มนุษย์ยุคโบราณ เชื่อกันอย่างฝังหัว “ฟ้าแลบ ฟ้าร้องและฟ้าผ่า” เกิดจากอิทธิฤทธิ์ของเทพเจ้าและเทวดา

“เชื่อแบบไทยๆ” นางเมขลาถือแก้วสีอัศจรรย์ ล่อยักษ์มารชื่อรามสูร ทำให้ “เกิดฟ้าแลบ” ครั้น “รามสูรขว้างขวานเข้าใส่นางเมขลา”จึงทำให้เกิด “ฟ้าร้องและฟ้าผ่า” ตามมา

“เชื่อแบบชาวกรีก” เกิดจากอาวุธประจำกายของ “เทพเจ้าซุส”ที่เป็น “แทงสายฟ้า” ถ้าสำแดงเดชเมื่อใดจะเกิด “ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่า” เมื่อนั้น

“เชื่อแบบชาวนอร์เวย์” โบราณ “เทพอสูรชื่อธอร์” ถือค้อนศักดิ์สิทธิ์อันใหญ่เท่าขุนเขา ถ้า “เทพธอร์เหวี่ยงค้อน” ที่ใด ก็จะเกิด“ฟ้าแลบ ฟ้าร้องและฟ้าผ่า” ที่นั้น

“เชื่อแบบชนเผ่ายอรูมาของไนจีเรีย” ต่างถูกชิพฝังหัวให้เชื่อว่า “เทพเจ้าชื่อแซนโก้” เป็นผู้ทำให้เกิดพายุฝนและเกิด “ฟ้าแลบฟ้าร้องและฟ้าผ่า”

“ยังมีตำนานของชาติต่างๆ อีกมากมาย ต่างระบุถึงเทพอสูรของตนเป็นผู้ทำให้เกิดฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่า”

จนกระทั่งปีค.ศ.1752 “เบนจามิน แฟรงคลิน” นักวิทยาศาสตร์เอกชาวมะริกัน เป็น “นักชักว่าว” ที่โด่งดังที่สุดในโลก โดยว่าวผ้าไหมที่เขาปล่อยให้โฉบเฉี่ยวอยู่กลางเวหาขณะฝนฟ้าคะนอง “เขาได้ผูกกุญแจไว้ที่หางว่าว” ทำให้กุญแจเกิดประกายสว่างวูบวาบ คนทั้งโลกจึง “ตื่นจากฝัน”รู้ชัดว่า “ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่า” เกิดจาก “เมฆที่มีไฟฟ้าสถิตทั้งขั้วบวกและขั้วลบกระทบกันอย่างรุนแรง” หาใช่เกิดจาก “กิจกรรมของเทพอสูร” ทั้งหลายไม่

“ฟ้าแลบ” ที่เกิดแสงซิกแซ็กเหมือนรากต้นไม้ เป็นเรื่องสนุกสนาน แต่ “ฟ้าร้อง ฟ้าคำราม” เป็นเรื่องหวาดหวั่นเสียวไส้ แต่ถ้าเป็นเรื่อง “ฟ้าผ่า” คราใด อาจจะทำให้มนุษย์และสัตว์เลี้ยงที่เคราะห์ร้าย “ม่องเท้ง”

มีจอมสถิติโนเนมระบุว่า ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง และฟ้าผ่ามักเกิดในดินแดน “แถบร้อน” อย่างถี่บ่อยที่สุด และประเทศที่ “เกิดฟ้าผ่า” มากกว่าใคร ต้องชูโป้งให้ “กัมพูชา” เป็น “ดินแดนแชมป์ฟ้าผ่า”

เอาเฉพาะปีค.ศ.2017 ที่เพิ่งผ่านมาหยกๆ “มีฟ้าผ่าในเขมร”หลายหมื่นครั้ง แต่ที่ “ผ่าถูกชาวเขมร” อย่างจังๆ “ทำให้มีผู้เคราะห์ร้ายตายไป 41 รายและสัตว์เลี้ยงถูกฟ้าผ่าตาย 36 ตัว”

“แต่ปีค.ศ.2018 เพิ่งจะผ่านไป 4 เดือนเท่านั้น ชาวเขมรถูกฟ้าผ่าตายไปแล้ว 50 ราย” และวัวควายต้องถูกฟ้าผ่าตายอีกจำนวนไม่น้อย

สำหรับ “ฟ้าผ่าทางการเมือง” นั้น คงระบุชัดๆ ไม่ได้ นักการเมืองประเทศใด “ถูกฟ้าผ่าตายมากที่สุด”

ที่แน่ๆ “นาจิบ ราซัค” อดีตผู้นำมาเลเซีย วันนี้ถูก “ฟ้าผ่า”ถึงขั้น “ดำเป็นตอตะโก” ทรัพย์สมบัติที่โกงมาอย่างมหาศาล ถูกตำรวจยึดไปถึง 249 กระเป๋าใหญ่

ในกรณี “ตะขิ่นดูไบ” ดูเหมือนจะถูก “ฟ้าผ่า” ซ้ำๆ ซากๆ มาหลายปีแล้ว แต่ “นักวิทยาศาสตร์ ผู้ขยันเดินทางสำรวจโลก” กลับเป็น “แมวเก้าชีวิต” ซึ่งถูก “ฟ้าผ่าซ้ำๆ ซากๆ” นับไม่ถ้วนครั้ง
แต่ก็ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม