัญหาสำหรับกรรมการตรวจรับ เพราะเมื่อ“สเปก”ระบุเป็นรถที่ผลิตในจีน แต่นำมาประกอบในมาเลเซีย ดังนั้นถ้ามีการลงนามรับรถเมล์เอ็นจีวีเมื่อใด ก็ต้องเกิดปัญหาแน่นอน เพราะผิดข้อกำหนดซึ่งจะถือเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติต่อไป

ความผิดพลาดเรื่องรถเมล์เอ็นจีวี มิใช่“บกพร่องโดยสุจริต”แน่นอน เพราะเป็นแผนการปฏิบัติ แต่ที่ผิดพลาดเพราะ“นายกินมากแต่จ่ายน้อยแบบ ๒๐:๘๐”แล้วยังมีกิโยตินรออยู่ ทำให้ข้าราชการกรมสรรพากรไม่กล้าปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปเพราะถ้ามีการรื้อฟื้นผู้อนุมัติให้นำรถเข้าประเทศได้ ก็จะต้องเป็น“แพะรับบาป” เรื่องรถเมล์เอ็นจีวีสามารถชี้อนาคตการเมืองหลังเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นได้แน่ เพราะในเมื่อประชาชนไร้คุณภาพ ดังนั้นประชาธิปไตยก็ไร้คุณภาพเช่นกัน อำนาจที่ว่าเป็นของประชาชนนั้น แท้จริงแล้วเป็นของนักการเมืองและนายทุน(การเมืองโสมมเพราะธุรกิจทุนนิยมสามานย์) ถึงจะอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยเพียง ๕๐% ก็ตาม ก็ในเมื่อมีประชาธิปไตย ๐% ยังเกิดปรากฏการณ์รถเมล์เอ็นจีวีซึ่งคงจะเชื่อได้ยากว่า ไม่มีผู้มีอำนาจในรัฏฐาธิปัตย์เกี่ยวข้อง ดังนั้นถ้ามีนักการเมืองที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนเข้ามามีส่วนร่วมในอำนาจรัฏฐาธิปัตย์แล้ว จะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้มากขึ้นหรือ?      

และไม่ใช่รถเมล์เอ็นจีวีเรื่องเดียว เรื่องทุจริตสอบนายสิบตำรวจก็ยังอุ่นๆ ส่วยเคลียร์เส้นทางหรือนายทุนปล่อยกู้ดอกเบี้ยมหาโหดที่ว่ากันว่ามีอิทธิพล“สี”เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเมื่อนำเรื่อง“ปฏิรูปมาคลุกรวมกับปรองดอง”เท่ากับผสมน้ำกับน้ำมัน” ดังนั้นทรราชและสมุนที่กระทำความผิดแล้วไม่ยอมรับผิดก็จะได้ประโยชน์ ซึ่งเชื่อแน่“สันดาน”เปลี่ยนไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูป จึงไร้ประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะทุกอย่างจะเหมือนเดิม ความเลวทรามทางการเมืองจะค่อยๆ กลับมาหลอกหลอนประชาชน สมมุติประชาชนเกินครึ่งประเทศต้องการถวายพระราชอำนาจกลับคืนให้พระมหากษัตริย์เพราะไม่ต้องการให้การเมืองทรราชกลับมามีอำนาจอีก ประเทศไทยจะเป็นเช่นไรเพราะการเมืองไร้ธรรมาภิบาล การเมืองที่แสวงหาประโยชน์ มีแต่จะพาชาติล่มจม     

ปัญหาใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณสมชายลงจากหลังเสือ เมื่อรัฐธรรมนูญเทอำนาจให้อำนาจบริหารมากจนเสียดุลอำนาจ และประชาชนไม่มีส่วนร่วมถ่วงดุลอำนาจ ถ้าอำนาจรัฏฐาธิปัตย์ต่อจากคุณสมชายไร้ธรรมาภิบาล ทางออกเดียวก็คือ“รัฐประหาร” ซึ่งก็จะเกิดขึ้นได้เพราะอำนาจทหารอย่างเดียว ที่เมื่อได้อำนาจแล้วก็ ใช้ไม่เป็น และเพราะทหารถูกสั่งสอนมาให้ทำตามอย่างเดียว ดังนั้นถ้าสั่งสิ่งที่ถูกต้อง ก็แก้ปัญหาได้ฉับไว แต่ถ้าสั่งไม่ถูก ก็วุ่น ดังนั้นถ้าจะตัดวงจร “การเมืองโสมมกับรัฐประหาร” ก็ต้องทำให้ประชาชนมีคุณภาพ(ใฝ่หาความรู้ที่แท้จริง,มีวินัย,รักชาติ)และสร้างการถ่วงดุลอำนาจที่มีประสิทธิภาพ ตราบใดที่ประชาชนไร้คุณภาพ ประชาธิปไตยก็ไร้ประโยชน์ เช่นเดียวกับเผด็จการไร้ธรรมาภิบาล ดังนั้นคุณภาพประชาชนและธรรมาภิบาลของผู้ครอบครองอำนาจ จึงจำเป็นต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ครับ

นายบ๊อง

ตอบ นายบ๊อง

แล้วจะทำไงให้ประชาชนมีคุณภาพ จะปฏิรูปแบบไหนให้ประชาชนมีคุณภาพ เพราะเท่าที่ดูแนวทางปฏิรูปในเวลานิ้ ความหวังก็ชักจะริบหรี่เข้าไปทุกทีแล้ว

วิภาวดี หลักสี่

p p p

ส่ง บก.หนังสือพิมพ์แนวหน้า

“เด็กๆ ในวันเด็ก”

เด็กเด็ก เล็กจำคำขวัญ เด็กเด็กเช็คกันท่านให้

นิยมคำคม นำใจ เด็กไทย ใฝ่ดีวิชา

วันเด็ก เด็กดี มีครู รักรู้ หนูเรียน เขียนหา

อ่านกันหมั่นเพียรเรียนมา ต้องกล้า อย่าท้อ ต่อไป

รู้บุญคุณแม่และพ่อ เติมต่อ ขอพร วอนไว้

ขยัน ขยับ ปรับใจ ก้าวไกล ใช้กัน ปัญญา

เด็กดี ศรีชาติ มาดมุ่ง ชาติรุ่งเรืองแท้ แน่หนา

หากเด็กฉลาด ปราชญ์มา อนาคตดี มีจริง

เด็กนั้น วันนี้ ไกลใกล้ ผู้ใหญ่ วันหน้า ดียิ่ง

คิดดี มีศีล พึ่งพิง อย่าทิ้ง เด็กไทยทั่วแดน...นะจ๊ะ

ฮัจยี สมศักดิ์ บุญมาเลิศ

ประธานชมรมนักกลอนบึงกุ่มวรรณศิลป์ กทม.

p p p

เรียน บก.แนวหน้า

--สอนเด็กด้วยแบบอย่างที่ดีเถิด--

คำขวัญนายกฯให้“เด็กไทย ใส่ใจศึกษา พาชาติมั่นคง”

หนูหนูจำไว้ทำได้ยืนยง สืบทอดเผ่าพงศ์อนาคตไกล

แต่ผู้ใหญ่ไซร้ควรเป็นตัวอย่าง อย่ามัวแต่สร้าง“ด่างพร้อย”กันไป

เรื่องฉาวเรื่องเน่ารีบล้างเร็วไว อย่าได้ปล่อยให้เด็กเห็นตำตา

เด็กเด็กผ้าขาวที่พร้อมซึมซับ พร้อมที่จะรับทำตามวาจา

แต่ถ้าแบบอย่างกลับแย่หนักหนา สิ่งที่บอกมาย่อมพาสับสน

หนูหนูก็คงต้องตั้งคำถาม เหตุใดทำทรามจนเสื่อมค่าคน

ผู้ใหญ่วันนี้อย่าเอาแต่บ่น รีบแก้ที่ตนก่อนสอนเด็กเอย

คนเคยเด็ก

wvvipawadee1@gmail.com