วันนี้ขอพูดถึงข้าราชการประจำบ้าง ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตำรวจ หรือข้าราชการทหาร ซึ่งยังคงรับราชการอยู่ในกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ขณะนี้ ว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้นมีอยู่ตลอดเวลา คืออยู่ครบวาระที่กำหนดในกฎหมายก็มี อยู่ไม่ครบระยะเวลาที่กำหนดไว้ก็มีจากการยุบสภา หรือจากการปฏิวัติรัฐประหาร
แต่ข้าราชการประจำมีกำหนดเวลาในการรับราชการไว้ชัดเจนในกฎหมายในเรื่องเกษียณอายุ หรือลาออก ถูกปลดออก เป็นต้น
ฝ่ายการเมืองหรือนักการเมืองเป็นผู้กำหนดนโยบายในการทำงาน ให้ข้าราชการในกระทรวงทบวง กรม ต่างๆนำไปปฏิบัติ เพราะฉะนั้นฝ่ายการเมืองหรือนักการเมืองจึงมีการทำงานร่วมกับข้าราชการประจำตลอดเวลา ให้คุณให้โทษได้ตามอำนาจหน้าที่ที่กำหนด
ข้าราชการในกระทรวง ทบวง กรม ใด ได้นักการเมืองที่ดีเข้าไปทำงาน ข้าราชการในกระทรวงทบวงกรมนั้นก็โชคดีไปในเส้นทางแห่งชีวิต แต่ข้าราชการในกระทรวง ทบวง กรม ใดได้นักการเมืองที่ไม่ดีเข้าไปทำงาน ข้าราชการประจำในกระทรวงทบวง กรม นั้นก็ต้องระมัดระวังตัวให้ดีในการทำงาน อาจตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่ไม่ดีนั้นได้ในการทำงาน เช่น การใช้อำนาจหน้าที่ที่ไม่สุจริตเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองผู้นั้น หรือพรรคการเมืองที่นักการเมืองผู้นั้นสังกัดอยู่
มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วหลายยุคสมัยในเรื่องดังกล่าว
ข้าราชการประจำจึงต้องระลึกอยู่ตลอดเวลาว่า ในการทำงานนั้น ข้าราชการประจำเป็นกลไกในการทำงานตามที่มีหน้าที่ที่กำหนดไว้ ไม่ใช่เป็นเครื่องมือที่จะทำงานรับใช้นักการเมืองตามใจชอบ
บ่อยครั้งที่ผ่านๆมา นักการเมืองหยิบเอาข้าราชการประจำไปใช้ เพื่อสนองประโยชน์ของตน ด้วยรูปแบบและวิธีการต่างๆ
ในอดีตที่ผ่านมา มีการใช้ทหารซึ่งเป็นข้าราชการประจำเช่นเดียวกัน เป็นเครื่องมือเพื่อให้ได้ซึ่งอำนาจของนักการเมือง
นักการเมืองบางคนใช้ข้าราชการประจำในการหากินหาประโยชน์ที่นักการเมืองต้องการ หรือใช้ข้าราชการเป็นหัวคะแนน หรือให้ช่วยเหลือในทางทุจริตที่นักการเมืองจะได้ประโยชน์
ข้าราชการประจำต้องรู้จักแยกแยะให้ดี
อย่าทำงานตามที่นักการเมืองบอกอย่างเดียว
กระทรวง ทบวง กรม ไหนได้นักการเมืองที่ดีไปทำหน้าที่ข้าราชการประจำในกระทรวง ทบวง กรม นั้นจึงค่อยปลอดสารพิษ
ทำการทำงานอย่างสบายใจได้
นักการเมืองที่ดีๆ นั้นก็มีอยู่มาก ถ้าไม่มีอำนาจหน้าที่ในกระทรวง ทบวง กรม ใด ข้าราชการในกระทรวง ทบวง กรม นั้นก็โชคดีไป ไม่ต้องตกเป็นเครื่องมือให้ทำในสิ่งที่ไม่ดี หรือไม่ถูกต้อง
ในการบริหารปกครองบ้านเมืองนั้น ต้องแยกแยะออกจากกัน เพราะมีความหมายไม่เหมือนกันทีเดียว การบริหารนั้นใครๆก็บริหารได้ สุดแต่จะบริหารดีหรือไม่ดีเท่านั้น แต่นักปกครองมีหน้าที่ในการดูแลประชาชน ดูแลในเรื่องทุกข์สุขของประชาชน และมีหน้าที่ที่เรียกว่าบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ประชาชน
นักปกครองที่ดีต้องระลึกอยู่ตลอดเวลาว่าถ้าประชาชนไม่ศรัทธา ไม่เลื่อมใส และไม่ร่วมมือแล้ว ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ต้องทำให้เขาศรัทธาและเลื่อมใสให้ได้
นักการเมืองที่ดี และต้องเข้าไปทำงานในบทบาทหน้าที่ต่างๆ ล้วนต้องปฏิบัติตนให้ดีในกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ซึ่งจะต้องทำงานที่มีข้าราชการประจำเป็นลูกมือ ซึ่งทั้งสองฝ่ายดังกล่าวนี้ต้องทำงานร่วมกันไปตลอดเวลา
ต้องระมัดระวังให้มากในการทำงานอย่างสุจริต
บางปัญหา ข้าราชการประจำทุจริตกันเองบางปัญหานักการเมืองเป็นฝ่ายทุจริต แต่ที่ร้ายที่สุดก็ได้แก่การร่วมมือกันในการทุจริต โดยมีพ่อค้านักธุรกิจเข้ามาร่วมด้วย อย่างที่เห็นกันอยู่ในขณะนี้ที่เรียกว่า “สามประสาน”
ข้อสำคัญที่ข้าราชการประจำจะต้องระมัดระวังก็คือ “การล้วงลูก” จากฝ่ายการเมือง ที่เข้าไปก้าวก่ายกับการทำงานของข้าราชการประจำ โดยเฉพาะในกระทรวง ทบวง กรม ที่มีผลประโยชน์ในเรื่องเงินๆ ทองๆ จำนวนมาก
ข้าราชการประจำกระทรวง ทบวง กรม ใดได้นักการเมืองประเภท “ขี้หิว” อย่างนี้เข้าไปอยู่ ข้าราชการประจำในที่นั้นย่อมมีความลำบากในการทำงานในอำนาจหน้าที่ ยกเว้นแต่ว่าจะเป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และใจแข็งพอที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้อง
นักการเมืองประเภท “ขี้หิว” สมัยนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะนักการเมืองในยุคสมัยของ“เจ้านักโทษหนีคุก” คนนั้น ซึ่งยังคงมีอยู่ในสมัยนี้หลายต่อหลายคน และบางคนอาจได้เข้าไปทำงานอยู่ในกระทรวง ทบวง กรม บางแห่งก็ได้ ในรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้น
ข้าราชการประจำที่ดีต้องระมัดระวังตน
อย่าเป็นข้าราชการประจำ “ขี้หิว” ไปด้วย
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี