วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เป็นความพยายามของนักการเมืองพรรคฝ่ายค้านส่วนหนึ่ง ที่พยายามประโคมวาทกรรมสร้างความแตกแยกในท่วมกลางสถานการณ์วิกฤติน้ำท่วม
อ้างว่า รัฐบาลไม่ดูแลคนอุบล นายกฯ ไปไหนไม่ลงพื้นที่ ทหารไปไหน มีทหารไว้ทำไม ฯลฯ
บางคน ถึงขนาดมโนไปไกลว่า ทักษิณบริจาคเงินมาช่วย 100 ล้านบาทซึ่งไร้สาระที่สุด
บางคน บอกว่ารัฐบาลใจดำ ไม่เปิดรับบริจาคระดมน้ำใจคนไทย
พอเปิดรับบริจาค พวกเครือข่ายเดียวกันก็หาว่ารัฐบาลมาขอรับบริจาคเพื่ออะไร ทำไมไม่ใช้เงินภาษีไปช่วย
บางคน ผสมโรงเอาข้อมูลเท็จมามั่วนิ่ม ว่ารัฐบาลถังแตก ไม่มีเงินช่วยน้ำท่วม
ที่เลวร้ายมาก คือ นักวิชาการบางคนถึงขนาดทำจิตสำนึกความเป็นมนุษย์หล่นหาย โพสต์ยุยงให้คนโทรเข้าไปด่านายกฯ โดยไม่ต้องบริจาคในงานระดมน้ำใจคนไทย ฯลฯ
ทั้งหมด คือ ภาพสะท้อนบางส่วนที่ต่ำตมชั่วร้าย ในสถานการณ์ที่คนไทยต้องการความสามัคคีในการช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยอย่างที่สุด
1. นักข่าวโทรทัศน์ที่ลงพื้นที่น้ำท่วม คุณอรรถพล ดวงจินดา คงทนไม่ไหว โพสต์ข้อความว่า
“...ทหารไม่ช่วย เจ้าหน้าที่ไม่ดูแล รัฐบาลไม่ช่วยเหลือ ผมลงพื้นที่ได้ยินบ่อย
ขณะปากพูดนั้น ในมือรับถุงยังชีพจากราชการ อาศัยเรือทหารยกทรัพย์สินหนีน้ำ
ผมเห็นกับตาได้ยินเต็มสองหู และไม่ใช่ครั้งเดียวที่ผมตวาดกลับไปว่านี้ไม่ใช่หรือที่ช่วยอยู่
ทำไมคนไทยด้วยกันถึงคิดแบบนั้น
อย่าอคติให้มากไปเลยครับ
เข้าใจในบริบทว่ามันเป็นภัยพิบัติ น้ำมันท่วมกว้าง มันท่วมสูง เขาช่วยมาตั้งแต่ต้นน้ำแล้ว และก็ช่วยต่อเนื่อง
เห็นใจเจ้าหน้าที่ เห็นใจความรู้สึก พี่ทหาร ตำรวจ ตชด.และอีกหลายๆหน่วยงาน เขาก็มีความรู้สึก แต่ก็เห็นใจผู้ประสบภัยทุกคน
ช่วยกันให้ผ่านพ้นภัยไปร่วมกัน”
2. คุณ Nu Phitsanu Thongngam คือตัวอย่างประชาชนคนไทยธรรมดาๆ คนหนึ่ง
ได้โพสต์ข้อความที่สะท้อนมุมมอง ผ่านสายตาและการรับรู้ของคนไทยที่ไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามาบดบังความจริงในสถานการณ์ขณะนี้ได้อย่างชัดเจน
“#ตอบคำถาม สำหรับคนที่บอกว่ารัฐบาลเอาเงินไปไหนหมด ทำไมต้องออกมาเปิดรับบริจาครบกวนประชาชนทำไม รวมทั้งโยงกันมั่วไปหมดกับงบประมาณของประเทศในส่วนอื่นๆ
ถ้าเราตั้งสติให้ดี ไม่เอาความเกลียดชังความไม่ชอบส่วนตัว เราก็จะมองเห็นประโยชน์ของผู้อื่น
การที่รัฐบาลออกมาเปิดรับบริจาคนั้น มันก็เกิดในทุกยุคทุกสมัย เค้าไม่ได้บังคับหรอกว่าจะต้องทำกี่บาท สิบสตางค์ ยี่สิบสตางต์ สามสิบสตางค์ หนึ่งบาทสองบาท หลายคนรวมกันก็คือเงินที่ร่วมกันเพื่อให้คนที่เค้าเดือดร้อนจริงๆ สบายใจทางไหนก็ทำกันไปครับไม่มีใครว่าไม่มีใครบังคับ สุดท้ายคือเป้าหมายเดียวกัน
คนไทยด้วยกันแค่มองตาก็รู้ใจ ถึงเวลามีภัยคนไทยไม่เคยทิ้งกัน
แต่ขอเถอะครับ คนบางพวกคนบางกลุ่มที่เอาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน มาปลุกปั่นสร้างความแตกแยกในสังคม ถ้าคุณยังพอมีความเป็นคนเหลืออยู่บ้างก็ขอให้หยุดเถอะครับ
ถ้าไม่ทำไม่ช่วยก็ขอให้อยู่เฉยๆ จะขอบคุณมาก
#เปิดหลักเกณฑ์ ช่วยเหลือเยียวยาน้ำท่วม
#ลำดับเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่จากอิทธิพลของพายุโพดุลและคาจิกิ
รัฐบาลโดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนภัยผ่านสื่อทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง
ฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2562 ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 32 จังหวัด โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หนักที่สุดคือ จ.อุบลราชธานี
ระยะที่ 1 รัฐบาลสั่งการให้ทุกจังหวัดเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบบเฉพาะหน้าอย่างทั่วถึง และพยายามระบายน้ำออกจากพื้นที่วิกฤติให้ได้มากที่สุด
เจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร จิตอาสา บูรณาการอพยพผู้ประสบภัย ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จัดส่งอาหาร น้ำ ยารักษาโรค ระดมเครื่องมืออุปกรณ์ เรือ เข้าช่วยเหลือประชาชนและขนย้ายทรัพย์สิน พร้อมทั้งผลักดันน้ำที่ท่วมขังในทุกรูปแบบ โดยมีอาสาสมัครกู้ภัยเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่
นายกฯ ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่ละพื้นที่ดังนี้
4 ก.ย. 2562 จ.พิษณุโลก สุโขทัย
9 ก.ย. 2562 จ.ยโสธร อุบลราชธานี
13 ก.ย. 2562 ตรวจความพร้อมการบริหารจัดการน้ำภาคใต้ ที่ จ.นครศรีธรรมราช
ระยะที่ 2 นายกฯ สั่งการให้เร่งสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด และฟื้นฟูให้กลับสู่ภาวะปกติ พร้อมทั้งจ่ายเงินชดเชยเยียวยากรณีเสียชีวิต บ้านพักอาศัยเสียหาย พื้นที่เกษตรและเครื่องมือประกอบอาชีพเสียหาย ฯลฯ อย่างเต็มที่
หลายคนอาจจะรู้สึกว่าหน่วยงานราชการทำงานล่าช้าและไม่ทั่วถึงแต่ท่ามกลางสภาพพื้นที่ประสบภัยที่กว้างขวางและมีข้อจำกัด จำนวนผู้เดือดร้อนที่มีมากมาย เจ้าหน้าที่และจิตอาสาต่างทุ่มเท เสียสละ เพื่อประชาชนแบบปิดทองหลังพระ
นอกจากนี้ การใช้จ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยนั้นมีในแผนอยู่แล้วเช่นเดียวกับทุกครั้ง แต่การเบิกจ่ายเงินซึ่งเป็นงบประมาณแผ่นดิน จำเป็นต้องมีความถูกต้องชัดเจน เพื่อไม่ให้ถูกครหาว่าไม่โปร่งใส และจะต้องไม่เลือกปฏิบัติ ต้องสำรวจและให้ความช่วยเหลือในทุกมิติ เช่นการครองชีพพื้นฐาน ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร เครื่องมือทำมาหากิน ฯลฯ ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง
ส่วนขณะที่น้ำยังท่วมอยู่ จะเน้นการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้ผู้ประสบภัยมีความปลอดภัยและดำรงชีพอยู่ได้อย่างเหมาะสม
ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 กำหนดให้ส่วนราชการมีวงเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 50 ล้านบาทสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด แห่งละ 20 ล้านบาท สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เกษตร มหาดไทย หน่วยงานละ 50 ล้านบาทสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และสาธารณสุข หน่วยงานละ10 ล้านบาท เป็นต้น แต่การเบิกจ่ายต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ต่างๆ และใช้อย่างคุ้มค่าไม่สูญเปล่า โดยยกตัวอย่างที่สำคัญ ได้แก่
ค่าจัดหาสิ่งของในการดำรงชีพเบื้องต้น กรณีที่อยู่อาศัยเสียหาย ครอบครัวละไม่เกิน 3,000 บาท /ค่าวัสดุซ่อมแซมหรือก่อสร้างที่อยู่อาศัยประจำหลังละไม่เกิน 33,000 บาท /ค่าวัสดุซ่อมแซมหรือสร้างยุ้งข้าว โรงเรือนเก็บพืชผลและคอกสัตว์ที่เสียหาย ครอบครัวละไม่เกิน 5,000 บาท /ค่าเช่าบ้านกรณีบ้านเช่าเสียหายจนอยู่ไม่ได้ ครอบครัวละไม่เกิน 1,700 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 2 เดือน…
...นอกจากนี้ ยังมีเงินช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเงินที่ได้รับบริจาคจากประชาชน ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับบริจาคและการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย พ.ศ.2542 เพิ่มเติมอีก เช่น ค่าจัดการศพ กรณีเสียชีวิต รายละ 50,000 บาท /ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่เสียหายทั้งหลังรายละไม่เกิน 230,000 บาท /ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่เสียหายบางส่วนรายละไม่เกิน 15,000 – 70,000 บาท เป็นต้น
ขณะที่สถาบันเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. ธอส. ธนาคารออมสิน ธนาคาร SME สำนักงานคณะกรรมการการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ยังได้ออกมาตรการให้สินเชื่ออัตราพิเศษ ขยายเวลาชำระหนี้ พักชำระหนี้ ฯลฯ เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบภัยอีกด้วย
#เม้นไหนด่ากันทะเลาะกันขอลบครับ
#คนไทยไม่ทิ้งกัน
#SAVEUBON”
3. เชื่อมั่นว่า คนไทยส่วนใหญ่ ไม่หลงลมปากไปกับนักการเมืองและเครือข่ายที่พยายามสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง หวังผลทางการเมือง “ทำหินแตกแยกแผ่นดิน”
ตรงกันข้าม ออกจะรำคาญ และเบื่อหน่าย
พวกไหนเล่นการเมืองแบบน้ำครำ เน่าเฟะ ถ่มถุยน้ำลายไร้สาระประโยชน์อันใด ขอให้สูญพันธุ์โดยเร็ว
สารส้ม

พรรคที่โกง ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็เหมือนโจรที่ซ้อมปล้น ตั้งแต่ยังไม่พ้นรั้วบ้าน
สัมพันธ์ส่อร้าว! 'จีน'เตือนพลเมืองเลี่ยงไปญี่ปุ่น คาดปมนายกฯหญิงพูดหนุนไต้หวัน
'รถถัง'โพสต์สุดเศร้า ร่างกายพังกะทันหัน เผยนาทีทรมานจนเป็นตะคริว ยืนยันมาเพื่อสู้
'ธรรมนัส' ลุยนครปฐม สั่งอนุมัติงบ 20 ล้าน สร้างประตูระบายน้ำ รพ.ห้วยพลู
กรมการแพทย์แผนไทยฯ เผย ฝรั่งเศส สนใจ 'ยาเสริมสมรรถภาพทางเพศ' ไทย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี