แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn เป็นน่าพิศวง ด้วยนักเรียนชั้นแผ่นดินพระจุลจอมเกล้านี้ ความรู้หูตาแลความคิดช่างคับแคบราวกับรูเข็ม ไม่รู้ไม่เห็นการอะไรเกิน ๓ ปีขึ้นไป พูดไทยก็ไม่ชัดเป็นอันขาด เพราะถ้าจะพูดออกมาให้ชัดสำเนียงฝรั่งจะแปร่ง แลการที่ได้คะเนเดาอะไรต่างๆ นั้นก็เกี่ยวกับด้วยภูมิปัญญา… (พระบรมนามาภิไธย) สยามินทร์ พระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่พระยาไพศาล วันที่ ๑๙ กรกฎาคม รัตนโกสินทรศก ๑๒๙...
nn นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทย ซึ่งอยู่ในตำแหน่งนี้มาแล้ว 5 ปี นับได้ว่าเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับประชาชนมากที่สุดคนหนึ่ง แต่ถึงแม้จะมีปัญหาในการสื่อสารอย่างมาก แต่ทว่านายกฯ ก็ยังชื่นชอบการพูด พูด แล้วก็พูดตลอดเวลา ทั้งๆ ที่น่าจะรู้ตัวเองดีว่าพูดแล้วก่อให้เกิดปัญหากับสังคม แต่ก็ดูเสมือนว่านายกฯ ไม่เคยสนใจกับปัญหาที่ว่านี้...
nn ล่าสุดก็มีประเด็นโต้แย้งคำพูดจากปากของนายกรัฐมนตรีไทยผู้ที่ชอบอวดอ้างว่าตนเองทำงานหนักมาก และเสียสละอย่างสูงสุดเพื่อประเทศ จนราวกับว่าหากประเทศนี้ไม่มีนายกฯ คนนี้แล้ว ประเทศไทยจะไปไม่รอด คำพูดที่ว่านั้นคือ คนไทยไม่ค่อยเปิด Google แล้วก็พูดทำนองว่าผู้บริหารทุกคนใช้ Google กันทั้งนั้น...
nn เมื่อนายกฯ เปิดประเด็นเช่นนี้มา ก็ทำให้คนไทยจำนวนมากตั้งคำถามกลับว่า นายกฯ พูดเพราะละเมอหรือว่าเพราะเมากันแน่ แล้วก็ให้ข้อมูลกับนายกฯ ว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยรู้จัก Google มาตั้ง 20 ปีแล้ว แล้วก็ใช้มาตลอด ใช้มาก่อนที่ทหารชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชาจะก่อรัฐประหาร เมื่อปี 2557 และก่อนจะเป็นผู้บัญชาการทหารบกด้วย...
nn เมื่อสังคมต้องโต้กับนายกฯ ผู้ที่ชอบบอกว่าตนเองรู้ไปเสียเกือบทุกเรื่อง ก็จำเป็นต้องมีข้อมูลสนับสนุน ดังนั้นจึงอ้างอิงสถิติการใช้ Google ของคนไทย ที่สำรวจโดย วสิทธิ์ สถิตวรพงศ์ที่เขียนลงมติชนสุดสัปดาห์ ดังนี้ปัจจุบันคนในประเทศไทยใช้อินเตอร์เนต 46 ล้านคน (ตัวเลขเมื่อปี 2560) คาดว่าจะเพิ่มเป็น 59 ล้านคน ภายในปี 2563 ในแต่ละวันในสังคมไทยมีการค้นหาข้อมูลจาก Google มากกว่า 3 พันล้านครั้ง ข้อมูลนี้คงทำให้นายกรัฐมนตรีช่างพูด น่าจะกลับไปทบทวนข้อมูลและความรู้ของตนเองเป็นการด่วนว่า เรื่องหลายเรื่องที่พูด พูดแล้วก็พูดเป็นประจำนั้น ถูกต้อง แม่นยำ มากน้อยเพียงใด หรือจะบอกว่า ก็ผมจะพูดแบบนี้แหละ ใครจะทำไม ก็เพราะผมเป็นนายกฯ ก็ให้มันรู้กันไป (ฮา)...
nn ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จ้าง lobbyist ต่างชาติเพื่ออะไร เรื่องนี้คนไทยส่วนใหญ่งุนงงมาก หลายคนตั้งคำถามว่า กับอีแค่การที่ธนาธรพยายามทุรนทุราย ตะเกียกตะกายพาร่างของตัวเองไปขอพูดตามที่ต่างๆ ในสหรัฐฯ เมื่อหลายเดือนก่อนนั้น ตกลงแล้วมาจากการจ้าง lobbyist ดอกหรือ...
nn อ้าว! คนไทยจำนวนไม่น้อยหลงนึกว่า หน่วยงานที่ยอมให้ธนาธรไปพูดพล่าม เป็นผู้เชื้อเชิญให้ไปพูด โธ่ถัง! กลายเป็นว่าต้องจ้างให้ lobbyist ต่างชาติเป็นผู้ดำเนินการดอกหรือ น่าสมเพชเสียนี่กระไร อุตส่าห์ยอมเสียเงินจ้างเพื่อให้ตัวเองได้ไปพูด แล้วก็กลับมาโฆษณาชวนเชื่อว่าเดินสายไปพูดจาปราศรัยที่ต่างประเทศคนไทยที่รู้ไม่ทันก็นึกว่าต่างประเทศเชิญไปพูด แต่ที่ไหนได้กลับกลายเป็นต้องจ้าง lobbyist ให้ดำเนินการให้ เรื่องตลกที่น่าสังเวชเช่นนี้ รู้ไปถึงไหนก็อับอายขายขี้หน้าไปถึงนั่น ขอแนะนำให้ธนาธรไปดูเด็กๆ อย่างโจชัว หว่อง จากฮ่องกง หรือ เกรตา ธันเบิร์กเด็กสาวจากสวีเดน ที่ได้ไปพูดจาปราศรัยในยุโรป และในที่ประชุมUN Climate Action Summit เด็กทั้งสองคนนี้ได้รับเชิญไปพูดโดยไม่ต้องจ่ายเงินจ้างให้ใครพาไปพูด เห็นชัดๆ แบบนี้แล้วแสดงให้ประจักษ์ว่า อะไรคือของจริง แล้วใครคือพวกสร้างภาพ...
nn ยุครัฐบาลไทยหน้ามืด เพราะหาเงินได้ไม่ทันการถลุงใช้แบบไม่บันยะบันยัง ดังนั้นจึงพยายามหาเงินเข้าประเทศทุกทาง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่หยุดหว่านเงินเพื่อแลกกับคะแนนนิยมทางการเมือง แต่อ้างว่าหว่านเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ มาตรการหาเงินเข้าประเทศที่หลุดออกมาจากยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่สังคมไทยเพิ่งได้ยินก็คือ การดึงคนจีนในกลุ่มตระกูลแซ่ต่างๆ ให้เข้ามาเที่ยวไทย เพราะหวังว่ามาตรการนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ด้านการท่องเที่ยวของบ้านเรา แต่ฟังๆ ดูแล้วก็อดหัวเราะ (เบา ๆ) เสียมิได้...
nn แต่เท่าที่รู้มาก็คือมาตรการนี้มาจากความคิดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พิพัฒน์ รัชกิจประการ
เจ้าของไอเดียเปิดผับเปิดบาร์ในย่านเริงรมย์ให้จนถึงเวลาเกือบเช้าจวนพระออกบิณฑบาต ว่าก็ว่าเถอะนะ ไอเดียชวนคนจีนแซ่ต่างๆ มาเที่ยวไทยนั้นช่างประหลาดมหัศจรรย์เสียเหลือเกิน เพราะหากจะว่ากันตามความเป็นจริงแล้ว ต้นตระกูลของแซ่ต่างๆ นั้น ล้วนมีรกรากอยู่ในจีน กระจายตามมณฑลต่างๆ แล้วคนสารพัดแซ่จากจีนก็เดินทางเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารแห่งพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่โบราณกาล จนก่อร่างสร้างตัวได้เป็นหลักเป็นฐาน จนคนจีนบางรายบางคนมีสถานะเป็นผู้ควบคุมด้านเศรษฐกิจบนแผ่นดินไทยไปแล้ว คำถามคือทำไมชาวแซ่ต่างๆ จากจีนจึงจะต้องมาเที่ยวเมืองไทย เพราะเมืองไทยไม่ใช่แผ่นดินบรรพบุรุษของเขา แต่ในมุมกลับกันนั้น คนไทยแซ่จีนต่างหากที่จะต้องกลับไปเยี่ยมเยียนรกรากของตนเองในประเทศจีน ก็เลยสงสัยมิใช่น้อยว่า รัฐมนตรีการท่องเที่ยวฯ กับผู้ว่าฯททท. สับสนอะไรหรือเปล่า เพราะดูจากหน้าตาของทั้งสองคนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าต้นกำเนิดบรรพบุรุษของทั้งสองก็น่าจะมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มิใช่หรือ แล้วต้นกำเนิดของตระกูลจะต้องเดินทางมาหาลูกหลาน กระนั้นหรือ ถามด้วยความสงสัยเท่านั้นเอง...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี