เมื่อวานนี้ ติดตามฟังการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภา

ปรากฏว่า มีอดีต สส.ขี้ข้าของทักษิณหลายคน ลุกขึ้นมาอภิปรายประเด็น “ค่าโง่เหมืองทอง”

โดยพยายามผูกโยงไปกับประเด็นการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของพล.อ.ประยุทธ์ ที่อ้างว่าขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ทั้งๆ ประเด็นนี้ มีการชี้ขาดจบไปแล้วว่า หัวหน้า คสช. “ไม่เข้าข่าย” เป็น “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” จึงไม่ขาดคุณสมบัติ แต่ในสภาเมื่อวานนี้ก็พยายามทำไม่รู้ไม่ชี้ ตีหน้าเซ่อ แกล้งโง่ โดยตัดตอนถ้อยคำ จาก “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” บิดเบือนมาเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ซึ่งการเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” ไม่ขาดคุณสมบัติ นายกฯ ก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่แล้ว

แต่ประเด็นที่น่าสมเพชที่สุด คือ การพยายามอภิปรายเรื่อง “ค่าโง่เหมืองทอง”

ราวกับพยายาม “วางบิล” หรือช่วยทวงเงินให้ฝ่ายเอกชน

มันจะกระเหี้ยนกระหือรืออะไรขนาดนั้น

อ้างว่า หัวหน้า คสช.ใช้มาตรา 44 จะเกิดค่าโง่หลายหมื่นล้าน แล้วประเทศชาติก็จะเดือดร้อนในที่สุด

1. น่าเวทนา คือ คนพวกนี้ อ้างตัวเป็นผู้แทนราษฎร หลายสมัย

แต่ถามว่า ที่ผ่านมา ก่อนหน้าจะมี คสช. มันมีไอ้หน้าไหนช่วยชาวบ้านจากผลกระทบเหมืองทองคำได้บ้าง?

แม้แต่พยายามจะช่วยอย่างจริงใจ มีมั้ย?

อ้างเป็นผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เคยได้สำเหนียกความทุกข์ร้อนของชาวบ้านจริงๆ บ้างไหม?

2. สส.บางคนปากดีว่า จะต้องใช้กฎหมายปกติ ไปใช้มาตรา 44 ทำให้เกิดค่าโง่ จะต้องจ่ายค่าโง่

ถามว่า ถ้าใช้กฎหมายปกติได้ทันการณ์ ทำไมรัฐบาลก่อนๆ มันถึงไม่ช่วยชาวบ้านล่ะ

ตกลงมันใจดำ มันโง่ หรือมันเป็นทาสเงินของใคร?

ใจมืดมิด หรือสมองบอดใบ้ มองไม่เห็นปัญหาผลกระทบต่อสุขภาพอันเกิดจากเหมืองทองคำ จนดึงทุกอย่างมาเล่นการเมืองโจมตี ตัดแข้งตัดขา ทำลายประเทศตัวเอง

บางช่วงของการอภิปราย ฟังแล้วนึกว่าพวกรับงานเหมืองทองข้ามชาติมาโจมตีรัฐบาลไทย

3. กรณีเหมืองทองคำ นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่า ยังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการอนุญาโตตุลาการรวบรวมข้อมูล

อาจจะมีการพิจารณาอนุญาโตตุลาการช่วงปลายปี 2562

ขณะนี้ เหมืองทองคำคู่กรณี หยุดดำเนินการผลิตอยู่

ยังไม่มีคำตัดสิน และยังไม่จบเท่านี้

ทำไมมันถึงมี สส.ที่พยายามจะเคลมว่ายังไงก็จะต้องจ่ายกันมากเหลือเกิน

แล้วทั้งหมด เป็น สส.ที่อ้างตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย

และเป็นหรือเคยเป็นลูกน้องของทักษิณทั้งนั้น

4. พยายามจะโจมตีว่า หากมีคำตัดสินให้ฝ่ายรัฐบาลไทยแพ้ จะต้องจ่ายค่าเสียหาย ควรจะให้หัวหน้า คสช. พลเอกประยุทธ์ จ่ายเงินตัวเอง หรือเอาเงินแผ่นดินไปจ่าย?

ลองคิดง่ายๆ การปิดเหมืองทองนั้น ทำเพื่อผลประโยชน์ของใคร?

พลเอกประยุทธ์ใช้มาตรา 44 เพื่อคุ้มครองสุขภาพของชาวบ้าน ขวางอิทธิพลอำนาจของกลุ่มทุนข้ามชาติเหมืองทองคำ ที่ใหญ่โตถึงขนาดว่านักการเมืองทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่เคยมีรัฐบาลไหนเข้าไปดูแลปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของชาวบ้านจากกรณีเหมืองทองคำอย่างเป็นรูปธรรมเลย

ถ้านายกฯ พลเอกประยุทธ์นิ่งเฉยเสีย ไม่ดูดำดูดีความทุกข์ชาวบ้าน ปล่อยให้เหมืองทองคำดำเนินกิจการต่อไป แค่อ้างว่าต้องทำตามระเบียบที่มีอยู่เหมือนทุกยุครัฐบาล ก็ย่อมจะกระทำได้ อยู่รอดปลอดภัย แถมรัฐบาลก็จะได้ผลประโยชน์ ได้รายได้เข้ารัฐจากกิจการเหมืองทองคำ

ประโยชน์จากการปิดเหมืองทองคำตกแก่ชาวบ้านและประเทศชาติส่วนรวม ทำเพื่อปกป้องคุ้มครองชาวบ้านจากผลกระทบเชิงลบ หลังจากถูกละเลยมาตลอดทุกยุครัฐบาล แต่พอถูกตอบโต้กลับจากกลุ่มทุนที่สูญเสียผลประโยชน์ กลับมา สส.ที่อ้างเป็นผู้แทนราษฎร ตีฝีปาก พูดจาชี้นำในสภาในทางที่เป็นโทษแก่ประเทศชาติส่วนรวม

ทำไมเหมืองทองคำ จึงยังเปิดได้ในยุครัฐบาลก่อนๆ หน้า?

ทำไมชาวบ้านร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบร้ายแรงแต่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จัดการอะไรไม่ได้?

ทำไมรัฐบาล คสช.ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการ กลับใส่ใจทุกข์ของชาวบ้าน ยอมใช้มาตรา 44 ปกป้องประชาชน จัดการเหมืองทอง?

ทำไมแทนที่จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศชาติอย่างเป็นเอกภาพ สนับสนุนรัฐบาลต่อสู้คดี แต่กลับมี สส.ออกมาทับถม ซ้ำเติม เชียร์ทุนต่างชาติ (แต่ตอนชาวบ้านเดือดร้อนก็ออกมาด่ารัฐบาลให้ระงับเหมืองทอง)?

5. น่าแปลกใจ ทำไมไม่ยักช่วยกันทวงคดีสินบนข้ามชาติเหมืองทองคำ ที่อยู่ในชั้น ป.ป.ช.

ซึ่งมีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้ว ถูกกล่าวหาด้วย

ตกลงว่าคนพวกนี้ เป็นผู้แทนชาวบ้าน หรือเป็นผู้แทนผลประโยชน์ของใคร?

สารส้ม