ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ฉบับ นับตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
มีการร่างใหม่เปลี่ยนใหม่ทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจ
สาเหตุแห่งการยึดอำนาจในแต่ละครั้งที่ผ่านมานั้น
ไม่พ้นเรื่องของการแย่งอำนาจกันเองในบางครั้งบางคราวของพวกมีปืน แต่ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากปัญหาของพวกการเมืองด้วยกันเอง ที่ได้อำนาจทางการเมืองผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แต่ใช้อำนาจที่ได้มานั้นในการบริหารจัดการบ้านเมืองไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง คือไม่ใช่ประโยชน์เพื่อส่วนรวมของประเทศ แต่เพื่อประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์พวกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดการต่อต้าน เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองเพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่พอใจ ดังที่ปรากฏให้เห็นมาเป็นระยะๆ และนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหาร
แล้วก็ร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่อย่างเช่นในขณะนี้
วนเวียนทำกันอย่างนี้มาโดยตลอดในเรื่องรัฐธรรมนูญ
แม้จะมีความพยายามแก้ไขในสิ่งที่คิดว่าเป็นช่องโหว่ช่องว่างในเรื่องบางอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับการเข้ามาและการใช้อำนาจทางการเมืองที่ได้มาไปในทางไม่ถูกต้องเพื่อประโยชน์ตนและพรรคพวกก็ตาม แต่ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้อย่างที่ต้องการ เพราะยังมีเรื่องไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นตามมาได้อีกจากบรรดานักการเมืองไม่ดีทั้งหลาย
ที่เสาะหาวิธีการต่างๆ มาใช้ในการหาผลประโยชน์ตนและพรรคพวกอยู่เรื่อยๆ อย่างที่เห็นๆ กันในขณะนี้
ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นจึงเกิดจากคนไม่ดีที่เข้าสู่การเมืองและเกิดจากคนที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง ซึ่งตกอยู่ในอาณัติของระบบอุปถัมภ์เพื่อการมีกินมีใช้ของตน
คนยากคนจนในประเทศของเรายังเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศในขณะนี้ ที่ทำกินและบ้านช่องอันเป็นของตัวเองไม่ค่อยจะมี หนี้สินยังท่วมหัว ทั้งๆที่แผ่นดินผืนนี้เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ ทั้งบนบก ในทะเล และในอากาศ เป็นแผ่นดินที่ชอบบอกกรอกหูกันอยู่ทุกวันว่าประชาชนคนไทยเป็นเจ้าของ
แต่การเป็นเจ้าของอย่างว่านี้เป็นเพียงคำพูด
การสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่น่าจะได้เวลาสังคายนา และแก้ไขเพิ่มเติมในสิ่งที่เป็นของใหม่เพื่อให้ประชาชนคนไทยเป็นเจ้าของประเทศจริงๆ ขึ้นมาบ้าง ไม่ใช่เขียนไว้เพียงว่าประชาชนเป็นเจ้าของประเทศอย่างที่เข้าใจกันมาตลอดในเวลาที่ผ่านมา
อย่าเพียงแค่การปฏิรูปการเมืองเท่านั้น
ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ปฏิรูปประเทศด้วย
ขอเสนอเป็นข้อคิดในการปฏิรูปประเทศที่ควรบรรจุไว้ในประเด็นสำคัญๆ ต่อไปนี้
1. ประเทศไทยเป็นประเทศที่ยึดถือเอาสังคม ความเป็นธรรมด้านเศรษฐกิจและสังคม การปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นคุณค่าพื้นฐานของกฎหมาย ในการอำนวยความยุติธรรมในการบังคับใช้ต่อชีวิตในด้านเสรีภาพ ความเสมอภาค สิทธิมนุษยชน คุณธรรมจริยธรรม และความเชื่อที่แตกต่าง
2. ทรัพยากรธรรมชาติทั้งปวงในอาณาเขตของประเทศ ทั้งที่อยู่บนดิน ใต้ดิน ในอากาศ เป็นทรัพย์สินของสาธารณชนที่ต้องบริหารจัดการเพื่อระบบสวัสดิการสังคมและผลประโยชน์ของสาธารณะ ห้ามโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของบุคคลหรือชาวต่างชาติ นอกจากการร่วมทุนที่รัฐถือหุ้นข้างมากไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 และมีอำนาจตัดสินชี้ขาดนโยบาย
3. กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เป็นของคนไทยเท่านั้น ห้ามโอนกรรมสิทธิ์ให้กับต่างชาติ ที่ดินว่างเปล่า เกาะแก่งในแม่น้ำเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ และห้ามออกเอกสารสิทธิให้กับเอกชน นอกจากการให้เช่าใช้ประโยชน์และอยู่อาศัยเท่านั้น
4. การทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ข้อตกลง หรือการให้สัตยาบัน กติการะหว่างประเทศที่อาจมีผลกระทบต่อประเทศ หรือการโอนอำนาจให้องค์กรนานาชาติจะต้องผ่านการลงประชามติของประชาชนทั้งประเทศ
5. รัฐสงวนสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ อุตสาหกรรมพลังงาน แก๊ส น้ำมัน และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งทางด้านการผลิต ด้านตัวสินค้า และด้านการบริการ เป็นสมบัติของสังคมและประเทศ เป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงโดยธรรมชาติ รัฐมีหน้าที่สนับสนุนอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตจากอุตสาหกรรมเพื่อนำรายได้และผลกำไร ให้คนในชาติได้มีสวัสดิการสังคม ได้มีโอกาสในการสร้างสรรค์พัฒนาเทคโนโลยี พัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโต พัฒนาชาติให้มั่งคั่ง เพื่อความอยู่ดีกินดีของคนส่วนใหญ่
6. เพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยโดยทางเศรษฐกิจ การเมือง และความมั่นคงของชาติ รัฐจะเป็นผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกิจการน้ำมันที่มีชื่อว่า ปตท. และบริษัทลูก รวมถึงบริษัทในเครือที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อบริหารงานในกิจการข้างต้น
7. ทรัพยากรน้ำทั้งหมดเป็นสมบัติสาธารณะ เพราะมีความสำคัญต่อชีวิตของเกษตรกรและการพัฒนา รัฐต้องกำหนดในกฎหมายให้คุ้มครองการใช้ประโยชน์ และปกป้องไม่ให้มีการทำลายวงจรธรรมชาติของน้ำ
8. รัฐต้องสนับสนุนการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน ต้องถือเป็นยุทธศาสตร์พื้นฐานในการพัฒนาชนบท เพื่อเป็นหลักประกันให้ประชาชนมีอาหารกินอย่างพอเพียง รัฐมีหน้าที่จัดหาเงินทุน ที่ดิน ตลาด เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐาน การฝึกอบรมอาชีพและมาตรการจำเป็นอื่นๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์นี้ อาชีพชาวประมงต้องได้รับการคุ้มครอง
เอาแค่ 8 ข้อนี้ก็พอที่อยากให้มีในรัฐธรรมนูญ
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี