การแต่งตั้งโยกย้ายตามฤดูกาลที่ผ่านมา มีการวิ่งเต้นกันเพื่อลงในตำแหน่ง “ผู้กำกับฝ่ายสืบสวน” ในพื้นที่ทำเลทองกันเป็นส่วนใหญ่เช่น จังหวัดนนทบุรี ที่มีพื้นที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอำเภอที่มีสถานบริการ ห้างร้านมากมาย ทำให้เป็นที่จับจ้องของนายตำรวจที่มีเส้นดีและมีเพื่อนร่วมรุ่นนายร้อยตำรวจที่เป็นผู้บริหารอยู่ภายในจังหวัดนั้นๆ
เมื่อประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีตำรวจฝ่ายสืบสวนเข้าไปจับกุมสถานเสริมความงามเกี่ยวกับสรีระทั้งร่างกายของสตรีย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยปกติสถานบริการแห่งนี้จะมีนายแพทย์ประจำอยู่ การที่ฝ่ายสืบสวนจะเข้าจับกุมควรขอความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุขมาร่วมจับกุมด้วยเพื่อทำการตรวจสอบเครื่องมือแพทย์ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่?? ซึ่งนายแพทย์ที่ประจำอยู่ในคลินิกมีใบแสดงว่าเป็นแพทย์เฉพาะทางตามกฎหมาย แต่การเข้าไปจับกุมมีการเจรจาเกี่ยวกับเรียกเก็บเบี้ยหลากสีจำนวนมาก นายแพทย์ท่านนี้ท่านจบมาจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นน้องท่านรองผู้บัญชาการที่ควบคุมดูแลพื้นที่นั้นอยู่ ได้รับการร้องขอให้ช่วยเจรจากับฝ่ายสืบสวนให้ลดราคาเบี้ยหลากสีที่ต้องจ่ายให้จำนวนมาก แต่นายตำรวจท่านนั้นไม่ยอมลดสั่งให้จ่ายตามจำนวน บังเอิญนายแพทย์ท่านนี้ท่านเรียนจบจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นน้องท่านผู้บัญชาการ ท่านจึงติดต่อไปยังท่านผู้บัญชาการขอความช่วยเหลือมาเจรจาให้เรื่องจึงยุติลงได้
การเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ของนายตำรวจที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ประมาณ 1 เดือน ท่านสร้างวีรกรรมเดินเก็บเบี้ยเหมือนกับว่าท่านอาจจะไม่ได้นั่งเก็บเบี้ยในพื้นที่อีก...ใจเย็นๆ ครับ ท่านมีผู้อุปการะที่มากด้วยบารมีให้ลูกน้องของท่านค่อยๆ เดินเก็บเบี้ยให้สุขุมรอบคอบมากกว่านี้ท่านจะเป็นที่เกรงกลัวผู้ประกอบการทั่วไป สถานที่ผลิตเบี้ยเขาย้ายไปไหนไม่ได้แล้วเป็นของตาย “จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด” ถ้าเร่งรีบอย่างนี้ไม่ช้าอาจจะหมดอนาคตได้นะครับ
ผู้บริหาร “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)” กรุณาตรวจสอบด้วยว่าเรื่องที่เกิดขึ้นซ้ำซากและดังมาก นายตำรวจชุดนี้เป็นชุดที่ท่านแต่งตั้งมาหรือเปล่า แต่มีคนเขาคิดว่าถ้านายตำรวจกลุ่มนี้ท่านไม่ได้เป็นผู้แต่งตั้งมาคงมือไม่หนักอย่างนี้ควรเรียกไปตักเตือนให้มีการผ่อนหนักผ่อนเบากันบ้างจะได้ไม่เกิดความขัดแย้งระหว่างตำรวจกับผู้ประกอบการ ถ้าจะให้ถูกต้องการที่จะไปตรวจจับคลินิกเสริมความงามควรมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขไปด้วยเพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่
จากการที่ผู้บริหารในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งให้นายตำรวจระดับรองสารวัตรฝ่ายสอบสวนทั้งหญิงและชายมาช่วยงานในสำนักงานผู้บังคับบัญชา ทำให้พนักงานสอบสวนที่ขาดแคลนอยู่แล้วไม่พอที่จะคอยรับคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ ถ้าท่านต้องการให้ร้อยเวรกลุ่มนี้มาทำหน้าที่ภายในสำนักงานควรให้นายตำรวจกลุ่มนี้เบิกเงินประจำตำแหน่งแบ่งให้กับบรรดาร้อยเวรที่เขาต้องมานั่งรับคดีเพิ่มขึ้นไปอีกจะได้ไม่เป็นการเอาเปรียบพนักงานสอบสวน กรณีที่เกิดขึ้นผู้บังคับบัญชาควรมีสติมีความยุติธรรมให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาบ้างจะได้ไม่เกิดข้อครหาตามมา....“อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน”....สวัสดีครับ...
เกลือสมุทร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี