กรณี “อาม่าฮวย” หญิงวัยชราที่ถูกลูกสาวร่วมมือกับพนักงานธนาคาร “โกงเงินไปหลายร้อยล้าน” จนกลายเป็นข่าว ดังนั้น ถือเป็น “ข่าวที่ช็อก” คนไทยทั้งประเทศไม่ใช่ขนาดย่อยๆ
ก็จะ “ไม่ช็อก” ได้อย่างไร? ในเมื่อ “อาม่าฮวย”มีเงินฝากอยู่ในธนาคารแห่งหนึ่งหลายร้อยล้าน“ซึ่งธนาคารถือเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดในโลก”แต่จู่ๆ เงินหลายร้อยล้านของอาม่าฮวยก็ได้ “หายไปจากธนาคาร” อย่างเหลือเชื่อ
โดยเหตุการณ์นี้เกิดจาก “อาม่าฮวย” นอนเจ็บป่วยอยู่ในโรงพยาบาล จู่ๆ ลูกสาวของอาม่าได้พาพนักงานธนาคารมาปั๊มลายมืออาม่าให้มอบอำนาจในการถอนเงิน จากนั้นลูกสาวอาม่าก็ไปถอนเงินหลายร้อยล้านจนหมด โดยธนาคาร “เปิดไฟเขียว” ให้ตลอด
ที่ “ต้องช็อกยิ่งขึ้น” ตรงที่ผู้ร่วมมือกับธนาคาร “สร้างความเสียหายให้แก่อาม่า” ก็คือ“ลูกสาวแท้ๆ” ของอาม่าฮวยนั่นเอง
การที่ “ลูกสาวปล้นเงินของมารดาไปได้อย่างเลือดเย็น” ต้องถือว่า “เป็นที่สุดของที่สุดของความเลวร้าย” จนต้องระบุได้ว่า “โลกวันนี้ไม่มีใครไว้ใจได้แล้ว แม้แต่ลูกตัวเอง”
ในวันนี้ “ข่าวคนยอดโกง” เกิดขึ้นทุกวันโดยเฉพาะข่าวบรรดา “แม่ๆ ทั้งหลายที่ตั้งวงแชร์ลูกโซ่ ทำการไล่ล่าเหยื่ออย่างกระหน่ำ”
ขณะที่โลกทั้งใบมีแต่ “คนโกงอย่างยั้วเยี้ย” เช่นนี้ ได้มีคนกลัวโกงบางรายระบุว่า“วัคซีนที่จะป้องกันไวรัสโกง” นั้น ได้แก่ “วัคซีนไม่ยอมงก”
แม้ “วัคซีนไม่ยอมงก” จะป้องกัน “ไวรัสโกง” ได้ในระดับหนึ่ง แต่กรณีธนาคารร่วมมือกับทุราจารทำการ “โกงเงินฝากของลูกค้า” นั้น ต้องระบุชัดๆ ว่า “ไม่มีวัคซีนชนิดไหนป้องกันได้”
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี