วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ในปี 2563 การบินไทยมีอายุครบ 60 ปีเต็ม โดยวันเกิดของการบินไทยคือ 1 พฤษภาคม 2503 แต่ช่างน่าสมเพชการบินไทยเสียเหลือเกิน เพราะวันคล้ายวันเกิดของการบินไทยในปีนี้ แถมยังเป็นปีที่การบินไทยครบแซยิด กลับกลายเป็นปีที่แสนรันทด สุดสลด และช่างหดหู่ของการบินไทย เพราะนอกจากจะเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ไปทั่วทั้งโลกแล้ว การบินไทยยังต้องมาเผชิญกับปัญหาขาดทุนจนเรียกได้ว่าเข้าขั้นเกือบย่อยยับป่นปี้อีก อันที่จริงหากไม่มีปัญหาโควิด-19 การบินไทยก็ยังคงอาจจะฝืนจัดงาน Happy Birthday 60 ปีให้กับตัวเองได้ แต่เมื่อเจอศึกใหญ่สองดอกเข้าพร้อมๆ กัน ก็ทำให้หงอยสนิท
60 ปีของการบินไทย เป็น 60 ปีที่ควรจะต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เพราะมีทั้งความรุ่งโรจน์และความร่วงโรยปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ที่ต้องบันทึกให้ชัดเจนคือการบินไทยรุ่งโรจน์ในช่วงเวลาใด และเริ่มเข้าสู่ระยะถดถอยในช่วงเวลาใด แล้วในช่วงเวลาใดที่เป็นช่วงที่การบินไทยดิ่งจมสู่ก้นเหวจนเรียกได้ว่ากู้กลับคืนสภาพเดิมได้ยาก
วันเกิดของการบินไทยในปี 2563 นี้ การบินไทยมีสภาพไม่ต่างไปจากคนป่วยอาการสาหัสสุดๆ เพราะก่อนจะถึงวันเกิดเพียง 2 วัน การบินไทยก็ได้รับการอัดฉีดเงินเพิ่มพยุงการบินไทยให้ดำรงอยู่ต่อไป โดยเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีประธานคณะชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้คณะกรรมการชุดนี้ได้เห็นชอบให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้การบินไทย (แต่บางคนเขาไม่เรียกแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่เรียกแก้ปัญหาแบบขายผ้าเอาหน้ารอด) โดยสั่งให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ของการบินไทยคือกระทรวงการคลังต้องแบกหน้าเข้าไปช่วยค้ำประกันเงินกู้วงเงินประมาณ 5 หมื่นล้านบาท เพื่อช่วยต่อลมหายใจทางธุรกิจให้กับการบินไทย โดยอย่างน้อยที่สุดก็ขอให้การบินไทยพยุงปีกต่อไปให้ถึงสิ้นปี 2563 ให้จงได้
คนที่ติดตามปัญหาของการบินไทยมาโดยตลอดต่างถามคำถามว่า ต้องถมให้การบินไทยอีกเท่าไรจึงจะเต็ม แล้วการถมครั้งล่าสุดอีก 5 หมื่นล้านบาท จะทำให้การบินไทยหายใจต่อไปได้อีกกี่เพลา แล้วถ้าต้องถมลงไปอีก จะเอาเงินจากที่ไหนไปถม แล้วถ้าถมไปแล้วไม่สามารถทำให้การบินไทยฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาได้ ใครจะ
รับผิดชอบเงินที่ถมลงไป
ผู้เขียนเคยเขียนตั้งคำถามมาแล้วหลายสิบครั้งว่า เหตุใดการบินไทยจึงตกต่ำได้ถึงเพียงนี้ และใครคือตัวการที่ทำให้การบินไทยตกต่ำได้ถึงเพียงนี้ หรือรัฐบาลทุกชุดที่ผ่านมารวมถึงชุดปัจจุบันจะตอบว่า การบินไทยตกต่ำเพราะตัวของการบินไทยเองโดยไม่มีใครหน้าไหนทำให้การบินไทยตกต่ำ
ขอย้ำว่าคนที่ติดตามสถานการณ์ของการบินไทยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ต่างรู้ตรงกันเป็นอย่างดีว่า แม้การบินไทยไม่เจอปัญหาโควิด-19 ระบาด การบินไทยก็ไม่น่าจะไปรอดอยู่แล้ว เพราะการบินไทยขาดทุนต่อเนื่องมาทุกปี เรียกได้ว่าเป็นบริษัทที่มีหนี้สินท่วมหัวท่วมหู หนี้สินล้นพ้นตัว บริษัทใดก็ตามที่ขาดทุนต่อเนื่องมาทุกปี ปีหนึ่งๆ ขาดทุนตั้งหมื่นกว่าล้านบาท แล้วสามารถอยู่มาได้ตั้งนาน ก็นับว่าแสนมหัศจรรย์ ลองกลับไปทบทวนดูนะครับว่า การบินไทยมีทุนเหลืออยู่กี่หมื่นล้านบาท แล้วการบินไทยมีหนี้สินกี่แสนล้านบาท (ผมเขียนเรื่องนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง) คุณลองตอบผมนะครับ บริษัทที่หนี้ท่วมตัว จะมีใครหน้าไหนยินดียอมให้กู้เงินไปลงทุนอีกลองกลับไปตรวจสอบนะครับว่าการบินไทยมีหนี้สินเกือบสามแสนล้านบาทใช่หรือไม่ แล้วคุณลองตอบผมนะครับว่า อีกกี่ชาติที่การบินไทยจะสามารถใช้หนี้จำนวนนี้ได้
แน่นอนว่า ผู้บริหารของการบินไทยจะต้องตอบแบบแก้ตัวเช่นเคยว่า การบินไทยตกต่ำเพราะประสบปัญหาการแข่งขันทางธุรกิจสูงมาก ซึ่งก็ไม่มีใครปฏิเสธ เพราะในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม การแข่งขันถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ใครดี ใครอยู่ ใครแข็งแกร่งกว่าก็อยู่รอด ใครอ่อนแอกว่าก็ต้องล้มหายตายจากไป นี่คือเรื่องปกติของทุนนิยม เพราะฉะนั้นผู้บริหารของการบินไทยจะอ้างเรื่องการแข่งขันสูงมาเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้
แต่ยิ่งมีการแข่งขันทางธุรกิจสูงก็ยิ่งต้องเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเองให้สูงมากขึ้น ต้องเอาชนะคู่แข่งทางการตลาดให้ได้ นอกจากเพิ่มประสิทธิภาพของตนเองแล้ว ยังต้องลดค่าใช้จ่าย และต้องลดต้นทุนของตนเองลงให้ได้ด้วย เรื่องนี้ผู้บริหารการบินไทยต้องถามตัวเองว่ามีปัญญาแข่งขันกับคู่แข่งทั้งในและต่างประเทศได้ดีเพียงใด อย่าอ้างแค่เพียงว่า ฉันเป็นสายการบินแห่งชาติ เพราะฉะนั้น ฉันต้องอยู่ต่อไป ขอบอกตรงๆ นะว่า หากสายการบินแห่งชาติทำให้ชาติต้องสูญเสียงบประมาณมหาศาลไปทุกๆ ปี ก็ไม่จำเป็นต้องอุ้มธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดผลกำไรต่อประเทศชาติ ป่วยการที่จะต้องอุ้มเอาไว้อีกต่อไป
ผู้บริหารการบินไทยต้องกลับไปทบทวนว่าทำไมการบินไทยขาดทุน แล้วทำไมสายการบินอื่นจึงไม่ขาดทุนหนักเท่ากับการบินไทย นอกจากผู้บริหารการบินไทยต้องทบทวนเรื่องนี้แล้ว รัฐบาลไทยก็ต้องทบทวนเรื่องนี้ด้วย โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แล้วคนที่ต้องทบทวนเรื่องนี้ด้วยอีกกลุ่มหนึ่งก็คือกรรมการบริหารการบินไทย (บอร์ด) เพราะคนเหล่านี้ไม่สามารถปฏิเสธความล่มสลายของการบินไทยได้
สำหรับคนที่รักการบินไทยจริงๆ และใช้บริการของการบินไทยมาโดยตลอด (หมายถึงกลุ่มคนที่จ่ายเงินซื้อตั๋วเครื่องบินของการบินไทยด้วยเงินของตัวเอง ไม่ใช่พวกนั่งฟรี) ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่าราคาตั๋วโดยสารของการบินไทยนั้นแพงกว่าตั๋วโดยสารของสารการบินอื่นๆ (ยกเว้นตั๋วโดยสารเครื่องบินประเภทโลว์คอสต์ แต่บางครั้งตั๋วเครื่องบินของสายการบินโลว์คอสต์ก็มีราคาแพงกว่าการบินไทยก็มี)เมื่อตั๋วโดยสารของการบินไทยแพงมากๆ แล้วการบินไทยก็ขายตั๋วโดยสารได้ค่อนข้างดี เพราะหลายคนบ่นตรงกันว่าหาซื้อตั๋วการบินไทยได้ยากมาก จองที่ไรก็ได้รับคำตอบว่าตั๋วโดยสารหมด เมื่อตั๋วโดยสารราคาแพง แถมยังหาตั๋วโดยสารได้ยากมาก แล้วทำไมการบินไทยจึงขาดทุน นั้นแสดงว่าถ้าหากไม่มีการทุจริตฉ้อฉลในการบินไทย ก็ต้องมีปัญหาอะไรบางอย่างที่ทำให้การบินไทยขาดทุน แต่ผู้เขียนขอถามคุณตรงๆ ว่า คุณคิด คุณเชื่อจริงๆ หรือว่าไม่มีการทุจริตภายในการบินไทย
มาถึงตรงนี้ ผมก็ขอถามคุณต่อไปอีกว่า คุณคิดว่าใครคือตัวการทุจริตในการบินไทย นักบิน แอร์ สจ๊วต ช่าง ฝ่ายบริการภาคพื้นดิน ฝ่ายขายตั๋วโดยสาร ผู้บริหารการบินไทย นักการเมืองที่เข้าไปพัวพันกับการบินไทย ทหาร-ตำรวจ-ข้าราชการพลเรือน และพ่อค้านักธุรกิจที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบินไทย หรือใครที่คุณพอจะนึกออกที่อยู่นอกเหนือไปจากกลุ่มที่ระบุข้างต้นนี้ ก็ขอให้ช่วยระบุให้ทราบด้วย
เมื่อพูดถึง Load Factor ของการบินไทยก็ต้องบอกว่าไม่เลวร้ายเลย เพราะมีเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ นี่ขนาด Load Factor มากมิใช่เบาเช่นนี้แล้ว แต่การบินไทยยังขาดทุนอีก ดังนั้นหากจะให้หมดปัญหาขาดทุนก็หมายความว่าต้องขายตั๋วแพงกว่านี้อีกเท่าไรจึงจะได้กำไร อย่าลืมนะครับว่าตั๋วการบินไทยแพงมากๆๆ เมื่อเทียบกับสายการบินอื่น หรือการบินไทยคิดว่าจะต้องเพิ่ม Load Factor ให้ได้สูงกว่านี้อีก ก็ขอให้บอกมา
ผมขอถามคุณผู้อ่านว่า คุณเห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐบาลค้ำประกันให้การบินไทยอีก 5 หมื่นล้านบาท คุณจะตอบว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยก็สุดแต่วิจารณญาณของคุณ แต่สำหรับผมแล้ว ผมไม่เห็นด้วย เพราะผมเห็นว่าค้ำมาแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แล้วได้อะไรดีไปกว่าเดิมหรือ แต่หากจะตอบว่าถ้ารัฐไม่ค้ำ ก็หมายความว่าการบินไทยจะล่มสลาย เราจะปล่อยสายการบินแห่งชาติล่มสลายไม่ได้ ผมถามว่าทำไมจะปล่อยให้ล่มสลายไม่ได้ แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับการกระเตงซากศพไปตลอดเวลา อย่าลืมนะครับว่า สายการบินของญี่ปุ่น (JAL) ก็ล่มสลายไปแล้ว เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่อ้างว่าสายการบินแห่งชาติล่มสลายไม่ได้ ขอให้กับไปศึกษากรณีของสายการบินญี่ปุ่นเสียก่อน
หากถามผมว่า อยากให้การบินไทยอยู่ต่อไปไหม ผมตอบว่าอยากมาก แต่การบินไทยต้องอยู่ได้โดยไม่เป็นภาระของประเทศชาติ
แต่ผมมั่นใจว่ารัฐบาลไทยคงไม่ใจร้ายถึงกับปล่อยให้การบินไทยล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา เพราะถ้าหากยังพอจะลากการบินไทยต่อไปได้ รัฐบาลก็คงจะต้องลากต่อไป แต่เมื่อรัฐบาลจะลากการบินไทยต่อไปจริงๆ รัฐบาลก็ต้องไม่ปล่อยให้คนไม่มีน้ำยา ไม่มีฝีมือ ไม่มีความสามารถทางธุรกิจการบินโดยแท้จริงเข้าไปข่มขืน
การบินไทยซ้ำๆ ซากๆ เหมือนเช่นที่ผ่านมา รัฐบาลต้องปล่อยให้การบินไทยอยู่ในความดูแลและการบริหารของมืออาชีพทางธุรกิจการบินอย่างแท้จริง อย่าส่งพวกกเฬวรากอย่างที่หลายคนปรามาสเข้าไปทำความบรรลัยให้กับการบินไทยอีกต่อไป รัฐบาลต้องให้การบินไทยกู้เงินไปแก้ปัญหาวิกฤติของตนเอง รัฐบาลต้องเลิกอุ้มการบินไทยด้วยการส่งเงินให้การบินไทยถลุงไปโดยเปล่าประโยชน์
ผมขอบอกว่า ผมยังรักการบินไทย และเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยก็ยังรักการบินไทย แต่ความรักของผมและของคนไทยอื่นๆ จะไม่สามารถทำให้การบินไทยฟื้นตัวได้ ถ้าหากการบินไทยยังเต็มไปด้วยพวกกเฬวรากเหมือนเช่นที่ผ่านๆ มา ผมรักการบินไทยมากก็จริง แต่ผมก็เสียดายเงินของประเทศที่โดนนำไปให้คนบางพวกถลุงผ่านการบินไทย
การบินไทยรักคุณเท่าฟ้า คนไทยรักการบินไทยมากเท่าฟ้า แต่การบินไทยต้องเข้มแข็งกว่านี้

เพื่อไทยขายฝันเก่า มีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อีกรอบ (คลิป)
โซเชียลจีนกระหึ่ม ขอบคุณประเทศไทย ทำลาย ขบวนการสแกมเมอร์ นิคมหลอกลวง ในกัมพูชา
'สุชัชวีร์'อุบรายชื่อแคนดิเดต เชื่อสู้พรรคอื่นได้ ย้ำส่งทุกภาครอเปิดตัว
กู้หน้าส.บอล! ฟุตซอลไทยแพ้ไม่ได้ลุ้นทองดวลอิเหนาคืนนี้
บิ๊กเนมมาแล้ว1 ไทยก้าวใหม่เปิดตัว 'ตั๊น จิตภัสร์' ลงปาร์ตี้ลิสต์ นั่งหัวหน้าทีมเสมอภาค

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี