ปัญหาของกรุงเทพมหานครนครหลวงของราชอาณาจักรไทยเกิดขึ้นมานานมากกว่า 30 ปี ว่ากันว่าเป็นเพราะรูปแบบการบริหารงานของกรุงเทพมหานครที่เป็นอยู่ล้าสมัยและถึงเวลาที่จะต้องปฏิรูปและผ่าตัดเพื่อให้บริการประชาชนดีขึ้นจากที่กำลังเป็นอยู่ซึ่งพบว่ามีข้อบกพร่องเกิดขึ้นอย่างมากมาย กทม.ของเรานั้นเป็นทั้งนครหลวงที่เรียกว่า Bangkok Metropolis และเมืองหลวงของราชอาณาจักรไทยที่เรียกว่าเป็น Royal หรือ National Capital City
กทม.เป็นมหานครขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของผลประโยชน์ที่ทำให้เกิดการแข่งขันชิงแกนนำทางการเมืองที่พาไปสู่ความขัดแย้งในรอบหลายปีที่ผ่านมาหากจะมีการนำปัญหาต่างๆ ของกทม.มาวิเคราะห์มากมายทั้งประเด็นคุณภาพชีวิตของชาวกทม.ที่มีเรื่องของการจราจรติดขัด, อุทกภัย, ขยะมูลฝอย, สิ่งแวดล้อมมลภาวะเสื่อม, สภาพอากาศเสียและการบริหารจัดการอยู่ภายใต้อำนาจของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเพียงคนเดียว
ปัญหาที่กล่าวนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการบริหารจัดการของกรุงเทพมหานครภายใต้กฎหมายกับโครงสร้างที่ล้าสมัยของกฎหมายที่เก่าแก่กว่า 30 ปี ซึ่งไม่เหมาะกับสภาวะเหตุการณ์ปัจจุบันและจากรายงานการศึกษาเรื่องการปรับปรุงรูปแบบโครงสร้างการบริหารงานกรุงเทพมหานครของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่นของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่นสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ระบุว่ากรุงเทพมหานครเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ตั้งขึ้นตามพ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2518 และปรับปรุงแก้ไขโดย พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ซึ่งใช้มาโดยมีการแก้ไขทั้งหมดอีก 4 ครั้ง ซึ่งเป็นการแก้ไขปลีกย่อยในระดับรายละเอียดของบางมาตรา
โครงสร้างการบริหารงานของกรุงเทพมหานครส่วนใหญ่ยังคงเดิมอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา 89 แม้จะมีการแก้ไขในปี 2542 และ
มี พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 เพิ่มอำนาจให้แก่กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้ทำให้อำนาจหน้าที่ของกรุงเทพมหานครและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเปลี่ยนไปแต่อย่างใด
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพมหานครเป็นกฎหมายเก่าที่ใช้มาแล้ว 34 ปี ทำให้กรุงเทพมหานครเป็นองค์กรบริหารงานส่วนท้องถิ่นและนิติบุคคลที่มีขนาดใหญ่เกินไปรวมทั้งมีหน้าที่ดูแลงบประมาณเป็นจำนวนมากในปีงบประมาณ 2562 นั้นกทม.ได้รับงบประมาณจำนวน 80,445.80 ล้านบาท ส่วนปีงบประมาณใหม่ในปี 2563 ได้ตั้งงบประมาณไว้จำนวน 83,398.92 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 2,953.12 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.67 ซึ่งจะเห็นว่าเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
กทม.มีพื้นที่ต้องดูแล 1,568.737 ตารางกิโลเมตร มีประชากรตามทะเบียนราษฎร 5,676,648 คนในขณะที่มีประชากรแฝงที่เข้ามาอาศัยอยู่อีกจำนวน 5,144,273 คน รวมทั้งสิ้น 10,820,921 คนโครงสร้างการบริหารของกรุงเทพมหานคร จะพบว่าผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีหน่วยงานในสังกัด 70 หน่วยงาน ได้แก่ สำนัก 20 หน่วยงาน และสำนักงานเขต 50 แห่ง ทำให้มีช่วงการบังคับบัญชากว้างขวางมากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต้องปกครองบังคับบัญชาทั้ง 70 แห่ง โดยตรงทำให้ขาดความคล่องตัวในการบริหาร กทม.เป็นนครหลวงที่มีขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หน่วยให้บริการประชาชนของกรุงเทพมหานครมีจำนวนจำกัดการแบ่งพื้นที่กรุงเทพฯเป็น 50 เขต ซึ่งไม่ใช่นิติบุคคลที่รับผิดชอบต่อประชาชนโดยตรงเพราะเป็นหน่วยงานในสังกัดของกรุงเทพมหานครทำให้อัตราส่วนของสำนักงานเขต 1 แห่ง ต้องให้บริการประชาชนเฉลี่ย 216,418 คน เมื่อนำไปเทียบกัจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีความเจริญอย่างชลบุรี, ปทุมธานี หรือนนทบุรี จะพบว่าอำเภอ 1 แห่ง ให้บริการประชาชนเฉลี่ยแค่ 10,000 กว่าคนเท่านั้น
ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น สนช.ได้มีการยกตัวอย่างการบริหารงานของมหานครใหญ่ๆ ของโลกจะไม่ให้ผู้ว่าราชการนครดูแลนครแค่คนเดียวแต่มักจะมีผู้บริหารช่วยกันดูแลหลายๆ คน เช่น นายกเทศมนตรี 3 คน รับผิดชอบ 3 นคร และมีผู้ว่าราชการจังหวัดอีกคนทั้งหมดจะมาจากการเลือกตั้งเหมือนกันและให้มีการทำงานประสานกัน ซึ่ง กทม.อาจจะแบ่งพื้นที่ 50 เขตออกไปเป็น 3 อนุมหานคร ซึ่งได้แก่ กรุงเทพมหานคร มีฐานะเป็น Greater BangkokMetropolitance Administration ทำหน้าที่ดูแลบริหาร 3 มหานคร ได้แก่ เทศบาลนครธนบุรี, เทศบาลนครกรุงเทพ และเทศบาลนครรัตนโกสินทร์เฉลี่ยแล้ว 1 มหานคร จะดูแลประมาณ 16-17 เขต ซึ่งรูปแบบจะเหมือนกรุงลอนดอน, กรุงปารีส และกรุงโตเกียว
หรืออาจจะซอยแยกออกเป็น 6 เทศบาลนครบาล เช่น เทศบาลกรุงเทพกลาง, เทศบาลกรุงเทพใต้, เทศบาลกรุงเทพเหนือ เทศบาลกรุงเทพตะวันออก, เทศบาลกรุงธนเหนือและเทศบาลกรุงธนใต้ การปฏิรูประบบบริหารกทม. ในระบบนี้ก็ต้องฝากความหวังไว้ที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกทม. รับไปพิจารณาดูว่าจะทำได้หรือไม่
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี