การเมืองเริ่มนิ่งแล้ว ในขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ในหลายๆ ด้าน อย่างต่อเนื่องและได้รับคำชมจากมิตรประเทศมากตลอด ล่าสุดก็ญี่ปุ่น ที่มีความประสงค์จะมาร่วมลงทุนด้านอุตสาหกรรมในไทยเพิ่มเติม
ก็ต้องโฟกัสมาที่ อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ว่าที่เลขาฯพรรค พปชร.แบ่งภาคการทำงานของรัฐบาล และการทำงานทางการเมือง ได้อย่างสมดุล ไม่ขาดตกบกพร่อง
โดยเฉพาะโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รมว.อุตสาหกรรมเป็นแม่ทัพใหญ่ ได้เร่งแผนยุทธศาสตร์ต่อยอดความสำเร็จมาจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ที่ดำเนินมาตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา
EEC โครงการนี้เป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้ประเทศมีการพัฒนา ขยายตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไม่หยุดยั้ง ที่สำคัญไทยอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เชื่อมต่อมหาสมุทรแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย และเชื่อมต่อจีนตอนใต้เข้ากับภูมิภาคแหลมทอง ทำให้ไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์ของภูมิภาคและการเป็นประตูสู่เอเชียได้ EEC จึงเป็นความหวังใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศในยุคอุตสาหกรรม 4.0
ล่าสุดก็มีการประชุมบอร์ด EEC ชุดเล็ก ก่อนที่นำเสนอบอร์ดใหญ่ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานอีก4 โครงการ โดย 4 โครงการนั้น จะเป็นการลงทุนร่วมรัฐ-เอกชน
1.โครงการพัฒนาสนามบิน อู่ตะเภา จะมีการออกหนังสือชี้ชวนเอกชนเข้าร่วมลงทุนภายในเดือนนี้ และได้ผู้ลงทุนในเดือน ก.พ.ปีหน้า
2.ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน MRO ซึ่งใช้พื้นที่ของอู่ตะเภา จะออกหนังสือชี้ชวนในเดือนนี้ และคาดว่าจะเปิดได้ในช่วงปี’65
3.ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ที่จะออกหนังสือชี้ชวนเดือนนี้ และคัดเลือกผู้ลงทุนในเดือน ก.พ.ปีหน้า เปิดให้บริการได้ช่วงกลางปี’66
4.ท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 ก็จะออกหนังสือชี้ชวนในเดือนนี้ และจะคัดเลือกผู้ร่วมลงทุนในเดือน ก.พ.ปีหน้าเช่นกัน
ส่วน รมว.พาณิชย์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก็เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนไปจนถึงการเร่งผลักดันเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและด้านการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ ที่ต้องการทำให้เกิดพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำหรับประชาชนทุกระดับ
ร้านธงฟ้าประชารัฐ ติดลมบนจนประเทศเพื่อนบ้านต้องส่งคนมาดูงาน ร้านโชห่วยและร้านค้าขนาดเล็กให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น สามารถอยู่รอดเคียงข้างกับร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ได้อย่างเท่าเทียม ส่วนรถเร่ ขายสินค้ากระทรวงพาณิชย์ก็กำลังเข้าไปดูแล
เรียกว่าไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
ครับ ทั้ง 2 ท่านถือเป็นแม่ทัพคนสำคัญในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่ริเริ่มและผลักดันโครงการต่างๆ มากมาย ตามนโยบายของรัฐบาล แม้จะประกาศจุดยืนทางการเมืองไปแล้ว แต่ยังไม่ละทิ้งหน้าที่ ยังคงเดินหน้าพัฒนาและแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง
ส่วนฝ่ายการเมืองที่ตามตอแย วันละ 3 เวลา ตอนนี้ก็เพลาปากลงแล้ว เพราะรู้ว่าทุกคนทำงานเพื่อชาติ อนาคตข้างหน้ามีโอกาสทำงานร่วมกันก็จะได้มองหน้ากันอย่างสนิทใจ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี