คงจะเลอะเทอะน่าดูถ้าเศรษฐกิจไม่ดีหรือถูกหวยรับประทาน แล้วจะคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ในซีกนักการเมือง นักวิชาการก็พอจะเข้าใจกันได้ในข้อเสนอศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็เพื่อให้มีเวทีได้แสดงความคิดเห็นกัน
คอลัมน์ “บุคคลแนวหน้า” หน้า 4 โดย “มือปราบ” ฉบับอังคารที่แล้วเขียนไว้น่าสนใจ ถึงคำปรารภของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบางช่วงบางตอน ซึ่งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเขียนว่า “...แต่การปกครองก็มิได้มีเสถียรภาพหรือราบรื่นเรียบร้อย เพราะยังคงประสบปัญหาและข้อขัดแย้งต่างๆ บางครั้งเป็นวิกฤติทางรัฐธรรมนูญที่หาทางออกไม่ได้ เหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการที่มีผู้ไม่นำพาหรือไม่นับถือยำเกรงกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉลหรือบิดเบือนอำนาจ หรือขาดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชนจนทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล”
คำปรารภนี้ เป็นการอธิบายสภาพทางการเมืองก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเข้ามายึดอำนาจแล้วสร้างกติกาใหม่ บริหารประเทศชาติไปตามปกติ ไม่มีอะไรยุ่งยาก
และน่าสนใจในประเด็นของ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาท ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ที่พูดถึงรัฐธรรมนูญไว้ว่า รัฐธรรมนูญเปรียบเหมือนซอฟต์แวร์ของคอมพิวเตอร์ ที่มีกลไกกลางรวมทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน ปัจจุบันคิดว่าซอฟต์แวร์ (รัฐธรรมนูญ 2560)สามารถไปได้ เพียงแต่ว่าขอให้เคารพรัฐธรรมนูญ ส่วนการแก้ไขเป็นเรื่องของบริบท อีก 10 ถึง 50 ปี โลกอาจจะเปลี่ยนไป แต่ในปัจจุบันซอฟต์แวร์ตัวนี้ถือว่าดีมาก ส่วนจะเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องแก้ไขหรือไม่นั้น บริบทจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าต้องทำอะไร จุดไหนที่ควรทำ
ครับเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน และไม่ได้มีปัญหาหรืออุปสรรคในการบริหารประเทศ เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 190 เกี่ยวกับเรื่องที่รัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐที่จะไปลงนามกับต่างประเทศ อย่ามีนัยสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคงชาติ หรือด้านเศรษฐกิจด้านสังคม ความร่วมมือระหว่างประเทศ ต้องให้รัฐสภาเห็นชอบ เพราะในส่วนนี้ผู้ปฏบัติแยกไม่ออกว่า MOU-agreement เรื่องเล็กๆ เกี่ยวกับ ดิน น้ำ ลม ไฟ นัยสำคัญมีขอบเขตมากน้อยแค่ไหน เพียงใด ใครเป็นผู้ชี้ขาด ??? จึงมีการแก้ไขมาตรา 190 เพื่อผ่อนคลายให้เกิดความยืดหยุ่นในการทำงาน ในรัฐบาล อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
กระนั้นก็ตามผมมองว่าการจะศึกษาหาทางปรับปรุงรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันให้ดีขึ้นกว่าเดิมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก และ “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เห็นว่า “ประธานกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ร้อยละ 59.11 ระบุว่า ควรมาจากคนนอกที่ไม่ใช่ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้าน
กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส.ก็เห็นแบบนี้
ยิ่งตอนนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่ารัฐธรรมนูญมีจุดอ่อนอย่างไรเพราะถ้าเอาคนที่คัดค้านหรือสนับสนุนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มากุมบังเหียนในการศึกษาแก้รัฐธรรมนูญ เชื่อได้ว่า ออกอาการเป๋แน่นอน เสียเวลาโดยไม่จำเป็น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี