l เจี๊ยบ & โจ๊ก ลูกรัก
โลกนี้คือ ละคร : รัฐบาล และ รัฐสภา คือ ละคร
บทละคร คือ คำประพันธ์ที่เขียนขึ้นสำหรับแสดงละคร
ตัวละคร = ตัวแสดงหรือผู้ที่สวมบทบาทต่างๆ ในละครหรือการแสดงอื่นๆ ผู้เขียนบทละครที่ดี จะมีเอกลักษณ์ในการเขียนบทให้ตัวละครมีความแตกต่างกัน
ตัวละครเอก = ผู้แสดงบทบาทสำคัญในภาพยนตร์ ละคร เป็นต้น
แสดงละคร = แสดงละครตามบทบาท ในบทละคร
l ในช่วงที่ผ่านมานี้ ประเทศไทย มีการแสดงละครหลายเรื่อง หลายบทหลายองค์ หลายฉากเป็นละครการเมือง ทั้งการเลือกประธานวุฒิสภาฯ และประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกฯ และรมต.
l บทในที่ประชุมรัฐสภา ก็สร้างความตื่นเต้นให้กับประชาชน ผู้ชมไม่น้อย (มาก มากจริงๆ)
หลายบทบาทหลายลีลา ดูแสดงสมบทบาทบ้าง เคอะเขินบ้าง เพราะประสบการณ์มากน้อยต่างกัน
ฝ่ายหนึ่ง ชอบอกชอบใจ จนถึง สะใจ “โก๋แก่ กี๋สาว” ที่เป็นกองเชียร์ในสภา และนอกสภาตัวเก่า หน้าเดิม หน้าซ้ำ แสดงนำ หวังเป็นดาวสภาชูโรง ว่า “กูแน่”
ปาก : ก็เรียกว่า “ท่านประธานสภาที่เคารพ”แต่เวลาพูดปากก็ด่า และกล่าวหาท่านประธานฯ น้องใหม่ บางตัวละคร ได้ถือโอกาส แสดงตัวหาเสียง ทั้งเหมาะสม และไม่เข้าท่า เป็นเสมือนละครลิง
อีกฝ่ายหนึ่ง ไม่พอใจ แสดงออกตอบโต้บ้างเป็นพิธี ฐานะผู้ใหญ่กว่า ปล่อยเด็กๆ หน้าใหม่ลองของ
l ฉาก “เลื่อนการประชุมออกไปก่อน” หรือ “ไม่เลื่อน” คะแนนออกมา “สูสี” อีกทั้งมีละครอีกฉากให้ดู “ห้า สส. พรรครัฐบาล” ออกเสียง เข้าข้างฝ่ายค้านแต่ตอนท้ายมากลับลำ เปลี่ยนใจ “ขานใหม่” จาก“เลื่อนเป็นไม่เลื่อน” แต่หมดสิทธิ์ ไปแล้วฉาก “ลงคะแนนจริง” ละครลิง ก็กลายเป็น ละครนอก “ฝ่ายรัฐบาล” ชนะฉากที่มีม่านกั้น หรือ “การลงคะแนนลับ” เสียงฝ่ายค้าน หายไปร่วมสิบเสียง “มาโหวตให้ฝ่ายรัฐบาลละคร” ลงคะแนนเสียง ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ปิดฉาก โดยรัฐบาลกวาดหมด แต่กว่าจะผ่านมาได้ ละครนอกสภา ก็มีข่าวจริง ข่าวปล่อย เท ทับกัน ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่านค้าน
l ประเด็น ที่ถูกหยิบยกมากล่าว จากฝ่ายค้าน และปีกไม่เอาลุงตู่ รวมทั้ง ปีกประธานสภาผู้แทนฯ
-เริ่มจาก “ละครคณิตศาสตร์” สูตรการเลือกตั้ง ที่เอาเศษมาปัด ทำให้พรรคเล็กสิบพรรค ได้ 10 สส.การกล่าวหา : กกต. คสช. มีตั้งแต่นักวิชาการน้ำดี น้ำเน่า และนักเลือกตั้งว่า “ทำผิด กลั่นแกล้ง” และ “นักการเมืองพรรคใหม่” ที่ชุบตัวแต่งองค์เป็นคนรุ่นใหม่ที่ “คิดเองว่าได้ 90” ถูกลดเหลือ 80
-เรื่องความผิดของเจ้าของพรรคใหม่ ในกฎกติกาเรื่องเป็นเจ้าของหุ้นสื่อ ที่ถูกศาลรธน.ให้ยุติหน้าที่ก่อน
-เรื่องการเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่ เมื่อได้ สส. พรรคใหม่ก็ต้องปรับเศษใหม่ก็ไปกล่าวหาอีก
-เรื่องประธานสภาผู้แทนคนดัง ไปอ้างว่า “ได้มา โดยไม่เกี่ยวกับพรรคร่วม” ก็ลดทอนศักดิ์ศรีตนไปไม่น้อย
l ความจริง ฉากละคร “การเลือกประธานและรองวุฒิสภา” ก็มีอยู่ : เป็นเรื่องของการเคารพให้เกียรติกันแต่ความจริง ควรต้องบันทึกไว้ ว่า “ผู้มีอำนาจในการจัดสรรฯ”สมควรจะต้องให้เกียรติเคารพ ทุกสว.อย่าฟังความด้านเดียว ต้องมองเห็นบทบาท สว. เก่า ที่ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของบ้านเมืองมาด้วยดี
l มาถึง “ละคร เรื่องใหญ่” การเลือกนายกรัฐมนตรี
- นักเลือกตั้ง นักวิชาการใหญ่เล็กที่อคติ อ้างแม่แบบ ปชต. นายกรัฐมนตรี ต้องมาจาก สส. เท่านั้น
- ตัวละคร ที่แสดงไม่เนียน เพราะ “บทไม่ถึง บาท”คือ “ไม่มีโอกาสได้รับเลือก” แต่ออกข่าวใหญ่โต มิหนำซ้ำ “ตัวเอก ทั้งหญิงใหญ่ ชายโต” ก็เป็น สส.สอบตก เพราะ “จัดทัพ” ที่มองไม่ออกบอกกึ๋นมีน้อย ชายเล็ก ที่พุ่งแรงแซงโค้ง “ทุนหนามหาศาล” และ “สื่อใหญ่ ทีมยักษ์จากในและนอก จ้างแพงหลายพันล้าน แสดงความอหังการ ทั้งก่อนหน้า และยิ่งหลังจากถูกตัดสิทธิชั่วคราวจากศาลรธน. ซึ่งไม่ควรกระทำ น่ะ อาตี๋
- มาถึงพรรคฝ่ายที่รวมรัฐบาล ก็มีบทแสดงใหญ่ ออกบทท่าทีไม่เบา “แสดงอะไรออกมา ไม่รู้ตัว” ไม่มองความเป็นจริง ขาดหลักการจริง อ้างแต่หลักการเทียม มีการจับคู่สองพรรคขนาดกลาง : หวังข่มขู่มีตัวละคร ออกมาแสดงรายวัน หน้าเดิมๆ เป็นรายตัว ไม่กี่องค์ แถมมีนักวิชาการและพ่อยกให้ท้าย
- ช่วงแรก แสดงบทใหญ่แรง จะเหมาหมด “ทั้งประธานสภาฯ ทั้งนโยบาย และตำแหน่งรัฐมนตรีสำคัญ”นโยบายเรื่องรองคุยกันได้ นี่จะให้ “แก้รัฐธรรมนูญ”ที่มาจากประชามติ 16.8 ล้านเสียง ไม่เหมาะสมความจริงมาจาก “ผู้นำ” ประเมินสถานการณ์ผิด ทั้งจากตัวเองและมีเหตุใหญ่ฟ้าผ่าเกิดขึ้นและการไปยึด “หลักการของปัจเจก อ้างมาเป็นของพรรค “มาก่อน ประชาชนและประเทศ ที่แปลกใจมาก “อุตสาหะ มานะ” ประดิษฐ์คำ ฝ่ายค้านอิสระ อ้างหลักการ “ไม่ร่วมสืบทอดเผด็จการ”
แต่ในช่วงใกล้ตอนอวสานของละคร “ชาวบ้านประชาชนทนไม่ไหว ออกมาให้ความจริงให้พรรคตระหนักที่เสื่อมทรุดได้สส.ต่ำร้อย เพราะ “ชาวบ้านลงโทษ” แต่ก็หวังให้กลับเนื้อกลับตัว เอาบ้านเมืองมาก่อนบุคคลโพลล์หลายสำนัก ก็ออกมาชี้ชัดตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม “อย่าทำอีก ที่หลังอย่าทำ” ยังให้โอกาสฯ
-ส่วนพรรคกลางอีกพรรคหนึ่ง ยังดูดีแต่ไปเอา “นโยบายกัญชา” ที่มองด้านเดียว มาขู่ : ซึ่งไม่ควรน่ะส่วนพรรคใหญ่ พรรคหลัก ต้องยึดนโยบายหลักของตนและบางตำแหน่งที่มีบทบาทขับเคลื่อนได้จริงช่วงแรกไปยอมมากไป เมื่อเปลี่ยนใจ และการมีหลากหลายฝ่ายในพรรค ที่จะต้องให้ความสำคัญด้วย
l แต่แล้ว ด้วยการยึดหลักการ เอาการเดินหน้าของบ้านเมืองมาก่อน และเสียงประชาชนออกมาสนับสนุนจึงทำให้ “ละคร” เรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีจบลงได้ดี ในช่วงใกล้เส้นแดง แต่ “ละครการเมือง” ของประเทศไทย ก็ยังต้องแสดงต่อไป โดยต้องสรุปบทเรียน ทำให้ดีขึ้น อย่าให้ผิดหวังชราชนที่ผ่านโลกจริงและโลกละครมาเยอะ คงสรุปบทเรียน “ประชาธิปไตยเผด็จการที่แท้จริงอยู่ที่ไหน??” หลักการตะวันตกจ๋า ที่ต้องเจ็บปวด เพราะ “ไปตัดตีนไทยให้เข้ากับเกือกประชาธิปไตยตะวันตก “ต้องมาสู้ประชาธิปไตย ที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ ที่ “ตัดเกือกตะวันตกให้เข้ากับ“ตีนไทย” ประชาธิปไตย จึงกินได้ มีประโยชน์ : ละคร ในรัฐบาลและรัฐสภา : จึงเกิดประโยชน์จริง น่าชม นะจ๊ะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี