คณะรัฐมนตรีเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นชอบโครงการก่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานครซึ่งใช้งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้น 4,621ล้านบาท ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนบางกลุ่มทั้งทางโซเชียลมีเดียและการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนที่พยายามต่อต้านโครงการนี้ ซึ่งข้อมูลหลายประเด็นไม่ตรงตามข้อเท็จจริงสร้างความสับสนต่อสาธารณชนเป็นอย่างมาก
ความสับสนในข้อมูลโครงการก่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานครส่วนหนึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเกิดจากความผิดพลาดและไม่ชัดเจนในการแถลงข่าวของทีมโฆษกรัฐบาลจนนำไปสู่เสียงวิพากษ์วิจารณ์โดยเฉพาะในเรื่องงบประมาณที่ก่อสร้างโดยทีมโฆษกรัฐบาลแถลงว่าใช้งบประมาณทั้งสิ้น 7,621 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ใช้งบประมาณจริงเพียง 4,621 ล้านบาท รวมทั้งความไม่ชัดเจนในเรื่องเหตุผลที่ไม่ต้องมีการประมูลโครงการ
ทั้งนี้ที่ดินเนื้อที่ 4 ไร่เศษ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา เขตคลองสานที่จะก่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร เป็นของกรมธนารักษ์โดยเป็นที่ดินตาบอดไม่มีทางเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ ซึ่งที่ผ่านมาแม้กรมธนารักษ์จะเชิญชวนให้ภาคเอกชนมาเช่าที่ดินดังกล่าวแต่ภาคเอกชนไม่มีใครสนใจจนถูกทิ้งร้างมานานโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ จนกระทั่งรัฐบาลปัจจุบันดำเนินนโยบายประชารัฐที่เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนทำให้มีการเจรจาและตกลงให้ภาคเอกชนเช่าที่ดินดังกล่าวเป็นระยะเวลา 30 ปี เพื่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร
โครงการก่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานครรัฐไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดินแม้แต่บาทเดียวจึงไม่ต้องมีการประมูล โดยภาคเอกชนจะเป็นผู้ลงทุนการก่อสร้างทั้งหมดมูลค่า 4,621 ล้านบาทซึ่งเมื่อก่อสร้างเสร็จจะตกเป็นสมบัติของแผ่นดินโดยที่จะมีการตั้งมูลนิธิเพื่อบริหารจัดการ ทั้งนี้หอชมเมืองจะไม่มีการนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่จะนำรายได้จากค่าบัตรผ่านประตูไปใช้เพื่อประโยชน์ทางสังคมเท่านั้น
สำหรับหอชมเมืองกรุงเทพมหานครจะกลายเป็นแลนด์มาร์คจุดน่าสนใจของกรุงเทพมหานครและประเทศไทยที่จะดึงดูนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยภายในอาคารหอชมเมืองจะแสดงประวัติของบรรพกษัตริย์ของไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับศาสตร์ของพระราชาในด้านต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติได้เข้าใจถึงความเป็นชาติไทย
หอชมเมืองกรุงเทพมหานครซึ่งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและถูกออกแบบเป็นเลข “9” จะมีความสูงถึง 456 เมตร ซึ่งสูงนับเป็นอาคารสูงที่สุด1 ใน 6 ของโลกทำให้สามารถชมทัศนียภาพของกรุงเทพเมืองฟ้าอมรอันงดงามในมุมกว้าง อีกทั้งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการระดมสถาปนิกและวิศวกรชั้นแนวหน้าของไทยรวมทั้งนักวิชาการและผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมออกแบบอาคารแห่งประวัติศาสตร์แห่งนี้
อย่างไรก็ตามเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าโครงการก่อสร้างหอชมเมืองกรุงเทพมหานครครั้งนี้จะเป็นการเอื้อประโยชน์แก่ภาคเอกชนทางอ้อมโดยสร้างติดกับอาคารศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ทั้งๆที่ความจริงไม่ควรมองในแง่ร้ายจนเกินไปเพราะแม้จะไม่มีโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ดังกล่าวก็จะต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยควรมองที่ผลประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับเป็นสำคัญโดยโครงการหอชมเมืองกรุงเทพมหานครจะเป็นหน้าตาของประเทศและส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศคิดเป็นมูลค่ามหาศาล เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อชมหอชมเมืองกรุงเทพมหานคร ย่อมจะต้องถือโอกาสท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ของไทยด้วย อันจะสร้างรายได้เข้าประเทศและกระจายไปในหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี