ข้อเรียกร้องของฝ่ายการเมือง และกลุ่มพลังนักเรียนนิสิตนักศึกษาที่ถูกสัมภเวสี - อีแอบที่บุพการีไม่สั่งสอนสนตะพายให้ออกมาเคลื่อนไหวอยู่แนวหน้ากลุ่มพลังเยาวชนที่เคลื่อนไหวแบบดาวกระจายทั่วประเทศยื่นข้อเรียกร้องอยู่ 3-4 ประเด็นที่ค่อนข้างจะย้อนแย้งกันเองคือ 1.ให้ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก 2.ให้ประกาศยุบสภา 3.ให้จัดการเลือกตั้งใหม่ 4.ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย 5.หยุดคุกคามข่มขู่ผู้มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง
น่าสนใจประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยนี่แหละ ประเด็นคือ รัฐธรรมนูญมีปัญหาหรือคนใช้รัฐธรรมนูญสร้างปัญหาทำประชาธิปไตยพิการขาลีบ(โปลิโอ) อำนาจอธิปไตยในระบอบประชาธิปไตยประกอบด้วยอำนาจ 3 ฝ่ายที่พึ่งพากันและคานกันอยู่ นั่นคือ 1.ฝ่ายบริหาร 2.ฝ่ายนิติบัญญัติ 3.ฝ่ายตุลาการ
อำนาจบริหาร กำลังโดนท้าทายจากกลุ่มผลประโยชน์และจากนักการเมืองที่สั่งสมความแค้นไว้พอสมควร
อำนาจนิติบัญญัติ เหมือนกำลังสับสนบทบาทหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ มีนักการเมืองบางกลุ่มร่วมกับอดีตนักการเมืองที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิ์ทางการเมืองเคลื่อนไหวนอกรัฐสภาควบทฤษฎีสมคบคิด และเรียกร้องให้มีการแก้ไขมาตรา 1 ในรัฐธรรมนูญที่บัญญัติว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเป้าประสงค์ในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
อำนาจตุลาการ ต้องยอมรับว่าในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา กระบวนการยุติธรรมของไทยถูกจับตามองว่ากลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายผู้มีอำนาจใช้กลั่นแกล้งและสยบความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม
กระบวนการยุติธรรม ประกอบด้วย ตำรวจ อัยการและตุลาการ ผู้พิพากษา ที่ผ่านมา สังคมไทยตั้งแง่กังขาการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจมาตลอด โดยเฉพาะข้อกล่าวหา เลือกปฏิบัติจนมีการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปวงการตำรวจ ทว่าล่าสุดสังคมไทยเริ่มเคลือบแคลงสงสัยสำนักงานอัยการสูงสุด หลังมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเรดบูลกรุ๊ปมหาเศรษฐีลำดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งคดีขับรถยนต์ชนดาบตำรวจวิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 ที่วันนี้ยังตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีมีคำสั่งไม่ฟ้องสักข้อหาเดียว
สังคมต้องแยกแยะรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยมีปัญหาพิกลพิการจริงหรือผู้ปฏิบัติเลือกใช้บางข้อความบางมาตราเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้องมากกว่า จนเกิดข้อครหาในทางลบ
ถ้าต้องสังคายนา ทหารแก่เลือกจะแก้ไข จะฉีกทิ้งจะปฏิรูปหรือทำอะไรก็สมควรเร่งมือปฏิบัติ
พระท่านว่า โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่บังเอิญ ไม่ว่าจะกรรมเก่าหรือปัจจุบัน กรรมติดจรวด มันถูกกำหนดไว้หมดแล้ว เหมือนกรณีของพยานปากเอกคดี “บอส อยู่วิทยา” ที่อยู่ๆ ก็ชีวิตกะทันหันจากอุบัติเหตุหลังจากข้อมูลคำให้การที่เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาที่ร่ำรวยถูกสั่งไม่ฟ้อง มันจะเข้าบทที่พระท่านว่าไว้ไหมหนอ โลกใบนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญ (สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - กมฺมุนา วตฺตตีโลโก)
อ้อยส้อยไปก็เท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี