ขออโหสิกรรม...
นายรักเกียรติ สุขธนะ เสียชีวิตที่จังหวัดเชียงราย ในวัย 65 ปี เตรียมฌาปนกิจ 14 มิ.ย.นี้
อดีตรัฐมนตรี 5 สมัย อดีต สส. 7 สมัย
แต่ถูกจดจำและเป็นกรณีศึกษาของสังคมไทยในการเรียนรู้กรณีทุจริตโกงกิน จากคดีทุจริตที่เขาถูกดำเนินคดี
1. นายรักเกียรติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องคดีทุจริต รับสินบน 5 ล้านบาท จากบริษัทยา ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และ
ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2546 ว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ให้ลงโทษจำคุก 15 ปี
นายรักเกียรติหลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษา แต่สุดท้าย ถูกตามจับกุมจนได้ เข้าคุกจนพ้นโทษออกมาบวชอยู่หลายปี และใช้ช่วงเวลาขณะบวชให้สัมภาษณ์ ให้สติ ให้แง่คิด เกี่ยวกับนักการเมืองทุจริต เกี่ยวกับความอยากได้ใคร่มีจนลืมอุดมการณ์ เกี่ยวกับนักการเมืองหนีโทษคดีทุจริต
2. นายรักเกียรติยังถูกดำเนินคดีฐานร่ำรวยผิดปกติ ยึดทรัพย์เป็นของแผ่นดิน 233 ล้านบาท
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2546 (คดีหมายเลขดําที่ อม. 1 /2545 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 1/2546) ให้ยึดทรัพย์เป็นเงิน 233.88 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้
ในคดีนั้น นายรักเกียรติพยายามแก้ต่างว่า ได้เงินมาจาก “การเล่นพนัน” ที่บ่อนกาสิโนเบอร์สวูด อินเตอร์เนชั่นแนล รีสอร์ท ประเทศออสเตรเลีย รวม 4 ครั้ง
เขาพยายามอธิบายถึงขนาดว่า มีรูปแบบการเล่นผ่านตัวแทนและตัวแทนช่วง ซึ่งผู้ไปเล่นพนันจะวางเงินของตนเองก่อนไปเล่นพนันหรือ
ขอวงเงินเครดิตจากตัวแทน และจะชำระบัญชีเงินพนันที่เล่นได้เสียกับตัวแทนเหล่านั้น โดยไม่ต้องนำเงินไปชำระบัญชีกับบ่อนกาสิโน หรือนำเงินกลับมาประเทศไทยเอง การใช้วิธีนี้ยังช่วยปิดบังการเป็นนักพนันด้วย แต่ด้วยวิธีนี้ เขาจึงต้องฝากเงินในชื่อบัญชีของบุคคลอื่น เพื่อความสะดวกในการที่จะเบิกมาใช้จ่ายทางการเมือง
ปรากฏว่า ศาลฎีกาฯ ได้พิจารณาว่า แม้ข้อเท็จจริงจะเห็นว่านายรักเกียรติเดินทางไปเล่นพนันจริง แต่ปัญหาคือเล่นพนันได้จริงหรือไม่ และเป็นเงินจำนวนเท่าใด ซึ่งมีแต่คำเบิกความของนายรักเกียรติเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นที่รวมเดินทางไปด้วยเบิกความว่าไม่ทราบว่านายรักเกียรติเล่นได้เสียจำนวนเท่าใด อีกทั้ง หากนายรักเกียรติได้เงินจากการเล่นพนันจริงก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องนำไปเข้าบัญชีคนอื่นก่อน เพราะอาจเกิดข้อโต้แย้งกันในภายหลังได้ ส่วนข้ออ้างที่ระบุว่า มีตำแหน่งเป็น สส. และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงจำเป็นต้องปกปิดไม่ให้สาธารณชนทราบว่าตนเองเป็นนักการพนันนั้น ศาลเห็นว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอ เพราะการนำเงินฝากเข้าบัญชีบุคคลภายนอกไม่อาจล่วงรู้ที่มาได้ อีกทั้งนายรักเกียรติเคยรับราชการที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ย่อมทราบถึงความสำคัญในการจัดทำและจัดเก็บเอกสารเกี่ยวกับการรับเงิน และการจ่ายเงินไว้เป็นหลักฐานเพื่อประโยชน์ต่อการตรวจสอบในภายหน้า นอกจากนี้ ข้ออ้างที่ระบุว่าสามารถไปเล่นพนันโดยไม่ต้องวางเงินก่อนเดินทางไปเล่นพนันได้ โดยขอเครดิตจากบริษัทตัวแทนนั้น ไม่สอดรับกับคำเบิกความของบริษัทตัวแทนที่ยืนยันว่า นายรักเกียรติมักวางเงินก่อนเดินทาง มีบางครั้งเท่านั้นที่ขอเครดิต ดังนั้น องค์คณะเสียงข้างมากจึงมีมติว่าการชี้แจงของนายรักเกียรติในคดีนี้ฟังไม่ขึ้น พิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
3. ขณะบวช พระรักเกียรติ รักขิตะธัมโม (สุขธนะ) ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ ถูกจัดพิมพ์เป็นหนังสือ “ถ้ารู้ธรรมะพระพุทธเจ้า อาตมาคงไม่ติดคุก” จากท้องนาสู่ทำเนียบ จากทำเนียบสู่เรือนจำ จากเรือนจำสู่ธรรมมาสน์
เนื้อหาเตือนสตินักการเมือง และบรรดาผู้ที่กำลังดิ้นรนอยากจะเป็นรัฐมนตรีอยู่ในวันนี้ได้เป็นอย่างดี อาทิ
“...เอาชีวิตของตัวเองมาเป็นตัวอย่างว่า มันผิดพลาดยังไง ชีวิตเราเจริญก้าวหน้าด้านการเมือง ประสบความสำเร็จพอควร อายุก็ไม่มาก วันหนึ่ง เราหลงใหล ตกอยู่ใต้กิเลส ตกอยู่ในการครอบงำของอบายมุขต่างๆ สิ่งเหล่านี้มันเป็นความเสื่อม อยากให้คนทั้งหลายรู้ว่า ถ้าใช้ชีวิตด้วยความประมาท อาจตกอยู่ภายใต้การครอบงำของกิเลสที่พอกพูนขึ้น ทำให้เราอยู่ในอบายมุข ขณะอยู่ในอบายมุขนั้น ก็มีความสุข ได้กินเหล้า มีผู้หญิงหลายคน เที่ยวเล่นการพนัน แต่มันเป็นความสุขที่ไม่ยั่งยืน เดี๋ยวก็เสื่อม ทำให้ชีวิตเราตกต่ำ 5 ปีที่อยู่ในเรือนจำได้เห็นมาหมด เหมือนเราตกนรกทั้งเป็น..
...คนติดคุกมันอายนะ จริงๆ เราก็ควรจะอาย เป็นรัฐมนตรีที่ติดคุก แต่มันเป็นเรื่องจริงคนเขาก็รู้กันทั้งประเทศอยู่แล้ว ผิดก็ต้องยอมรับว่าผิด ผิดแล้วเราก็ต้องแก้ไข ผิดแล้วเราไม่ได้แก้ตัว ชีวิตเราไม่ย้อนเดินทางเก่า....
.... (ช่วงหนี) เวลาซ่อนตัวมันไม่มีความสุข โทร.หาใครก็ไม่ได้ ก็หนีอยู่ในกรุงเทพฯ นี่แหละ ใช้เงินวันละ 100 บาทน่ะ กินข้าวอย่าเกินมื้อละ
30 บาทนะ คนเคยมีเงิน อยากได้อะไรก็ได้ แถมมีอำนาจด้วย โอ๊ย บารมีมันขึ้นนะ เนรมิตอะไรก็ได้หมด แต่เวลามันลง ดวงคนนะ ต้องซ่อนตัว หนี เคยมีไฝก็เอาไฝออก ไว้หนวด ใส่แว่นตาดำ หนีอยู่ปีหนึ่ง จนตุลา 2547 เดินออกกำลังกาย อยู่ที่สวนสาธารณะที่บางกรวยโน่น มีคนไปแจ้งตำรวจ เขาก็ไปจับ วินาทีที่ควบคุมตัว ไม่ใช่เสียใจนะ มันโล่งใจ เราไม่ต้องหนีอีกแล้ว การหนีนี่เป็นอะไรที่ทรมานมาก มันไปไหนไม่ได้ มันอยู่แบบ... จะประสาท เคยคิดจะฆ่าตัวตาย เคยคิดหนีไปต่างประเทศ เคยคิดจะมอบตัว มันมีทางสามแพร่งให้เลือก ขึ้นไปตึกสูงๆ อย่างตึกใบหยกโดดลงมาให้มันตายไปเลย เพราะเสียชื่อเสียงมาก ญาติพี่น้องเดือดร้อน ลูกเมียเดือดร้อน เวลาคนพลาดก็มีแต่คนซ้ำเติมนะ ไม่มีคนเห็นใจเราหรอก
อย่างท่านทักษิณนี่ โทษ 2 ปี แล้วเขาก็หนีไป แล้วเขาก็มาทำลายบ้านเมือง ไม่ได้อิจฉาเขานะ สงสารเขาเสียด้วยซ้ำไป ไม่รู้ว่าจะได้กลับเมืองไทยหรือเปล่า ทรมาน หนีไปต่างประเทศก็ทรมานนะ ไม่ใช่มีเงินแล้วไม่ทรมาน ติดต่อใครก็ลำบาก นี่เห็นไหม อยู่ดูไบก็อยู่ไม่ได้แล้ว จะไปอยู่มอนเตเนโกร เขาก็ตามไป มันก็ไม่ใช่สบาย คุณจะมีเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัว บินอยู่บนฟ้า ก็ยังกลัวเขาสอยเลย แล้วจะอยู่ยังไง มันไม่มีความสุขหรอก ที่สัมภาษณ์ตอนปล่อยตัวออกจากคุกเลยบอกว่า ขอบคุณนะที่วันนั้นไม่หนี มันโล่งใจ เราเห็นทางอยู่ เราเป็นนักกฎหมาย ทำยังไงถึงจะได้กลับบ้านเร็ว มองหาประตูกลับบ้านเลย มีวิธีไหนบ้าง...
...เสียใจ ไม่รู้ธรรมะพระพุทธเจ้า ถ้ารู้เราคงไม่ติดคุก ชีวิตเราคงไม่ย่อยยับขนาดนี้ เราคิดว่า กรรมเวรมันมีจริง ต้องเชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ทุกคนมีกรรมเป็นของๆ ตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด เพราะกรรมเก่าเป็นแดนกำหนด เราเชื่ออย่างนั้น พระพุทธเจ้าสอนอย่างนั้น ก็ถือว่าวันนี้ เต็มที่แล้ว พอแล้ว ไม่มีใครเหมือนเราแล้ว ประสบการณ์ และชีวิต ใครจะเล่นกาสิโนเสียทีละ 100 ล้าน ไม่มี ผู้หญิงกี่ประเทศเมื่อก่อนนี้ มีหมด มันผ่านมาหมด ทางความเสื่อมเราเห็นแล้ว ทางนรก เราก็เห็นแล้ว เราไม่เดินไปทางเก่าแล้ว...”
บวชได้ 3 ปีกว่า ก็ลาสิกขา ออกมาใช้ชีวิตเงียบๆ
กระทั่งเสียชีวิตอย่างสงบ
ขออโหสิกรรม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี