l คติในการทำงาน : ไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจไม่มีอะไรทำไม่ได้ > หากคิดดี คิดจริงทำจริงสิ่งดีในชีวิต : ที่ป๋าแม่-ครู-พระ “ให้มา” และนำมารวมกับ : สิ่งที่ปู่จิ๊บ : คิดดี คิดถูก คิดสร้างสรรค์
1.เริ่มจาก “ชื่อ” ของตัวเอง
ชัยวัฒน์ สุรวิชัย = ชัยชนะถาวร (ที่มาจาก ชัยชนะเล็กๆ) จากความกล้าหาญที่เข้มแข็ง ต่อเนื่อง
ชัยวัฒน์ คือ ชัยชนะที่ถาวร
สุรวิชัย คือ ชัยชนะ ที่มาจากความกล้าหาญ และความเข้มแข็ง
(สุร = ว. กล้าหาญ เข้มแข็ง, วิชัย = น. ความชนะ,ชัยชนะ)
จิ๊บ มาจาก Jeep (ร้านชัยประสาน ลำปาง ขาย
อะไหล่รถยนต์ทุกชนิด จิ๊ป ฟอร์ด เชฟ แลนด์ฯ
Jeep = General Propose = การใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
คือ รถ Jeep เป็นรถยนต์รุ่นแรกๆ ที่ใช้ในงานบุกเบิก ลุย เข้าป่าฯ จึงมีความทรหดมาก
- ชื่อจัดตั้ง : สหายสุข ชมจันทร์ (Comrade : Happy See Moon) คนที่เข้าไปต่อสู้ในป่า จะต้องมีชื่อ “จัดตั้ง” เพื่อใช้การสื่อสาร เป็นสรรพนามแทนตนเพราะการต่อสู้ในป่า ชนบท มีความเสี่ยงสูง จึงต้องมีการปิดลับ ไม่ให้ “ศัตรู” รู้ว่า เรา คือ ใคร ?
ชื่อจัดตั้งของผู้นำคนดัง
ธีรยุทธ บุญมี = สหายชัยชนะ, ประสาร มฤคพิทักษ์ = ส.ศักดิ์สิทธิ์, ชำนิ ศักดิเศรษฐ์ = ส.รักชาติ ซึ่ง พี่ไขแสง สุกใส
(สหายไกรสีห์) เป็นคนกำหนดชื่อจัดตั้งให้ แต่สำหรับ “ชัยวัฒน์ สุรวิชัย” : ต้องกำหนดชื่อจัดตั้งด้วยตนเอง > แล้วจะเอา ชื่ออะไร? คิดว่า ตัวเองต้องการอะไรในการเข้าป่า และจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อการต่อสู้ที่ยาวนานในป่า (ทราบไหมครับ, นักศึกษา ประชาชน นักการเมืองฯ ที่เข้าป่า มีจินตนาการ ว่า “สู้ยาว อยู่นานแน่”
ปู่จิ๊บ : คิดไม่นาน ก็ได้ ชื่อ “สหายสุข ชมจันทร์” คือ ต้องมี “ชื่อและนามสกุล” ด้วย คือ เป็นชื่อแบบชาวบ้าน ต้องมีทั้งชื่อและนามสกุล
สุข คือ สิ่งที่อยู่ในจิตใจ เป็นทั้ง “กายใจ สุข” ความคิด และเป้าหมาย “ที่เป็นสุข” และทุกคืน เวลามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เราจะเห็นได้ชม “ดวงจันทร์”
@ และชื่อ ภาษาอังกฤษ ล่ะ ได้มาอย่างไร?
ได้มาทีหลัง หลังจากเข้าป่า ในนามพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย เข้าร่วมกับ พคท. และเมื่อมีการจัดตั้ง “องค์กรแนวร่วมประชาธิปไตย” เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลปฏิกิริยาในนาม “กปปช.” คณะกรรมการประสานงาน ผู้รักชาติรักประชาธิปไตย ตั้งอยู่ ที่สำนักแนวร่วม A 30 อยู่แนวหลัง (การต่อสู้ มีแนวหน้า ที่ต้องสู้ปะทะกับฝ่ายรัฐบาล) ต้องมี“กองหลัง” เป็นฝ่ายเสริมและสนับสนุน ด้านความคิด การเมือง การศึกษา อาหาร อุปกรณ์ฯ
กปปช. ทำหน้าที่ในการประสานความสามัคคีร่วมมือกับคนไทยและมิตรต่างประเทศ มีการออกหนังสือประจำ
ในชื่อ “สามัคคีสู้รบ” เมื่อมีมิตรต่างประเทศ มาดูงานและมาเยือนที่สำนัก กปปช. สหายอื่นๆ ก็แนะนำชื่อ “จัดตั้งของตนเอง” สหายชัยชนะ สหายเกษม สหายรักชาติ ฯลฯแต่สำหรับปู่จิ๊บ ทำให้ทุกคนมีสุข หัวเราะได้ เมื่อแนะนำตนเองว่า “C. Happy See Moon”
l ผม ได้ทำให้ “ชื่อ” ของตนเอง มีคุณค่าและความหมาย ด้วยการคิดดี ทำดี ก้าวแรก และก้าวต่อๆ ไปโดยการใช้ “ใจ สติ ปัญญา ความรู้ ความจริง” ทุ่มเท สรุปบทเรียน พัฒนา ให้เจริญก้าวหน้าไปเรื่อยๆ
2.คติในการทำงาน : ไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจ ไม่มีอะไรทำไม่ได้ > หากคิดดี คิดจริงทำจริง เริ่มต้น ผมมิได้ มีคติในการทำงานเช่นนี้ อย่างครบถ้วน เช่นปัจจุบัน การได้มา จนถึงขั้น ตกผลึก ความคิดและใจติด ได้เช่นนี้มาจากพื้นฐานชีวิต ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ มาเป็นรูปธรรมแก่ตัว คือ “ป๋า แม่” ที่เป็นแบบอย่าง
ป๋า : ทำมาค้าขาย ที่สู้ไม่หยุด ทุ่มเทชีวิต ตั้งใจทำงาน เพื่อครอบครัว เมียและลูก ทำทุกวัน แต่เช้ายันค่ำ
แม่ : เป็นอีกด้านหนึ่งที่สำคัญของครอบครัว คือ การดูแลลูก ความคิดชีวิต และการศึกษาเล่าเรียน เกาะติด ตั้งแต่การหาโรงเรียนที่ดีที่สุดให้ลูก และส่งเสริมสนับสนุน ในความคิดความถนัดของลูกๆ เขียนจดหมาย ส่งความรักความเป็นห่วงความหวัง และมีสอดแทรก “เกร็ดความรู้ดีๆ ที่ได้มาจากการอ่านและทีวี ทำไม่หยุด แม้ลูกไปเรียนที่กรุงเทพฯ ไปอยู่ต่างประเทศ เขียนจดหมายจนถึงวันสุดท้าย ที่เขียนไม่ได้แล้ว แต่ป๋าและแม่ก็เป็นแบบอย่างของ“ความพอดี พอเพียง ยึดความดี ความสุข” ไม่เก็บสะสมมากเกิน การสอนสั่ง เป็นการใช้เหตุผล การทำตัวเป็น
แบบอย่าง ไม่ใช้อำนาจ เสียงดัง วาจาที่ไม่เหมาะสม
“ป๋า : ไม่มีสมบัติอะไรจะให้ลูกๆ นอกจากความรู้ ลูกคนไหนอยากเรียนอะไร, ป๋า จะส่งให้หมด”
ลูก : เมื่อเติบโต มีวิชาความรู้ ก็ไปสร้างอนาคต และฐานะของแต่ละคน : ตามความคิด ความชอบของตน
- จากคำสอนและแบบอย่างที่ดีของ ครู พระ ผู้ใหญ่ที่ดี คิดและทำเพื่อส่วนรวม รวมทั้งเพื่อนมิตร
- ผู้นำระดับโลก ประเทศ ด้วยการอ่าน ศึกษาเรียนรู้ ทำความเข้าใจ
- การศึกษาเรียนรู้ และนำมาปฏิบัติด้วยตนเอง ผิดถูก แล้ว ปรับแก้ไข ด้วยความมุมานะ
- การพัฒนาและสร้างด้วยตนเอง ตำแหน่ง บทบาทหน้าที่การงาน ระดับมหาวิทยาลัย และประเทศด้วยความเพียรพยายาม วิริยะ อุตสาหะ หนักเอา เบาสู้ ไม่เกี่ยงงานไม่ยอมแพ้ ไม่หยุดหากไม่สำเร็จ
- การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในมหาวิทยาลัย และบ้านเมือง ที่มีมากขึ้น ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน
- การมีโอกาส และการเข้าร่วมเหตุการณ์สำคัญ ตั้งแต่เริ่มต้น จนบรรลุ สำเร็จ ชนะ หรือแพ้ ทำให้เราเข้าใจ เรื่องราวต่างๆ อย่างเป็นกระบวนการ ไม่จินตนาการ เอาอคติของตนต่อเติมเสริมแต่งเอง
- การพบปะ รับฟัง แลกเปลี่ยน กับผู้คนทุกระดับในสังคม เปิดใจกว้างต่อผู้เห็นด้วย และแตกต่าง
- การมีกัลยาณมิตรที่ดี ในแต่ละเหตุการณ์ ที่รัก นับถือ เชื่อมั่น เชื่อใจกัน
- การเริ่มต้น ด้วยการให้ มากกว่าเอา เดินสายกลาง รับความเห็นจากสองฝากฝั่งแห่งความขัดแย้ง
- การมีความคิด และชีวิต ที่พอเพียง พอใจสิ่งที่มี และที่สำคัญ คือ มีความสุขในการทำงาน
- การเดินสายกลาง และความพอเพียง ทำให้ชีวิตไม่ค่อยผิดพลาด ไม่ผิดหวัง ไม่มีอะไรทำให้ท้อแท้
- การจัดสรร ให้เวลาแก่เรื่องส่วนรวม มากกว่าเรื่องส่วนตัว ทำให้มีเวลาในการทำงานได้เต็มที่
l 3.การสรุปบทเรียน ด้วยความจริง การใช้ ความรู้สติปัญญา ทำให้ รู้ข้อดี ข้ออ่อน ข้อจำกัดของตนเองแล้วนำมาปรับมาพัฒนาตนเอง ให้ก้าวหน้าขึ้น ทำงานได้มากขึ้น ได้ดีขึ้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี