กว่า 3 เดือนแล้วที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ “โควิด-19 (COVID-19)” ลุกลามจากประเทศจีนไปเป็นวิกฤติในโลกฝั่งตะวันตก รวมถึงอาจกลับมาระบาดในจีนได้อีกหลังรัฐบาลแดนมังกรประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ (Lockdown) ปิดบ้าน-ปิดเมือง ตัดการเชื่อมต่อของผู้คนเพื่อไม่ให้ไวรัสแพร่กระจาย ภาพของชาวจีนที่ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศ และออกมาจับกลุ่มนอกบ้าน ปรากฏสู่สายตาชาวโลก ท่ามกลางความไม่สบายใจของคนทำงานด้านสาธารณสุขทั้งในจีนและต่างประเทศ
ที่ผ่านมามาตรการล็อกดาวน์ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากบุคลากรสาธารณสุขทั่วโลก ตามแนวคิด “การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)” แต่การจะปิดบ้าน-ปิดแรมเดือน แรมปี เพื่อรอวัคซีน(ซึ่งคาดว่าใช้เวลาอย่างเร็วสุด 12-18 เดือน) ไม่น่าจะมีประเทศใดทำได้เพราะจะกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมอย่างมหาศาล ระยะหลังๆ จึงเริ่มมีข้อเสนอ “สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ ใช้ขนส่งมวลชน หรือแม้แต่ตลอดเวลาเมื่อออกจากบ้าน” เพื่อหวังให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับสู่ภาวะใกล้เคียงปกติโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ชาวเอเชียรวมถึงชาวไทยคุ้นเคยกับการสวมหน้ากากอนามัย-หน้ากากผ้าปิดปากและจมูกเป็นอย่างดีเมื่อเทียบกับชาวตะวันตก (ซึ่งก็มีบางคนตั้งสมมุติฐานว่าไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เพราะชาวตะวันตกมีค่านิยมหากไม่ป่วยจะไม่สวม ทำให้การระบาดเกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรงกว่าเนื่องจากผู้ติดเชื้อจำนวนมากไม่มีอาการหรืออาการน้อยจนไม่ได้สังเกต) แต่ยังมีที่ตกหล่นอยู่บ้างคือ “หน้ากากสำหรับเด็กหายากมาก” ในขณะที่หน้ากากขนาดมาตรฐานที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมักใส่ได้เฉพาะตั้งแต่วัยรุ่นขึ้นไปเท่านั้น
ทำให้เมื่อเร็วๆ นี้ นักการเมืองหนุ่มหน้าใหม่เพิ่งเข้าสภาเป็นสมัยแรก อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาเสนอโครงการ “มินิมาสก์ (MiniMask)” หรือหน้ากากสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี ซึ่งมีที่มาที่ไปจากการที่เจ้าตัวในฐานะคนเป็นพ่อต้องไปหาซื้อหน้ากากมาให้ลูกชายตัวน้อยของตนเอง จึงคิดได้ว่าคงมีพ่อ-แม่คนอีกไม่น้อยที่ประสบปัญหาเดียวกัน
เมื่อคิดได้เช่นนี้จึงตัดสินใจควักเงินส่วนตัวเป็นทุนตั้งต้น พร้อมกับได้รับความช่วยเหลือจากมิตรสหายจนสามารถผลิตหน้ากากสำหรับเด็กลอตแรกออกมา1 แสนชิ้น “โครงการนี้จัดส่งทางไปรษณีย์ล้วนๆ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องออกจากบ้านมารับของ” อันเป็นการลดโอกาสการระบาดของโรคด้วย ซึ่งในเวลาเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมงยอดจองหน้ากากลอตแรกก็เต็ม จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าหน้ากากสำหรับเด็กเป็นที่ต้องการไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหน้ากากสำหรับผู้ใหญ่ โดย อิสระได้บอกเล่าไว้เมื่อ 29 มี.ค. 2563 ว่า..
“เด็กๆ สมัยนี้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงของโรคติดต่อ แล้วคิดต่อไปถึงเด็กๆ คนอื่น ซึ่งรวมถึงเด็กๆ ที่ครอบครัวยังไม่มีความพร้อมมากนัก ถ้าไม่มีหน้ากากเขาจะทำอย่างไรจากสถานการณ์โรคติดต่อไวรัสโควิด-19ทำให้หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้ชีวิตในปัจจุบัน เด็กบอบบาง ถ้าไร้หน้ากากอนามัยที่เหมาะกับสรีระร่างกายเด็กโดยเฉพาะก็จะน่าเป็นห่วง ผมจึงได้พูดคุยกับคนหลายกลุ่มอย่างจริงจัง จนนำไปสู่โปรเจกท์มินิมาสก์(MiniMask) ผลิตหน้ากากผ้าสำหรับเด็ก เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ปกครองของเด็กๆ ทั่วประเทศ
ผมขอขอบคุณความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่เห็นความสำคัญของเด็ก ทั้งเสนอแนะ แนะนำให้ข้อมูล อาทิ ไปรษณีย์ไทย และภาคธุรกิจ ที่สนับสนุนการตัดผ้า การพิมพ์ รวมถึงวิสาหกิจชุมชนจังหวัดต่างๆ ที่ผมเคยไปลงพื้นที่ในฐานะ สส.ก็ช่วยในการตัดเย็บหน้ากากเด็กนี้ซึ่งสามารถช่วยกระจายรายได้ลงสู่ชุมชนได้เป็นอย่างดีอีกทางหนึ่งด้วย โดยหน้ากากเด็กในโปรเจกท์มินิมาสก์ ผลิตจำนวน 100,000 ชิ้น จะจัดส่งให้ผู้ปกครองที่สนใจโดยตรงถึงบ้านด้วยระบบไปรษณีย์”
สำหรับหน้ากากเด็กลอตแรก 1 แสนชิ้น ที่ผลิตขึ้นตามมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมอนามัย อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ได้ส่งมอบให้กับมูซาคาน เดเช รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2563 โดย บ.ไปรษณีย์ไทยฯ เป็นหนึ่งในพันธมิตรสำคัญของโครงการ ซึ่งจะนำหน้ากากทั้งหมดไปส่งยังบ้านของผู้ลงทะเบียนขอรับต่อไป
แต่จากการที่มียอดลงทะเบียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก สส.หนุ่มผู้นี้ จึงริเริ่มเฟส 2 ทันที ด้วยการประกาศว่าจะผลิตหน้ากากสำหรับเด็ก “1 ล้านชิ้น” แต่โครงการครั้งนี้จำเป็นต้องใช้ทุนจำนวนมากทำให้ “ขอรับบริจาคขั้นต่ำ 19 บาทต่อหน้ากาก 1 ชิ้น..แต่ใครจะให้มากกว่านั้นก็ไม่ขัดศรัทธา” โดยสามารถร่วมบริจาคได้ที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ ชื่อบัญชี “โครงการมินิมาสก์ หน้ากากเพื่อเด็ก” เลขที่บัญชี 162-3-07855-5
ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เฟซบุ๊คแฟนเพจ “ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ - Issara Sereewatthanawut” ส่วนพ่อแม่ผู้ปกครองท่านใดต้องการหน้ากากสำหรับเด็กให้บุตรหลานอายุไม่เกิน 10 ปีสวมใส่ สามารถลงทะเบียนขอรับหน้ากากได้ที่เว็บไซต์ https://gocovid.issara.in.th
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี