“บุคคลแนวหน้า” ใน “หนังสือพิมพ์แนวหน้า อุดมการณ์มั่นคงตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” ประจำการสถานี “ข้อเท็จจริง”เขาบอกกันว่า “เราไม่อาจทำให้คนทุกคนร่ำรวยเท่าเทียมกัน แต่เราสามารถทำให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันได้” วลีอมตะของ “นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภาคนปัจจุบัน” ที่น่าสนใจว่ายุคสมัยนี้จะทำอย่างไรให้กระบวนการยุติธรรมเรียกศรัทธาและความเชื่อมั่นว่าทุกคนจะสามารถอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันอย่างไม่มีเงื่อนไข..
.nn สิทธิเสรีภาพในการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นสิ่งที่สามารถกระทำได้ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญและตามระบอบประชาธิปไตย แต่เสรีภาพที่บัญญัตินี้จะต้องไม่ละเมิดและเคารพสิทธิของผูู้อื่นด้วย โดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึกและศรัทธาของปวงชนชาวไทยส่วนใหญ่ นั่นคือสถาบันพระมหากษัตริย์“ม็อบมุ้งมิ้ง-ตุ้งติ้ง-ปลดแอก” โหยหาประชาธิปไตย แต่ไม่เข้าใจหลักของประชาธิปไตย “ยุบสภา-แก้รัฐธรรมนูญ” ต่อสู้อย่างนี้ หัวเรือใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังทั้ง “สัมภเวสี-อีแอบที่ไร้บุพการีสอนสั่ง” บังอาจสนตะพายเด็กเป็นแนวหน้าอย่าฝันว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเผลอๆ รัฐบาลทหารแก่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะอยู่ได้ยาวนานกว่าที่คิดเสียด้วยซ้ำไป การสนับสนุนทั้งบนดินและใต้ดิน โดยใช้เยาวชนเป็นเครื่องมือส่อเค้าลางว่าจะนำไปสู่ความรุนแรงทำให้สังคมเกิดความแตกแยกร้าวลึก โดยเฉพาะบรรดานักการเมืองที่เสียประโยชน์ อ้างสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่เคยแสดงท่าทีใดๆ ต่อเหตุการณ์ก้าวล่วงจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง..
.nn ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อบ้านเมืองยังใช้สื่อออนไลน์โจมตีสถาบันอย่างต่อเนื่อง “พุทธิพงษ์ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)” ส่งสัญญาณมาบ่อยครั้งว่าจะเร่งล้างบางเว็บไซต์ผิดกฎหมายที่เสนอเนื้อหาโจมตีสถาบัน ซึ่งจะใช้เวลาแค่ 1-2 วัน รวบรวมหลักฐานสามารถส่งฟ้องศาลดำเนินคดีได้ทันที เมื่อศาลมีคำสั่งให้ปิดหรือลบข้อมูลแล้ว จะเป็นการดำเนินการของหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าเป็น ISP หรือสื่อสังคมออนไลน์ ที่จะปิดหรือลบข้อมูลผิดกฎหมาย รวมทั้งบก.ปอท. จะหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ใครที่สนุกสนานกับการให้ร้ายนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์พึงสังวร งานนี้มี “คุกเป็นเรือนนอนแน่” ก็อย่าสนุกกับการอ้อยส้อยสำรอกลมปากสมควรลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังและจริงใจกว่านี้..
.nn คดีใหญ่สั่นสะเทือนกระบวนการตุลาการในห้วงเวลานี้ หนีไม่พ้นกรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง “บอส-วรยุทธ อยู่วิทยา” กรณีขับรถหรูชนรถจักรยานยนต์ของ “ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ” จนเสียชีวิตเมื่อปี 2555ซึ่งสร้างความเคลือบแคลงใจให้กับสังคมไทยเป็นอย่างมาก ซ้ำร้าย1 ในพยานปากเอก “จารุชาติ มาดทอง” ที่เป็นประจักษ์พยานให้การจนทำให้อัยการสูงสุดใช้เป็นเหตุผลสำคัญในการ “สั่งไม่ฟ้องคดีนี้”พระท่านเทศนาธรรมสอนพุทธศาสนิกชนไว้ “โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่บังเอิญทั้งกรรมเก่า กรรมใหม่ถูกกำหนดไว้แล้ว” ล่าสุด “ทหารแก่”สะดุ้งตื่นจากภวังค์ รับฟังเสียง “จิ้งจกสังคม” ทัก จึงมีคำสั่งอายัดร่างไร้วิญญาณ “จารุชาติ มาดทอง” พยานคดีทายาทกระทิงแดงที่พ่อแม่ญาติเตรียมฌาปนกิจเพื่อนำมาชันสูตรสาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิตอีกครั้ง น่าสนใจตรงที่คู่กรณีคือ “สมชาย ตาวินโน” ขับรถจักรยานยนต์เกี่ยวจนพยานปากเอกคดีบอสเสียชีวิตสงสัยจะมึนเมาหรืออย่างไรจึงให้การตำรวจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยยืนยันก่อนหน้านี้ไม่ได้รู้จักกับผู้ตายมาก่อน ทว่าตำรวจไล่ไทม์ไลน์จากกล้องวงจรปิดรวมถึงเจ้าของร้านคาราโอเกะและพนักงานในร้านยืนยันว่า ทั้งสองมานั่งกินดื่มที่ร้านคนละโต๊ะ พอร้านใกล้ปิดต่างคนต่างเมาเดินไปจากร้านและได้พูดคุยกันถูกคอ “สมชาย ตาวินโน” ชวนผู้ตายไปยกซดต่อกับเพื่อนสาวของเขาทั้งคู่จึงพากันขับขี่จยย.ออกไป แต่ “จารุชาติ มาดทอง” ไปไม่ถึงจุดหมายเกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิต ครั้นถูกซักถามหนัเข้า “สมชาย” ยอมพลิกลิ้นอ้างว่าตัวเองเมาจึงให้การสับสนไม่ว่าในกอไผ่จะมีเบื้องลึกเบื้องลับอะไรมากกว่านี้หรือไม่??? แต่สังคมมีคำถามมากมายเกี่ยวกับคดีบอสรวมถึงการตายผิดธรรมชาติของพยานคนสำคัญในห้วงเวลาที่กรรมาธิการตำรวจทำหนังสือเชิญมาให้ปากคำ คงต้องฝากความหวังไว้กับ “วิชา มหาคุณ”ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบเสาะหาข้อเท็จจริงจากการสั่งไม่ฟ้องคดีอื้อฉาวนี้ จะสามารถจุดเทียนนำทางไปสู่ข้อเท็จจริงได้หรือไม่.
..nn ก่อนจะไปสิ้นสุดที่กระทรวงศึกษาธิการ “ไม้หน้าสาม” ไม่ลืมตรวจสอบสถานการณ์ล่าสุด “โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19”ในประเทศไทยทั้งการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และการขับเคลื่อนมาตรการต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจขยับเขยื้อนโดยในประเทศยังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ แต่พบผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ แต่ถูกกักตัวไว้ในสถานกักเก็บตัวของรัฐ แม้แต่นักฟุตบอลชาวเซอร์เบียของ “สโมสรฟุตบอลปราสาทสายฟ้า-บุรีรัมย์ยูไนเต็ด” ที่ปรากฏข่าวว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19ก็ถูกกักตัวไว้ในสถานกักตัวไม่มีการสัมผัสโดยตรงกับผู้อื่น ล่าสุดสทท.เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดน่านฟ้าเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ หลังนักท่องเที่ยวจีนเคลื่อนไหวติดต่อขอเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย งานนี้ “รัฐบาลทหารแก่”ต้องคิดให้จงหนักรายได้เข้าประเทศก็น่าสนใจ แต่ภัยพิบัติจากเชื้อไวรัสโคโรนาก็ยังมีอยู่ พลาดท่าได้ไม่คุ้มเสีย หากเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกสองไม่ใช่แค่ความมั่นคงปลอดภัยของประชาชนเท่านั้น แต่ความมั่นคงปลอดภัยของรัฐบาลทั้ง “ทหารแก่ และผู้เฒ่าขี้โรคขี้ลืม” ก็จะไม่มีที่ยืนเช่นกัน “ทีมไทยแลนด์” ที่ได้รับการยกย่องก็จะไร้ประโยชน์ไปด้วยเช่นกัน...
nn ปิดท้ายวันพุธที่ 5 สิงหาคมนี้ 09.00 น. เชิญร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการแอคเซส สคูล : ชุมชนสร้างโรงเรียนโรงเรียนสร้างชุมชน (ACCLSS School Project)โดยมี คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการพร้อมผู้แทนสหภาพยุโรป ตลอดจนผู้บริหารโครงการ ครู นักเรียน ภาคประชาสังคมร่วมงาน ณ ห้องบอลรูม III ชั้น 4 โรงแรมคอนรำด กรุงเทพ...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี