ประชาชนชาวไทยถูกจับขังกรงหลังจากเล่นกีฬาสีของคนสองกลุ่มจนทำให้ประเทศเกือบจะเป็นรัฐที่ล้มเหลว ทำให้ผู้ถืออาวุธภายใต้การนำของผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาทำหน้าที่กรรมการห้ามทัพและตั้งตัวองค์อธิปัตย์ปกครองประเทศต่อมา โดยให้สัญญาว่า อีกไม่นานจะคลายอำนาจกรรมการ แต่ก็อยู่มาเกือบ 5 ปี นำเอารัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตยฟันปลอมที่วางกติกาในการเลือกตั้งไว้อย่างซับซ้อนโดยผู้ร่าง คือ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่อ้างว่าเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง โดยนำเอาระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสมมาเป็นกติกา (ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่คุ้นเคย) แต่พรรคการเมืองพรรคใหญ่ในอดีตที่ถูกปฏิวัติได้แก้สถานการณ์ด้วยการกระทำเป็นไส้เดือนแบ่งแยกตัวออกเป็นส่วนๆ แล้วกลับมารวมกันภายหลังการเลือกตั้ง
ส่วนพรรคการเมืองที่รวมตัวจากคนที่ถูกปฏิวัติจากองค์อธิปัตย์บางคนในปัจจุบันกลับเข้ามารวมตัวเพื่อชูผู้ที่ทำการปฏิวัติตัว คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้กลับมาเป็นรัฐบาลภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตยฟันปลอม แต่สถานะทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าได้เป็นนายกรัฐมนตรี จะไม่เหมือนรัฐบาลที่มาจากปฏิวัติอย่างแน่นอน โดยเฉพาะบุคลิกของพลเอกประยุทธ์จันทรโอชา แม้จะมีพื้นฐานแบบเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก็ตาม เพราะ พลเอกเปรม ท่านได้รับฉายาในขณะเป็นนายกรัฐมนตรีว่า “เตมีย์ใบ้” ส่วนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ตรงกันข้ามการเป็นนายกรัฐมนตรีในระบอบเผด็จการกับระบอบประชาธิปไตย (แม้จะครึ่งใบก็ตาม) ย่อมแตกต่างกันอย่างมาก เกรงว่าสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันยากที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะบริหารประเทศราบรื่นเช่นที่ผ่านมา ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ได้ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองในอดีตและอยากเห็นการเมืองในระยะเปลี่ยนผ่านจากระบอบเผด็จการสู่ระบอบที่ประชาชนมีส่วนร่วมเป็นไปอย่างราบรื่น ขอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าเป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง จะเตรียมพร้อมทั้งกายและใจในการดำรงตำแหน่งดังกล่าวในสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
โดยเฉพาะผลงานที่ผ่านมาและที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจอยู่ในสภาวะ “รวยกระจุก จนกระจาย” จากสภาวะแวดล้อมเป็นพิษ อาจส่งผลให้วงจรอุบาทว์กลับมาสู่สังคมไทยอีก ทั้งๆ ที่ประชาชนไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก จึงใคร่ขออวยพรว่าผลจากการเลือกตั้งไม่ว่าพรรคใดจะชนะได้เป็นรัฐบาลขอให้ทำเพื่อประชาชนมากกว่าตนและพวกพ้องเพื่อที่แสงสว่างแห่งประชาธิปไตยเกิดขึ้นและยั่งยืนในสังคมไทยพัฒนาจากประชาธิปไตยครึ่งใบสู่ประชาธิปไตยเต็มใบและยั่งยืน
สุดท้ายนี้ใคร่ขอแสดงความยินดีกับการปรับตัวของ พรรคประชาธิปัตย์ที่ประสบความสำเร็จในการนำวิถีทางแห่งประชาธิปไตยมาใช้กับการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศและเป็นพรรคของประชาชนที่แท้จริงเฉกเช่นในอดีตตั้งแต่เริ่มก่อตั้งพรรคเมื่อกว่า 70 ปีมาแล้ว จนหัวหน้าพรรคคนแรกที่มีชื่อว่า นายควง อภัยวงศ์ เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งแรก มีการต่อสู้กันระหว่างพรรคใหญ่สองพรรค ซึ่งหัวหน้าพรรคตรงข้ามชื่อ นายวิลาศ โอสถานนท์ พรรคประชาธิปัตย์ มีการหาเสียงว่า “เหล็กวิลาศ หรือจะสู้ตะปูควง” ในการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะและได้เป็นรัฐบาล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี