ในตอนที่ผ่านมา ได้พูดให้ฟังถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนในบ้านเมืองของเราเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหลายอย่าง ค่านิยมของคนไทยที่เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามแบบคนไทย ตลอดจนวัฒนธรรมของสังคมไทยหลายอย่างได้เปลี่ยนไป ก็เพราะมีของใหม่เข้ามาแทนที่ ไม่ใช่เป็นของไทยเหมือนเมื่อก่อนนั้น ได้พูดให้ฟังในตอนก่อนว่ามีหลายสาเหตุด้วยกัน โดยยกเอาสาเหตุลำดับแรกคือเรื่องสิ่งต่างๆจากภายนอกเข้ามา ทำให้สภาพสังคมไทยทั้งระบบได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
วันนี้มาพูดกันถึงอีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ เกี่ยวกับค่านิยมหรือลักษณะนิสัยของคนไทยที่เปลี่ยนไป เป็นค่านิยมที่มีลักษณะของความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องการให้คนอื่นมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของตน คำนึงถึงความสะดวกสบายของตนเองเป็นสำคัญ นำมาซึ่งความไม่มีระเบียบวินัย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะนำมาพูดในวันนี้
1. ความไม่มีระเบียบวินัย
คนไทยชอบทำอะไรตามความพอใจของตน จึงทำให้ขาดวินัยในตนเองมาก และไม่นิยมปฏิบัติตามวินัยของส่วนรวม ทั้งนี้การอบรมขัดเกลานิสัยจากครอบครัวจึงมีความสำคัญมาก หากไม่ได้รับการแก้ไขจะทำให้สังคมทั้งระบบแตกแยกกันง่ายขึ้น
2. อำนาจนิยม
สืบเนื่องจากอดีตที่สังคมไทยผูกพันอยู่กับอำนาจและตำแหน่งสูงๆ นำมาซึ่งความเกรงกลัว อำนาจจึงเป็นค่านิยมที่คนส่วนใหญ่ต้องการ และอำนาจหากใช้ไปในทางมิชอบก็จะเป็นดาบสองคม ส่งผลเสียหายต่อส่วนรวมหรือชาติบ้านเมืองได้
3. ชอบความหรูหราและความมีหน้าตา
ลักษณะนิสัยดังกล่าวมาจากความเชื่อมั่นและหยิ่งในตนเอง ไม่ค่อยจะยอมรับความต่ำต้อยของตนว่าน้อยกว่าคนอื่น ถือว่าคนอื่นทำได้ ตนก็ต้องทำได้เช่นเดียวกัน เพราะคนไทยทุกคนมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน จึงนิยมแสดงออกซึ่งความหรูหรา ชอบของที่มียี่ห้อจากต่างประเทศ เป็นปัจจัยให้เกิดการยกย่องคนมีเงิน
4. ความไม่มีเหตุผล
เนื่องจากคนไทยทั่วไปขาดความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติ ทำให้ขาดปัญญาและสติที่จะไตร่ตรองถึงเหตุผล ใครชักชวนมักเชื่อตามถ้าผู้ชักชวนนั้นเป็นคนที่ตนเองรักใคร่นับถือ กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมายจึงปรากฏให้เห็น
5. ความเห็นแก่ตัว
สภาวะที่สืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทุกคนในสังคมต้องดิ้นรนแข่งขันเอาตัวเองรอด หรือเพื่อเลื่อนฐานะและความมั่งคั่ง จึงพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขสบายส่วนตัว ไม่สนใจว่าใครจะเป็นอย่างไร ทำให้ขาดความเป็นเอกภาพในสังคม เป็นคนไม่มีน้ำใจ เป็นคนไม่มีเหตุผล
6. ชอบสอดรู้สอดเห็น
ชอบสนใจและติดตามเรื่องของคนอื่นตามกระแส โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เสียหาย เข้าทำนองว่าเห็นใครดีกว่าไม่ได้ ส่งผลให้ขาดความเคารพสิทธิคนอื่น
เอาแค่นี้ก็พอในเรื่องค่านิยมของคนไทยที่เปลี่ยนไป
การปรับเปลี่ยนค่านิยมที่ไม่ดีให้ดีขึ้นไป คืออยู่ในกฎระเบียบ มีเหตุผล เคารพในสิทธิและเสรีภาพของคนอื่น มีวินัยต่อตนเองและส่วนรวม มีน้ำใจนักกีฬา ยอมรับเสียงข้างมาก และยอมรับว่าทุกคนมีความเท่าเทียมกันนั้น ควรปลูกฝังค่านิยมและสร้างเสริมให้ประชาชนรู้จักปฏิบัติตนบนพื้นฐาน 5 ประการ คือ
1. การพึ่งตนเอง
2. ขยันหมั่นเพียงมีความรับผิดชอบ
3. การประหยัดและการอดออม
4. มีระเบียบวินัยและเคารพกฎหมาย
5. ปฏิบัติตามคุณธรรมคำสอนในศาสนา
การดำเนินการในเรื่องอย่างนี้ทุกภาคส่วนของสังคม ต้องร่วมมือกันในการทำงาน โดยเฉพาะภาครัฐสำคัญมาก โดยต้องให้หน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชนให้ความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องในเรื่องพื้นฐาน 5 ประการดังกล่าว
ถึงเวลาแล้วที่จะต้องคิดต้องทำ
บ้านเมืองต้องมีการเปลี่ยนแปลงนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใครปฏิเสธได้ แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงเพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าด้วย ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงแล้วสิ่งที่ดีงามของสังคมไทยที่เคยมีอยู่ และสืบทอดกันมายาวนานต้องกลายเป็นอย่างอื่นไป
เพราะการอนุรักษ์สิ่งที่ดีงามบางสิ่งบางอย่างของสังคมไทยดั้งเดิม ไม่ใช่เป็นเรื่องล้าสมัย แต่จะไม่เป็นสังคมแบบคนอื่นไปโดยไม่รู้ตัว
บางสิ่งบางอย่างที่เป็นจุดอ่อนของสังคมไทย รวมทั้งจุดอ่อนในลักษณะของนิสัยของคนไทย ซึ่งเป็นช่องทางให้สิ่งที่ไม่ดีงามทั้งหลายจากภายนอกเข้ามาครอบงำได้ง่ายนั้น ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมขึ้นด้วย เพื่อสามารถต้านทานมิให้สิ่งที่ไม่ดีเหล่านั้นเข้ามาเปลี่ยนแปลงสังคมไทย และวิถีชีวิตของคนไทยให้ต้องเป็นอื่น หรือหลับตาตามเขาไป
ฝากไว้ให้ช่วยกันคิดและทำกันจริงๆจังๆด้วย
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี