วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันพุธ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2561, 02.00 น.
คดียึด ‘ทีพีไอ’ กับชายชื่อ ‘ประชัย เลี่ยวไพรัตน์’

ดูทั้งหมด

  •  

จะขมขื่นเพียงไร หากครอบครัวของคุณเริ่มต้นก่อร่างสร้างตัวด้วยกิจการที่สุจริต แต่วันหนึ่งก็ถูกฮุบไป ด้วยกลไกอำนาจอันซับซ้อน ทั้งตรงและอ้อม ยากที่คุณจะต่อสู้ได้


10 กว่าปีที่ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ และครอบครัว พากเพียรต่อสู้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม กรณีถูกฮุบกิจการ “ทีพีไอ” โดยที่สังคมมีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ มีทั้งคนที่เห็นใจ และคนที่ด่าทอเขาสารพัด เพิ่งปรากฏแสงสว่างริบหรี่ที่ปลายอุโมงค์ขึ้น เมื่อนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2561 พนักงานคดี สำนักคดี สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แล้ว

คดีนี้สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2553 กรณีนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีอำนาจหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 จึงมีอำนาจกำกับและควบคุมกำกับหน่วยงานของรัฐในฝ่ายบริหารทั้งหมด

แต่ในปี พ.ศ. 2546 นายทักษิณ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้เห็นชอบและยินยอมให้กระทรวงการคลัง เข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (TPI) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าปรึกษา จนนำไปสู่การทำหนังสือยินยอมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้กระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (TPI) ซึ่งเป็นกิจการของเอกชน โดยมีรายชื่อ คณะผู้บริหารแผน ตามที่นายทักษิณ ชินวัตร เสนอ และกระทรวงการคลังได้เข้าไปเป็นผู้บริหารแผน

1) ต้องเข้าใจก่อนว่า ปมเหตุที่ทำให้ทีพีไอ ยักษ์ใหญ่ด้านปิโตรเคมีครบวงจรรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่สร้างขึ้นจากมือของตระกูล “เลี่ยวไพรัตน์” นำโดยพี่ใหญ่ชื่อ “ประชัย” ซึ่งกำลังโชติช่วงอย่างที่สุด ต้องล้มอย่างไม่เป็นท่าในเวลานั้น ไม่ได้เกิดจากการบริหารของเขา แต่เป็นผลกระทบอย่างหนักหน่วง ที่เกิดจากการบริหารงานผิดพลาดของรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2540 ส่งผลให้ภาระหนี้ของทีพีไอเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวอยู่ที่ 1.4 แสนล้านบาท จากเจ้าหนี้ราว 140 ราย ทีพีไอต้องเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ของศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2543 หลังจากเจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่สามารถเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ร่วมกันได้

2) วันที่ 15 ธันวาคม 2543 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งแต่งตั้งบริษัท เอ็ฟเฟ็คทีฟ แพลนเนอร์ส หรืออีพีแอล เป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการทีพีไอ โดยอีพีแอลพยายามตัดขายทรัพย์สินสำคัญของทีพีไอ ทั้งโรงไฟฟ้าและท่าเทียบเรือน้ำลึกเพื่อนำเงินมาชำระคืนหนี้ให้ได้ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอ้างว่าไม่ใช่ทรัพย์สินหลักที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกันก็ลดกำลังการกลั่นของทีพีไอลงเหลือ 6.5 หมื่นบาร์เรล/วัน เนื่องจากมีการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยต่างๆ จำนวนมาก จนทำให้กระแสเงินสดของทีพีไอมีปัญหาไม่มีเงินจัดซื้อน้ำมัน จนสร้างความเสียหายให้กับทีพีไอ

3) ต่อมามีการโต้แย้งว่า อีพีแอลไม่มีอำนาจในการเป็นผู้บริหารแผน เนื่องจากเป็นบริษัทต่างด้าว เป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนแค่ 2 ล้านบาท แต่มาเป็นผู้บริหารแผนฯลูกหนี้ที่มูลค่าทรัพย์สินนับแสนล้านบาท แถมมีการเสียภาษีไม่ถูกต้องด้วย นายประชัยซึ่งเป็นผู้โต้แย้งพยายามชี้ให้เห็นด้วยว่า เหตุที่อีพีแอลเร่งขายทรัพย์สินทีพีไอเพื่อคืนหนี้นั้น อีพีแอลหวังจะได้รับผลตอบแทนพิเศษหรือค่าคอมมิชชั่น 2% จากยอดขายสินทรัพย์ทีพีไอ หากสามารถตัดขายสินทรัพย์ได้

4) นายประชัยเดินหน้าต่อสู้โดยยื่นศาลล้มละลายกลางให้ปลดอีพีแอลพ้นจากการเป็นผู้บริหารแผนฯ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเดิมไว้จนในวันที่ 21 เม.ย. 2546 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งให้อีพีแอลพ้นจากการเป็นผู้บริหารแผนฯ เบ็ดเสร็จช่วงเวลาเพียง 2 ปี 3 เดือน ที่อีพีแอลเข้ามาบริหารฯ ทำให้ทีพีไอต้องสูญเสียเงินมหาศาลไปเกือบ 1.8 พันล้านบาท สูงกว่าค่าใช้จ่ายที่กำหนดไว้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ 5 ปี (2543-2547) ที่ระบุแค่ 1,364 ล้านบาท

5) แต่วิบากกรรมของทีพีไอไม่สิ้นสุดแค่นั้น ทันทีที่กระทรวงการคลังส่งตัวแทนเข้ามาเป็นผู้บริหารแผนฯทีพีไอแทนอีพีแอล โดยแต่งตั้ง พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา นายพละ สุขเวช นายทนง พิทยะ และนายอารีย์ วงศ์อารยะ เป็นคณะผู้บริหาร เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2546 ก็เกิดความไม่โปร่งใสขึ้น โดยผู้บริหารแผนฯได้ว่าจ้างบริษัท ซินเนอจี โซลูชั่น โดยมีการจ่ายเงินย้อนให้บริษัทดังกล่าวในช่วงวันที่ 11 ก.ค.2546-31 ส.ค. 2546 เป็นวงเงิน 33.89 ล้านบาท ขณะที่บริษัท ซินเนอจี จดทะเบียนตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2546 จนกลายเป็นคดีฟ้องร้องกันต่อมา

6) ที่ถูกต้องแล้ว กระทรวงการคลังควรส่งตัวแทนเข้ามาเพียงเพื่อเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยปัญหาเจ้าหนี้และลูกหนี้ ที่มีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ในฐานะที่กระทรวงการคลังเป็นองค์กรของรัฐ ต้องมีความโปร่งใสและเน้นธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ

7) แต่ข้อเท็จจริงกลับไม่ใช่เช่นนั้น เพราะตลอดระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน ที่คลังส่งตัวแทนเข้ามาเป็นผู้บริหารแผนฯทีพีไอ กระทรวงการคลังไม่ได้คำนึงสิทธิของผู้ถือหุ้นเดิมในการขอซื้อหุ้นเพิ่มทุนใหม่และส่วนทุนเดิมก่อนเป็นอันดับแรก แต่มีพฤติกรรมชัดเจนว่า มุ่งมั่นจะยึดกิจการแสนล้านของทีพีไอ

8) ภาพการเข้ายึดกิจการทีพีไอของระบอบทักษิณชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากพล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ได้เชิญ “ทักษิณ ชินวัตร” เดินทางมาดูอาณาจักรแสนล้านของทีพีไอที่จังหวัดระยอง ด้วยตัวเอง ซึ่งมีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า “ทักษิณ ชินวัตร” ต้องการยึดกิจการทีพีไอของนายประชัย เนื่องจากทักษิณกำลังเบนเข็มไปสู่การลงทุนในธุรกิจใหม่ เพราะธุรกิจทางด้านการสื่อสารที่เขาถืออยู่ เริ่มเข้าสู่ยุคการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ขณะที่ธุรกิจพลังงาน ถือว่าเป็นธุรกิจดาวรุ่งพุ่งแรง ในเวลานั้นจึงมีการใช้อำนาจรัฐ แปรรูป ปตท. เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ และว่ากันว่า เครือข่ายระบอบทักษิณ เข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จนกลุ่มทุนดังกล่าวได้เข้าไปกอบโกยผลกำไรจากหุ้น ปตท.จำนวนมหาศาล

9) วิเคราะห์กันอย่างหนักในเวลานั้นว่า เป้าหมายต่อไปของกลุ่มทุนการเมืองกลุ่มดังกล่าว คือเข้ายึดอาณาจักรทีพีไอ ในเบื้องต้นได้ส่งตัวแทนกระทรวงการคลังเข้ามาบริหารแผนฟื้นฟูกิจการฯ โดยลดทุนจดทะเบียนทีพีไอจากเดิม 78,489 ล้านบาท เหลือเพียง 7,843 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 2548 เพื่อล้างขาดทุนสะสม ขณะที่ภาระหนี้สินก็ปรับลดลง และในที่สุดก็เปิดทางให้กับพันธมิตรของกระทรวงการคลังเข้า “ปล้นกลางแดด” โดยซื้อหุ้นทีพีไอในราคาถูกแบบเทกระจาด 3.30 บาทต่อหุ้น ขณะที่หุ้นทีพีไอในตลาดฯอยู่ที่ 14-15 บาท และผู้ถือหุ้นเดิมเสนอซื้อในราคา 5.50 บาทต่อหุ้น แต่กระทรวงการคลังปฏิเสธขายหุ้นให้กับกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมอย่างไม่มีเยื่อใย!

โดยคลังได้ออกมาประกาศจัดสรรหุ้นทีพีไอในส่วนเพิ่มทุนใหม่จำนวน 11.65 หมื่นล้านหุ้น และหุ้นในส่วนทุนเดิมอีก 5.89 พันล้านหุ้น ให้กับพันธมิตรใหม่ คือ ปตท. สัดส่วน 31.5% ธนาคารออมสิน 10% กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 สัดส่วน 10% กบข. 10% ขณะที่เจ้าหนี้เดิมเหลือ 8.5% ผู้ถือหุ้นเดิม 20% ซึ่งกระทรวงการคลังในฐานะผู้บริหารแผนทีพีไอ ได้กำหนดสิทธิตนเองเป็นผู้จัดสรรและหาผู้ร่วมทุนแต่เพียงผู้เดียว โดยจัดสรรหุ้นให้กับผู้ร่วมทุนที่ตนเองถือหุ้นใหญ่ นับเป็นการกระทำที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างชัดเจนและอัปรีย์อย่างที่สุด

10) อย่างไรก็ตาม นายประชัยไม่ละความพยายาม ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อคณะกรรมาธิการการปกครอง วุฒิสภา เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2547 เพื่อเรียกร้อง ขอให้เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงในการเป็นผู้ทำแผนฯของอีพีแอลและตัวแทนกระทรวงการคลัง ซึ่งสร้างความเสียหายต่อทีพีไอที่เป็นบริษัทเอกชนอย่างหนักหน่วง

หลังกรรมาธิการตรวจสอบแล้ว ได้ส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาหาข้อเท็จจริง จน ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดว่า การกระทำของนายทักษิณ เป็นการกระทำทั้งที่รู้อยู่ว่ากระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นส่วนราชการ ไม่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่จะเข้าไปเป็นผู้บริหารแผนกิจการหรือจัดการทรัพย์สินให้กับบริษัทเอกชน เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่กระทรวงการคลังและเสียหายต่อระบบราชการ จึงเป็นความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และได้ส่งอัยการสูงสุดดำเนินคดี ต่อมาได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานผู้แทนฝ่ายอัยการสูงสุดและฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขึ้นมาเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานร่วมกัน แต่คณะทำงานดังกล่าว ไม่อาจหาข้อยุติเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีได้

11) จำเนียรกาลผ่านมา จนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มอบหมายให้พนักงานคดี สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการยื่นฟ้องเองต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นคดีหมายเลขดำที่ อม. 40/2561 โดยคดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ยื่นฟ้องพร้อมคำร้องขอให้ศาลประทับรับฟ้องไว้พิจารณา กรณีไม่ปรากฏตัวจำเลยต่อหน้าศาลด้วย โดยอาศัยเหตุตามเงื่อนไขการยื่นฟ้องโดยไม่ปรากฏตัวจำเลยต่อหน้าศาล ตามนัยมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 เนื่องจากจำเลยไม่มารายงานตัวและศาลได้เคยออกหมายจับในคดีอื่นไว้แล้ว

รอดูกันต่อไปครับ ว่าท้ายที่สุด ศาลท่านจะพิจารณาอย่างไร

แต่อย่างน้อย การต่อสู้ของนายประชัย ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เขาต่อสู้นานนับ 10 ปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตัวของเขา แต่สู้เพื่อให้ “ความถูกต้อง” ปรากฏ

กรณีนี้ หากศาลรับไว้พิจารณา และหากในภายภาคหน้า ศาลท่านเกิดตัดสินว่าทักษิณทำผิด แล้วจะเป็นช่องทางใดๆ ที่จะนำไปสู่ความเป็นธรรมในการเรียกคืนกิจการกลับมา ก็น่าจะถูกต้องและเป็นธรรมกับครอบครัว “เลี่ยวไพรัตน์” แล้ว

ใครไม่เป็นเขาคงไม่รู้หรอกว่า ทุกข์ที่ผ่านมา หนักหนาแค่ไหน

ความเห็นใจไม่มีไม่เป็นไร แต่ความเป็นธรรมที่ตระกูล “เลี่ยวไพรัตน์” พึงมีพึงได้ ก็ขอให้เขาได้รับเสียทีเถิดหนา...สาธุ!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:21 น. เฟ้นหาแชมป์ภาคเหนือ! บาสเกตบอล3X3แชมป์กีฬา7HD
13:09 น. 'เมย์-วิว'ไม่พลาด! 'บาส-เฟม'ชนมือหนึ่งก่อนรองสิงคโปร์ฯ
13:04 น. ผู้สมัครนายกฯเทศบาล ต.ดำเนินสะดวก บุกร้องกกต.ค้านผลเลือกตั้ง หลังพบพิรุธ'บัตรเขย่ง'
12:57 น. '​อุ้ม ลักขณา'ไขข้อข้องใจ! ทำไมยังไม่เปิดหน้าแฟนออกสื่อ
12:55 น. จังหวะโบ๊ะบ๊ะ! 'วิโรจน์'หันไมค์มาเข้าทางปาก'ไอซ์ รักชนก'หลุดสบถ'เฮีย' หลังรู้ตัวคนเปิดคลิปเสียงแทรก
ดูทั้งหมด
‘หมอวี’ฉายภาพระบบสาธารณสุข อีก 3 ปีพัง ‘รักษาฟรี’อาจเหลือแค่ในความทรงจำ
‘เซเลบผ้าท้องถิ่น’จัดหนัก! ถล่ม‘อิ๊งค์’ไร้กาลเทศะ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติการทูต
'อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ'ชี้ ลำดับเหตุการณ์ก็รู้ 'ใครรังแก อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์'
วงการแพทย์ทั่วโลกฮือฮา! ผลวิจัยชี้ยารักษาเบาหวาน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
สะพัด!‘อิ๊งค์’รับมือไม่ไหว รัฐบาลส่อแตกหัก จับตาก่อน 13 มิ.ย.เขี่ยทิ้ง‘ภูมิใจไทย’
ดูทั้งหมด
รัฐบาลโจรปล้นชาติ
หลักความเป็นตัวของตัวเองในเวทีระหว่างประเทศ
สู้ว้อย?
สำนักงานพระคลังข้างที่ สภาผู้แทนมติเอกฉันท์ 454 ต่อ 0 เสียง
บุคคลแนวหน้า : 29 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เฟ้นหาแชมป์ภาคเหนือ! บาสเกตบอล3X3แชมป์กีฬา7HD

'เมย์-วิว'ไม่พลาด! 'บาส-เฟม'ชนมือหนึ่งก่อนรองสิงคโปร์ฯ

'​อุ้ม ลักขณา'ไขข้อข้องใจ! ทำไมยังไม่เปิดหน้าแฟนออกสื่อ

Synopsis TikTok AR Game #หรือฉันก็เป็นเอเลี่ยน

จังหวะโบ๊ะบ๊ะ! 'วิโรจน์'หันไมค์มาเข้าทางปาก'ไอซ์ รักชนก'หลุดสบถ'เฮีย' หลังรู้ตัวคนเปิดคลิปเสียงแทรก

‘สว.’ตั้งกมธ.ร่วมฯรุกสอบมติ‘แพทยสภา’ปม‘ชั้น 14’ ปัดเอาคืนพิษ‘คดีฮั้ว’

  • Breaking News
  • เฟ้นหาแชมป์ภาคเหนือ! บาสเกตบอล3X3แชมป์กีฬา7HD เฟ้นหาแชมป์ภาคเหนือ! บาสเกตบอล3X3แชมป์กีฬา7HD
  • \'เมย์-วิว\'ไม่พลาด! \'บาส-เฟม\'ชนมือหนึ่งก่อนรองสิงคโปร์ฯ 'เมย์-วิว'ไม่พลาด! 'บาส-เฟม'ชนมือหนึ่งก่อนรองสิงคโปร์ฯ
  • ผู้สมัครนายกฯเทศบาล ต.ดำเนินสะดวก บุกร้องกกต.ค้านผลเลือกตั้ง หลังพบพิรุธ\'บัตรเขย่ง\' ผู้สมัครนายกฯเทศบาล ต.ดำเนินสะดวก บุกร้องกกต.ค้านผลเลือกตั้ง หลังพบพิรุธ'บัตรเขย่ง'
  • \'​อุ้ม ลักขณา\'ไขข้อข้องใจ! ทำไมยังไม่เปิดหน้าแฟนออกสื่อ '​อุ้ม ลักขณา'ไขข้อข้องใจ! ทำไมยังไม่เปิดหน้าแฟนออกสื่อ
  • จังหวะโบ๊ะบ๊ะ! \'วิโรจน์\'หันไมค์มาเข้าทางปาก\'ไอซ์ รักชนก\'หลุดสบถ\'เฮีย\' หลังรู้ตัวคนเปิดคลิปเสียงแทรก จังหวะโบ๊ะบ๊ะ! 'วิโรจน์'หันไมค์มาเข้าทางปาก'ไอซ์ รักชนก'หลุดสบถ'เฮีย' หลังรู้ตัวคนเปิดคลิปเสียงแทรก
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ลีลา...กว่าจะ ‘ยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์’

ลีลา...กว่าจะ ‘ยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์’

28 พ.ค. 2568

อย่า‘สอพลอนาย’จนกลายเป็น‘มิจฉาชีพ’

อย่า‘สอพลอนาย’จนกลายเป็น‘มิจฉาชีพ’

25 พ.ค. 2568

เข้าคุกเถอะ ‘ทักษิณ ชินวัตร’

เข้าคุกเถอะ ‘ทักษิณ ชินวัตร’

21 พ.ค. 2568

เงิน พระ สีกา และการพนันออนไลน์

เงิน พระ สีกา และการพนันออนไลน์

18 พ.ค. 2568

มีเรื่องให้ต้อง ‘เอ๊ะ’

มีเรื่องให้ต้อง ‘เอ๊ะ’

14 พ.ค. 2568

สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร

สังคมที่ ‘ชิงชัง’ ทักษิณ ชินวัตร? แต่ละคนจะช่วยชาติได้อย่างไร

11 พ.ค. 2568

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

‘พีระพันธุ์’ จะรอดหรือจะร่วง

7 พ.ค. 2568

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

‘ทักษิณ’ จะต้อง ‘ติดคุก’ หรือไม่?

4 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved