ในตอนที่ผ่านมาได้พูดให้ฟังถึงเรื่องความสำคัญของสุขภาพจิตใจ ว่ามีความสำคัญที่เราต้องใส่ใจดูแลรักษาตลอดเวลาด้วย เพราะถ้าไม่ใส่ใจดูแลให้ดีแล้ว จิตใจก็ต้องเจ็บป่วยลงไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัว ต้องกลายเป็นผู้ป่วยทางจิตซึ่งจะกลายเป็นคนที่มีความผิดปกติทางความคิด ทางอารมณ์ และความรู้สึก ไม่เหมือนคนทั่วไป
คนป่วยทางจิตนั้นบางทีก็เรียกว่าคนโรคจิต
มีพฤติกรรมทั้งทางกาย วาจา ใจ ไม่เหมือนคนอื่น ซึ่งนำไปสู่ความเป็นคนบ้า เอะอะมะเทิ่งด้วยท่าทางและวาจา แสดงอำนาจใหญ่โตให้คนกลัวซึ่งจะกลายเป็นคนที่ไม่มีใครอยากเข้าใกล้
คนที่เงียบจนเกินไปก็เช่นเดียวกันที่ผู้คนทั้งหลายไม่ค่อยอยากจะอยู่ใกล้ เพราะไม่สามารถหยั่งรู้ความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ของเขาได้ดูเหมือนคนลึกลับอะไรทำนองนั้น ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนและเมื่อไร
ข่าวคราวที่ได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆ เรื่องหนึ่งก็คือ ข่าวเรื่องการฆ่าตัวตายของคนนั้นคนนี้ ทำไมจึงเป็นอย่างนี้นั้นทางจิตแพทย์บอกว่าเป็นผลมาจากความผิดปกติทางอารมณ์และจิตใจ คนที่เจตนาฆ่าตัวตายเกือบทุกคนนั้นมักเป็นคนที่มีปัญหาทางจิตใจ
โดยเฉพาะความเศร้าทางจิตใจ
ไม่มีใครเลยที่ตั้งแต่เกิดมาจนตายนั้นไม่เคยผ่านภาวะของความเศร้า เพราะความเศร้าเกิดจากความผิดหวังล้มเหลวหรือสูญเสีย และไม่มีใครในโลกที่ไม่เคยสูญเสีย ไม่ว่าขอทานหรือเศรษฐี
ทางจิตเวชแบ่งเรื่องความเศร้าไว้ 3 กลุ่มใหญ่
1. ความเศร้าในคนปกติ
มักเกิดขึ้นภายหลังการตายของญาติพี่น้องหรือภายหลังวิกฤติกาลในชีวิต เช่น ค้าขายขาดทุน สอบตกอกหัก อาการจะไม่รุนแรง กินเวลาสั้นทุเลาลงไป
2. โรคประสาทชนิดซึมเศร้า
เป็นความรุนแรงถัดขึ้นไปของความเศร้า จัดอยู่ในประเภทโรคทางอารมณ์ชนิดหนึ่ง เป็นภาวะเรื้อรังกินเวลานาน มีความรู้สึกท้อแท้เบื่อหน่าย อาการสำคัญคือซึมเศร้า นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร หมดอาลัยตายอยากในชีวิต มองโลกในแง่ร้ายสิ้นหวัง ดูถูกตัวเอง หมดกำลังใจ ตึงเครียด ใจน้อยหงุดหงิดง่าย มักหาเรื่องกับคนอื่น โมโหง่าย
3. ภาวะซึมเศร้าในโรคจิต
เป็นโรคจิตชนิดซึมเศร้าสลับคลั่ง ประสาทหลอน หวาดกลัวและกระวนกระวาย เป็นอาการซึมเศร้าถึงขั้นฆ่าตัวตายได้
การรักษาอาการซึมเศร้า
อาการซึมเศร้าที่เกิดขึ้นในแต่ละอย่างดังกล่าวของคนเรานั้น ต้องการความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ และกำลังใจมากที่สุด แพทย์อาจใช้ยาบำบัดอาการซึมเศร้า หรือรักษาด้วยไฟฟ้าแล้วแต่กรณี
โดยเฉพาะถ้าทุกคนในโลกมีไมตรีจิตต่อกัน เข้าใจและเห็นใจกัน คนฆ่าตัวตายแทบไม่มีเลยเขากระหายน้ำจาก “ใจ” ของเพื่อนมนุษย์
ทั้งหลายทั้งปวงที่นำมาเล่าสู่กันฟังจากหนังสือเรื่อง “จิตเภท” ที่เขียนโดยแพทย์หญิงสุพัตรา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา ดังกล่าวนี้ ก็เพราะเห็นว่าผู้คนในบ้านเมืองของเราขณะนี้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางความแวดล้อมที่นำมาซึ่งความเครียดทางจิตใจจากปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ทั้งกับส่วนตนและส่วนรวม เป็นปัญหาใหญ่ที่ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการกับบ้านเมืองควรใส่ใจในการช่วยเหลือแก้ไข
อาสาตัวเข้ามาด้วยอำนาจปืนยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
ใส่ใจในการมองตัวเองและพวกของตัวเองในเรื่องที่เกี่ยวกับสภาพของจิตใจตัวเองด้วย ว่าปกติหรือไม่ปกติในความรู้สึกคิดเห็นในการทำงานที่อาสาเข้ามาทำ
และใส่ใจที่จะมองสภาพจิตใจของผู้คนในขณะนี้ด้วยว่า พวกเขาเหล่านั้นมีสภาพจิตใจอย่างไรภายใต้การบริหารจัดการของตน
ไม่ใช่เอาแต่โมโหโทโส คุยโว โอ้อวด
ต้องคิดและสำนึกตนอยู่ตลอดเวลาว่า การงานทั้งหลายที่ทำหรือคิดจะทำนั้น ทุกครั้งที่เราและพวกกำลังหัวเราะรื่นเริงอย่างมีความสุขจากอำนาจที่มีอยู่นั้น ยังมีคนอื่นๆ ที่เราเรียกเขาว่าประชาชนคนไทยในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศกำลังนั่งร้องไห้มีความทุกข์
ต้องคิดว่ามีคนนั่งกอดเข่าไหล่คู้อย่างหมดอาลัยในชีวิต
เด็กๆ จำนวนมากที่เปล่าเปลือยจากเสื้อผ้านุ่งห่ม
ยังมีผู้คนเดินเซซังตามถนนอย่างไร้จุดหมายของชีวิต
ผู้คนทั้งหลายเหล่านี้แหละที่ได้กล่าวมาให้ฟังแล้วว่า พวกเขากระหาย “น้ำ” จาก “ใจ” ของผู้กำลังถืออำนาจเพื่อแก้ไขบ้านเมืองอยู่ในขณะนี้
ไม่คิดที่จะทำให้พวกเขาเงยหน้ายิ้ม และพูดว่า “ชีวิตนี้ยังมีหวังเพราะมีผู้มาช่วยแก้ไขให้” บ้างเชียวหรือ โดยไม่ต้องตกอยู่ในภาวะอึดอัดหาทางออกให้กับชีวิต จนจิตใจต้องเจ็บป่วยลงไปเรื่อยๆ อย่างที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี