พระราชโองการเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2562 ดับทุกข์ที่ต้นเหตุ ดับความวิตกกังวลและความสับสนลงสิ้นเชิง
แต่ปรากฏว่า ยังมีความพยายามจะขยายความ หรือตีความ อันอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
1. แฟนเพจ “ศาสนวิทยา dr.Sinchai Chaojaroenrat” ตั้งประเด็นว่า“จริงหรือ...ที่พูดกันว่านับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มา เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง (ตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป) มาเป็นนักการเมืองไม่ได้ ? ตรวจสอบแล้วพบว่า...ไม่จริง” โดยได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไปด้วยว่า
พบว่า “มีเจ้าตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าและหม่อมเจ้าขึ้นไป ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ในช่วง 2490 – 2518
1. พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีใน 3 รัฐบาล (พ.ศ.2501 – พ.ศ.2512)
2. หม่อมเจ้าวิวัฒนไชย ไชยันต์ เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์
3. พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ (พ.ศ.2516) เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ และ ฯลฯ
ซึ่งเป็นเวลาไม่นานนี้เอง อยู่ในช่วงเวลาที่พูดกันว่าไม่เคยให้มีเกิดขึ้น...”
2. ปรากฏว่า มีการอ้างข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่และตีความต่ออย่างผิดๆ ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความสับสนโดยมิบังควร
ทั้งๆ ที่ ในแฟนเพจนั้น ก็มีผู้เข้ามาโพสต์ชี้แจง โดยลำดับข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน น่าสนใจ แต่ก็ไม่นำพา ยังปล่อยให้มีการอ้างอิงไปใช้ในทางผิดๆ ต่อไป
ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Mark Pattarapon” ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนเอาไว้ สรุปว่า
“...นับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มา เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง (ตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป) มาเป็นนักการเมืองไม่ได้ ?” สำหรับประโยคนี้ มีความจริงแค่เพียงครึ่งเดียวครับ เพราะอีกครึ่งหนึ่งคือไม่จริง เพราะความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง (ตั้งแต่หม่อมเจ้าขึ้นไป) มาเป็นนักการเมืองไม่ได้
ส่วนตัวมองว่าประโยคที่ยกมาแบบนี้ เป็นการเล่นคำภาษาไทย เพื่อใช้เป็นหมากในการเดินเกมการเมืองบางอย่างก็เป็นไปได้ เพราะประโยคที่ถูกต้องคือ “นับแต่เปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มา พระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นหม่อมเจ้าขึ้นไปโดยกำเนิดหรือโดยแต่งตั้ง ก็ย่อมดำรงอยู่ในฐานะเหนือการเมือง” [อ้างอิงจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม มาตรา 11]
ต้องเข้าใจก่อนว่า พระบรมวงศานุวงศ์คืออะไร พระบรมวงศานุวงศ์ หมายถึง พระประยูรญาติใหญ่น้อยทั้งหมดทุกราชสกุลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในที่นี้ คือพระองค์ที่กำลังทรงมีชีวิตอยู่ มิใช่พระองค์ก่อน [อ้างอิงจากแบบร่างกฎหมายลักษณะอาญา ร.ศ.127 มาตรา 98]
พระบรมวงศานุวงศ์ แบ่งได้ดังนี้
แบ่งได้ประการแรก พระบรมวงศ์ (วงศ์ใหญ่) คือ พระญาติที่สนิทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระเชษฐภคินี เป็นต้น
แบ่งได้ประการที่สอง พระอนุวงศ์ (วงศ์น้อย) คือ พระญาติห่าง ๆ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันได้แก่ เจ้านายที่มีพระยศตั้งแต่ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ลงมาถึง หม่อมเจ้า
งั้นเรามาดูกัน ว่าบุคคลที่อาจารย์กล่าวมา เข้าข่ายตามประโยคที่ถูกต้องหรือไม่
ท่านแรก พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ท่านนี้ได้พระอิสริยยศเป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ ในปี พ.ศ. 2495 และดำรงตำแหน่งทางการเมืองในปีพ.ศ. 2501 - พ.ศ. 2512 จึงเข้าเกณฑ์ตามพระบรมวงศานุวงศ์ ในระดับพระอนุวงศ์
ท่านที่สอง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย (พระนามเดิมหม่อมเจ้าวิวัฒนไชย ไชยันต์) ท่านนี้มีลำดับศักดิ์ในชั้น พระองค์เจ้า เริ่มวาระและสิ้นสุดวาระในช่วงเวลา 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 ถึง 27 มิถุนายนพ.ศ. 2492 จึงเข้าเกณฑ์ตามพระบรมวงศานุวงศ์ ในระดับพระอนุวงศ์
ท่านที่สาม พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ท่านนี้มีลำดับศักดิ์ในชั้นหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ในขณะที่กำลังดำรงตำแหน่งทางการเมืองและได้รับพระอิสริยยศมาเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริในภายหลังสิ้นพระชนม์ ในวันที่ 29 มีนาคม 2537 จึงเข้าเกณฑ์ตามพระบรมวงศานุวงศ์ ในระดับพระอนุวงศ์...”
3. เมื่อพิจารณาอย่างถ่องแท้แล้ว จะมองเห็น และเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง มีเหตุและผลรองรับหนักแน่น มั่นคง ว่าเหตุใดกรณีทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ จึงได้มีพระราชโองการเช่นนั้น
ไม่ใช่เหมือนที่พยายามบิดเบือนกล่าวหากันอยู่ในหมู่คนบางกลุ่ม
ลองกลับไปอ่านประกาศเพียงย่อหน้าเดียว ก็เข้าใจชัดเจนแล้ว
“…ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งยังเป็นพระเชษฐภคินีในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์ แม้จะทรงกราบถวายบังคมลาออกจากฐานันดรศักดิ์ไปแล้วตามกฎมณเฑียรบาล โดยได้กราบบังคมทูลพระกรุณาเป็นลายลักษณ์อักษร หากยังทรงสถานะและดำรงพระองค์ในฐานะสมาชิกแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงเป็นที่รักใคร่ของสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมราชชนนี ตลอดจนเป็นที่เคารพยกย่องของพระบรมราชวงศ์ทุกพระองค์และประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนานด้วยทรงประกอบพระกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยในการดำรงพระองค์และการประกอบพระกรณียกิจต่างๆนั้น ทรงปฏิบัติด้วยการถวายงานของข้าราชการในพระองค์ และหน่วยราชการต่างๆ ของหน่วยราชการในพระองค์ตลอดมา การนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง ไม่ว่าจะโดยทางใดก็ตาม จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติถือเป็นการกระทำที่มิบังควรไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง...”
4. ถึงขนาดนี้แล้ว คนไทยที่มีใจรักชาติ และเทิดทูนสถาบันเบื้องสูงแทนที่จะมาอ่านจับผิด ทำไมไม่ไปกดดัน เรียกร้อง ทวงถามการแสดงความรับผิดชอบของขบวนการ “ดึงฟ้าต่ำ ทำหินแตก” พวกโน้น ที่ปัจจุบันยังหายหัวกันหมด
5. น่าสังเกตว่า ขณะนี้ เกิดภาวการณ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารฝุ่นตลบฟุ้งที่อันตรายยิ่งกว่าฝุ่นละอองจิ๋ว PM2.5 เพราะกรณีเป็นข้อมูลเท็จล้วนๆ เช่น กรณีตัดต่อปลอมแปลงคำสั่งหัวหน้า คสช.ล่าสุด เป็นต้น
บางกรณีเป็นความจริงครึ่งเดียว แต่บิดเบือนสาระสำคัญเพื่อเปิดช่องให้มีการนำไปใช้อ้างอิงตีความหรือเป็นฐานโจมตีสถาบันองค์กรต่างๆ
ควรที่ประชาชนผู้เสพรับข้อมูลข่าวสารจะต้องระมัดระวัง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพทางการเมือง
และ/หรือไม่ควรทำตัวเยี่ยงมิจฉาชีพเสียเอง ด้วยการเผยแพร่ต่อข้อมูลข่าวสารใด เพียงเพราะความสะใจ หรือตรงกับความพึงพอใจส่วนตัว
โดยไม่เคารพต่อความจริง และผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติส่วนรวม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี