นักล่าอาณานิคมในอดีตที่กระทำการล่าอาณานิคมเอาประเทศต่างๆ ในหลายภูมิภาคของโลกเป็นเมืองขึ้นก็ดี เป็นข้าทาสบริวารก็ดี หรือเป็นรัฐในอารักขาก็ดี เป็นมาอย่างไร แม้ในปัจจุบันนี้โลกก้าวหน้าทันสมัยเพียงใดแล้ว แต่ซากเดนความคิดนักล่าอาณานิคมนั้นก็ยังดำรงคงอยู่
เพียงแต่ว่ากลายเป็นนักล่าอาณานิคมแบบใหม่ที่ดูเหมือนนิ่มนวลขึ้นมีการอ้างเหตุผลที่ดูชอบธรรมขึ้น แต่แท้จริงแล้วก็ยังโหดร้าย โหดเหี้ยมอำมหิต และเป็นมหาโจรที่ปล้นสะดมผลประโยชน์ของประชาชาติต่างๆ เยี่ยงโจรสลัดในอดีต ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนั้น นอกจากปริมาณและขนาดของความโหดร้ายอำมหิต ที่มากและรุนแรงกว่ากันจนสุดพรรณนาเท่านั้น
ประเทศต่างๆ ทั้งหลายในโลกที่กำลังพัฒนาหรือด้อยพัฒนาต่างก็ตกเป็นเป้าหมายของการถูกล่าเป็นอาณานิคมแบบใหม่ด้วยกันทั้งสิ้น สถานการณ์วิกฤติต่างๆ และความขัดแย้งต่างๆ ในทุกภูมิภาคของโลกล้วนเป็นการขับเคี่ยวต่อสู้กันโดยนักล่าอาณานิคม ผู้รุกรานและปล้นสะดมกับประชาชาติของประเทศที่ถูกรุกรานและปล้นสะดม เนื้อหาแท้จริงก็มีเพียงเท่านี้ เป็นแต่ว่ารูปแบบอาจจะแตกต่างกันไปบ้าง
ตัวอย่างล่าสุดก็คือสถานการณ์ในซีเรียและอิรัก ที่เมื่อ 7 ปีก่อนนั้นคนทั้งหลายเข้าใจว่าจู่ๆ ก็มียักษ์มารมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ตั้งตัวเป็นขบวนการก่อการร้ายที่โหดเหี้ยมอำมหิต เข้ายึดดินแดนอิสลามของประเทศซีเรียและอิรัก โดยเฉพาะในพื้นที่ทั้งสองด้านของเขตแดนซีเรียและอิรัก ซึ่งเป็นถิ่นที่อุดมไปด้วยพลังงานและแก๊ส
ขบวนการก่อการร้ายได้ยึดครองดินแดนของซีเรียและอิรักด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย ด้วยกำลังพลที่มีประสิทธิภาพในการรบขั้นสูง จนกระทั่งกองทัพของรัฐบาลซีเรียและอิรักไม่สามารถรักษาแผ่นดินของตัวเองไว้ได้
ต่อมาประเทศมหาอำนาจก็ได้ยกกองทัพเข้าไปในแผ่นดินซีเรียและอิรักอ้างว่าเพื่อช่วยปราบปรามขบวนการก่อการร้ายที่เป็นอันตรายต่อชาวโลกทั้งมวล คนทั้งหลายก็พากันยินดี
จนกระทั่งในที่สุดรัสเซียได้นำความจริงมาตีแผ่เปิดเผยว่า มหาอำนาจนักล่าอาณานิคมเป็นผู้สร้างขบวนการก่อการร้ายที่ยึดดินแดนซีเรียและอิรักนั้น เพื่อจะปล้นสะดมทรัพยากรพลังงานของประเทศนั้นซึ่งยินยอมไม่ได้ ว่าแล้วก็ได้ช่วยเหลือรัฐบาลซีเรียและอิรักในการปราบปรามกวาดล้างขบวนการก่อการร้าย จนเกือบจะหมดสิ้นไปจากประเทศทั้งสองแล้ว
ทำให้รัฐบาลซีเรียและอิรักสามารถดำรงเอกราชอธิปไตยและรักษาบ้านเมืองของตนเองเอาไว้ได้โดยทั่วไป และชาวโลกก็ได้รู้ความจริงว่าใครใช่เล่ห์กลอุบายสร้างขบวนการก่อการร้ายขึ้นเพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการเข้ายึดครองชาติอื่นเพื่อจะปล้นสะดมเอาทรัพยากรธรรมชาติ
นั่นเป็นตัวอย่างอันประจักษ์ชัดล่าสุดในตะวันออกกลาง
ส่วนในพม่านั้นก็กำลังเกิดเหตุแบบเดียวกันนี้ เป็นแต่ลักษณะอาการแตกต่างกัน และเป็นเรื่องใกล้บ้าน เป็นเรื่องที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศจะต้องทำความเข้าใจสถานการณ์นี้ให้ถ่องแท้ หาไม่แล้วก็จะถูกพวกเอ็นจีโอขี้ข้าและสื่อขี้ข้าชักพาให้หลงผิด แล้วไปหลงสนับสนุนการแบ่งแยกแผ่นดินพม่าซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน
อันแผ่นดินพม่านั้นประกอบด้วยหลายแคว้น ประกอบด้วยหลายชนชาติ โดยมีผู้มีเชื้อชาติพม่าจริงๆ อยู่เพียงร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมดเท่านั้น พม่าอันเป็นพุกามประเทศมาแต่โบราณกาล เป็นแผ่นดินที่มีความขัดแย้งและสงครามต่อเนื่องมานับพันปี และสงครามเคยสิ้นสุดลงในแผ่นดินพุกามประเทศเลย
จนกระทั่งรัฐบาลทหารของพม่าได้เข้าปกครองประเทศ ก็ได้สร้างความมั่นคงและความสงบสุขขึ้นโดยทั่วไป ทำให้สภาพความขัดแย้งและสงครามลดน้อยถอยลงโดยทั่วไป ความปรองดองระหว่างชนชาติระหว่างเชื้อชาติได้เกิดขึ้นโดยทั่วไป
แต่ทว่าในพื้นที่บางจุดยังมีความล่อแหลมและเอื้อต่อการก่อปัญหาบ่อนทำลายแบ่งแยกประเทศพม่ามากกว่าพื้นที่อื่น นั่นคือพื้นที่แคว้นยะไข่หรือรัฐยะไข่ ซึ่งแต่ไหนแต่ไรมาประชากรส่วนใหญ่นับถือพุทธศาสนา บางห้วงเวลาก็มีชาวมุสลิมที่อพยพมาจากดินแดนอันที่ได้ชื่อใหม่ว่าเป็นประเทศบังกลาเทศบ้าง อินเดียบ้าง เข้ามาตั้งถิ่นฐาน
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะในห้วงเวลาอันยาวนานแห่งสงครามปลดแอกพม่าจากการยึดครองของอังกฤษ ซึ่งเป็นนักล่าอาณานิคมเจ้าเก่า แต่เรียกตัวเองว่าเป็นผู้ดี อังกฤษได้นำเอาชาวมุสลิมจากอินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ ที่มีชนชาติหรือเชื้อชาติที่เรียกว่าโรฮีนจาเข้ามาตั้งหลักปักฐานในรัฐยะไข่และอาศัยเป็นกองกำลังต่อสู้กับกองทัพปลดแอกของพม่า
หลังจากพม่าได้เอกราช อังกฤษได้ถอนตัวออกไปจากพม่า แต่ก็ยังคงวางยา วางหมาก เพาะเชื้อความขัดแย้งไว้ในรัฐยะไข่ นั่นคือความขัดแย้งระหว่างชาวโรฮีนจากับรัฐบาลพม่า ซึ่งรัฐบาลพม่าไม่ยอมรับว่าเป็นประชากรพม่า เพราะถือว่าเป็นกำลังหรือพวกพ้องของกองกำลังที่อังกฤษเอาเข้ามาต่อสู้กับพม่า ซึ่งชอบที่จะขนออกไปตามอังกฤษ แต่กลับทิ้งไว้เป็นเชื้อไฟในพม่า
ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลพม่ากับชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นเชื้อไฟอย่างดีให้แก่การสร้างความขัดแย้งและปัญหาแก่รัฐบาลพม่า โดยนักล่าอาณานิคมก็พยายามเพิ่มลม เพิ่มไฟ ขึ้นในพื้นที่นี้ ควบคู่ไปกับการโจมตีกล่าวหาว่าร้ายรัฐบาลพม่าด้วยข้อหาสองข้อ ซึ่งเป็นเครื่องมืออุบาทว์แห่งการล่าอาณานิคมยุคใหม่
นั่นคือตั้งข้อหาว่าพม่าละเมิดสิทธิมนุษยชน และไม่เป็นประชาธิปไตย จากนั้นก็ส่งเสริมสนับสนุนให้นางออง ซาน ซู จี ลุกขึ้นสู้กับรัฐบาลทหารพม่าจนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และตั้งรัฐบาลผสม หลังจากนั้นนางออง ซาน ซู จี ซึ่งมีเลือดปฏิวัติและรักชาติจากผู้พ่อก็ปรองดองสมานฉันท์กับฝ่ายทหาร ทำการปกครองพม่าด้วยความราบรื่นเรียบร้อย
ความปรองดองเพื่อประเทศชาติของทั้งสองฝ่ายกลับขัดใจนักล่าอาณานิคม ดังนั้นจึงเกิดการบ่อนทำลายภาพลักษณ์ของนางออง ซาน ซ ูจีอย่างต่อเนื่อง กระทั่งถอนประกาศเกียรติคุณบางอย่างซึ่งไม่มีค่าอันใดสำหรับผู้รักชาติในพม่าเลย
จากนั้นก็ก่อความขัดแย้ง ขยายความขัดแย้งในรัฐยะไข่ให้รุนแรงขึ้น โดยใช้ศาสนาเป็นตัวสร้างความขัดแย้งหลัก และทำให้ความรุนแรงขยายตัวบานปลายจนเกิดเป็นสงครามกลางเมืองขึ้นในรัฐยะไข่ในปัจจุบันนี้ สภาพเช่นนี้จึงบังคับให้รัฐบาลผสมพม่าต้องปราบปรามการก่อสงครามกลางเมืองนั้นอย่างเฉียบขาด ซึ่งเป็นความชอบธรรมของรัฐบาลพม่าและประเทศพม่า
เพราะหากไม่ป้องกันปัญหาหรือตัดไฟเสียแต่ต้นลม ในที่สุดนักล่าอาณานิคมก็จะแยกแผ่นดินรัฐยะไข่ออกเป็นรัฐอิสระหรือประเทศอิสระ ครั้นไม่ได้ดังใจก็กล่าวหารัฐบาลพม่าเป็นอาชญากรระหว่างประเทศ กระทั่งกล่าวหาลุกลามไปถึงนางออง ซาน ซู จี ที่เคยอุปถัมภ์ค้ำชูสนับสนุนกันมาแต่ก่อนด้วย
นางออง ซาน ซู จี มีจุดยืนที่มั่นคงอยู่กับประเทศชาติและประชาชนพม่า ดังนั้นไม่ว่าจะถูกกดดัน ถูกทำลายชื่อเสียงเกียรติคุณสักเท่าใดก็ไม่หวั่นไหวไปตามความกดดันนั้น ยืนหลักปักมั่นสามัคคีกับกองทัพและรัฐบาลพม่าในการพิทักษ์รักษามาตุภูมิอย่างมั่นคง เป็นที่น่าสรรเสริญอย่างยิ่ง
สำหรับรัฐบาลพม่าโดยเฉพาะฝ่ายทหารนั้นแม้จะถูกตราหน้าว่าเป็นอาชญากรทางอาญาระหว่างประเทศ หรือเป็นทรราชประการใด แต่ฝ่ายทหารและรัฐบาลพม่าก็รู้ดีแก่ใจว่านั่นเป็นวิธีการแย่งบ้านยึดเมืองของชาตินักล่าอาณานิคมเท่านั้นจึงไม่หวั่นไหวและยืนหลักปักมั่นร่วมกับประชาชนชาวพม่าในการรักษาบ้านเกิดเมืองนอนไว้สำหรับชาวพม่าต่อไป
มองเหตุการณ์ในพม่าแล้วก็อย่าลืมมองเหตุการณ์ในสามจังหวัดภาคใต้ และในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ที่กำลังมีชาวโรฮีนจาลักลอบตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างไม่หยุดยั้งในขณะนี้ และต้องไม่ให้ประเทศไทยต้องรับชะตากรรมจากแผนร้ายนั้นแบบที่เกิดขึ้นในพม่าอีก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี