หนักแน่นในจรรยาบรรณ “อุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา”...
nn “บุคคลแนวหน้า-หนังสือพิมพ์แนวหน้า” โดย “ไม้หน้าสาม” ฉบับนี้ ขอเริ่มต้นที่ความเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเริ่มที่ “ขี้ข้าหน้าเหลี่ยมยี่ห้อแม้ว-ทักษิณ” ปากยื่นจมูกยาวดาหน้าออกมาขย่ม “รัฐบาลลุงตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อย่าง “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” โฆษกพรรคเพื่อไทย เสนอรัฐบาลตั้งศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายจากพิษเศรษฐกิจ “ไม้หน้าสาม” ว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ไม่เป็นธรรมกับ “รัฐบาลลุงตู่”...
nn เพราะแท้จริงแล้ว “ปัญหาเศรษฐกิจ” ไม่ได้วิกฤติแต่ในประเทศไทย แต่เป็นภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลกซึ่งเป็นผลด้านหนึ่งมาจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ใช้ยุทธวิธี “Set up a tax barrier และ Anti-dumping” จนยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ ยังเอาตัวแทบไม่รอด...
nn โลกนี้มีอะไรต่อมิอะไรก็ล้วนแต่ไม่เที่ยงหนอ “สัมภเวสี” ต่างแดนอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ให้ท้าย “ลิ่วล้อ-ขี้ข้าโจร” ปลุกเร้าม็อบให้แบ่งแยก “ไพร่-อำมาตย์” ทำไทยฆ่าไทยไปนับร้อยศพ ยังมีชีวิตสุขสบาย มีเงินก็หนีคดี ปล่อยให้ลูกน้องประเภท “ขี้ข้าโจร-ติ่งแม้ว” ติดคุกแทน...
nn “ไม้หน้าสาม” พอจำได้บ้างว่ามีการระดมม็อบออกมาต่อต้าน “รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ครั้งนั้น“สัมภเวสี” ที่ไปซุกใต้อุ้งขอใช้สัญชาติต่างชาติ ถือโอกาสปลุกระดมมวลชนคนรากหญ้าที่ไม่ประสีประสา โดยการ “โฟนอิน” ข้ามประเทศเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นเมื่อใด “โจรหน้าเหลี่ยม” จะเดินนำหน้าม็อบพี่น้องรากหญ้าต่อสู้อำมาตย์ร้ายด้วยตัวเอง...
nn แถมยังปลุกระดมให้ไปรวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัด สุดท้ายสมบัติชาติศาลากลางจังหวัดกลายเป็นทะเลเพลิงหลายหลัง “คนเสื้อแดง” ติดคุกคนละ 20 กว่าปี...
nn ส่วนเมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน ศาลยกฟ้องคดีก่อการร้าย “จตุพร พรหมพันธุ์” บอกว่าอย่าเพิ่งดีใจ เพราะพี่น้องเสื้อแดงยังต้องรับวิบากกรรมกันอีกมากมาย...
nn วาจาช่างศักดิ์สิทธิ์นัก ถัดมาไม่กี่วัน ศาลฎีกามีคำพิพากษาคดีแพ่งอันเป็นผลมาจากการปลุกปั่นของแกนนำเสื้อแดง (นปช.) ซึ่งศาลฎีกากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น-อุทธรณ์ให้ “สามเกลอ-ตู่-จตุพร-เต้น-ณัฐวุฒิ-กี้ร์-อริสมันต์” จ่ายเงินค่าเสียหายจากการวางเพลิงของม็อบเสื้อแดงเป็นเงิน 19.3 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 /ปี คดีนี้เดิมผู้เสียหายบริษัทห้างร้านเอกชนเป็นโจทก์ฟ้อง อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ กองทัพบก กทม. แต่ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วไม่ประทับรับฟ้อง แถมยังยกฟ้องสามเกลอ ในชั้น “ศาลอุทธรณ์” ก็พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น “คดีก่อการร้าย” ที่ “ศาลชั้นต้นยกฟ้อง” ยังเหลืออีกสองศาล ต้องมาวัดฝีไม้ลายมืออัยการสูงสุดกันว่าจะเป็นเช่นไร สมองบ่มิไก๊ หรือ กึ๋นระดับปรมาจารย์ทางกฎหมายสามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนคนไทยได้อย่างไรข้อครหา โปรดอย่ากะพริบตา...
nn เจอโจมตีอย่างหนักสำหรับ “รังสิมันต์ โรม” สส.ค่ายอนาคตใหม่ ได้รับเงินเดือนสส.พร้อมเบี้ยประชุมเดือนละแสนกว่าบาทยังไม่รวมเบี้ยประชุมกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการสามัญชุดต่างๆ หรือเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญคณะต่างๆ กับเบี้ยประชุมกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (ถ้าเป็นวิปฝ่ายค้าน) ซึ่งในปัจจุบันได้มีการเพิ่มคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร แต่เจ้าตัวกลับแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่ายังติดหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เกือบ 2 แสนบาท และจะใช้สิทธิ์ลากยาวผ่อนชำระไป ตามกรอบเวลา 15 ปี แต่พอสังคมโซเชียลกระหน่ำเลยพลิกลิ้นจะเร่งชำระให้หมดก่อน 15 ปี สมองคิดได้แค่นี้หรือ??? ต้องให้สังคมกระตุ้น เงินกยศ. นี่ถ้าคุณเรียนจบมีงานทำก็ควรจะเร่งผ่อนชำระให้หมดโดยเร็ววัน เพราะรุ่นน้องจะได้กู้ยืมศึกษาต่อ ถ้าคนเป็นสส.บอกว่าจะต้องนำเงินเดือนสส.ไปเกื้อหนุนพรรคอนาคตใหม่ก่อน “ไม้หน้าสาม” ไม่คิดมาก ที่ท่านผู้ทรงเกียรติ“รังสิมันต์ โรม”คิดเยี่ยงนี้ เพราะเป็นเรื่องของสามัญสำนึกที่ไม่มีใครปลูกฝังให้ใครได้นอกจาก “ครอบครัว” แต่ละคนต้องขวนขวายต้องสร้างเอง ประเภทไปเช่าจิตสำนึกส่วนกลางมาใช้คงไม่มีปัญญาแน่นอน เพราะหนี้กยศ.ยังไร้ความสามารถที่จะรับผิดชอบนี่หรือนักการเมืองหน้าใหม่ของพรรคการเมืองใหม่ที่กล้าพูดเต็มปากว่าอุดมไปด้วยอุดมการณ์ทางการเมืองแน่นหนา...
nn ถึงตรงนี้ “ไม้หน้าสาม” อยากบอกว่าขอขอบคุณพรรคปชป. โดยเฉพาะ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาฯ และประธานรัฐสภาในปัจจุบัน ที่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ขับเคลื่อน “นโยบายกยศ.” จนเยาวชนไทยได้โอกาสรับการศึกษาอย่างทั่วถึงจนมีอนาคตที่ดีที่สดใสมากมาย แต่ยังไม่วายมีพวกไร้สามัญสำนึก ตีมึนกู้ยืมไปเรียนจนได้ดิบได้ดี แต่ไร้ความรับผิดชอบมีงานมีเงินมีเกียรติยศแต่ไม่มีจิตสำนึกเร่งรีบใช้หนี้ กยศ.เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้โอกาสร่ำเรียนอย่างมันบ้าง...
nn ข่าวดีสำหรับประเทศไทย และถือเป็นผลงานชิ้นสำคัญของอดีตรัฐบาลคสช. หลังจากที่ลุงตู่มอบหมายให้พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ อดีตรมว.ทส. แก้ไขปัญหาการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมาย ล่าสุด “ธัญญา เนติธรรมกุล” อธิบดีกรมอุทยานฯ นำทีมผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม CITES CoP18 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17–28 สิงหาคม 2562 ณ ศูนย์ประชุม Palexpo, นครเจนีวา
สวิตเซอร์แลนด์ ที่ประชุมได้มีการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ข้อมูลจากระบบสารสนเทศการค้างาช้าง (ETIS Report) ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการค้างาช้างผิดกฎหมาย ที่สำคัญเลขาธิการไซเตส ยังชื่นชมประเทศไทยว่าได้ดำเนินมาตรการหลายอย่างในการปฏิบัติตามอนุสัญญา CITES และแก้ไขกฎหมายสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า รวมทั้งการจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เรื่อง การป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย ซึ่งไทยมีบทบาทอย่างชัดเจนในการเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ “ไม้หน้าสาม” ขอชื่นชมต่อความสำเร็จที่ว่านี้ หากไม่ได้ข้าราชการประจำ โดยเฉพาะอธิบดีธัญญา และฝ่ายการเมืองที่เข้มแข็งมุ่งมั่นบริหารงานเช่นนี้ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากเวทีโลก...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี