วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 02.00 น.
ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ (2) รัฐเก็บภาษีจากในหลวงได้มากขึ้น

ดูทั้งหมด

  •  

การบริหารจัดการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง?

การแก้ไขเมื่อปี 2561 มันต่างจากเดิมอย่างไร? มันไม่ดีเหมือนที่ม็อบกล่าวหาจริงหรือ?


1. สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ มีจุดกำเนิดมาจากเงินส่วนพระองค์ของรัชกาลที่ 3 ที่ได้จากการทำธุรกิจ ตั้งแต่ก่อนจะครองราช เงินก้อนที่เรียกว่าเงินถุงแดง ตกมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ต่อมาเรียกว่า เงินข้างที่ ต่อมาถูกจัดตั้งขึ้นเป็นกรมพระคลังข้างที่ ก่อนจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 และเปลี่ยนมาเป็นสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในยุคปัจจุบัน

2. การเปลี่ยนแปลงการจำแนกแยกแยะ และการบริหารจัดการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

2.1 ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เคยถูกจัดการดูแลรักษาภายใต้กฎหมายยุคคณะราษฎร คือ พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2479 (ถูกแก้ไข
ในปี 2484 และ 2491)

กฎหมายฉบับปี 2479 เขียนให้ “ทรัพย์สินส่วนพระองค์” อยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง และทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ประเภทอื่นอยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง โดยมีคณะกรรมการคณะหนึ่งตั้งขึ้นโดยพระบรมราชานุญาต

ต่อมา แก้กฎหมายในปี 2491 จัดระบบใหม่

โดยให้การดูแล “ทรัพย์สินส่วนพระองค์” เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย

“ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน” ให้อยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง

และให้จัดตั้งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อมารับหน้าที่ดูแล “ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ประเภทอื่น โดยยังให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนั่งเป็นประธาน

2.2 ต่อมา พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2560 ออกมาในยุค คสช.

เหตุผลระบุไว้ชัดเจนว่า โดยที่ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ เป็นทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์ทรงใช้ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ จึงสมควรให้การจัดการทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย เพื่อให้การใช้ประโยชน์ทรัพย์สินนั้นเป็นไปโดยเหมาะสมตามที่จะทรงมีพระราชวินิจฉัยและเป็นไปตามโบราณราชประเพณี ซึ่งจะสอดคล้องกับการจัดระเบียบราชการในพระองค์ตามที่ได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการในพระองค์

มีข้อแตกต่างที่สำคัญจากเดิม ได้แก่

(1) ประธานกรรมการสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปลี่ยนจากนักการเมือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นโดยตำแหน่ง ให้มาจากการแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย

(2) ยุบ “ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน” รวมกับ “ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์”

จากที่เคยจำแนกเป็น “ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน” ทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์ซึ่งใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ เป็นต้นว่า พระราชวัง ที่ให้อยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง แต่แก้กฎหมายให้ทรัพย์สินประเภทนี้ไปรวมกับ “ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” อยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

โดย พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ.2560 แบ่งทรัพย์สินออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

“ทรัพย์สินส่วนพระองค์” หมายความว่า ทรัพย์สินที่เป็นของพระมหากษัตริย์อยู่แล้วก่อนเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ทรัพย์สินที่รัฐทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และทรัพย์สินที่ทรงได้มาอันเป็นการส่วนพระองค์ รวมทั้งดอกผล

“ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” หมายความว่า ทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์นอกจากทรัพย์สินส่วนพระองค์ (“ทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน” เดิม ก็มาอยู่ในส่วนนี้)

ประการสำคัญ ได้เปลี่ยนหลักการเสียภาษี

จากกฎหมายเดิม เขียนว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ย่อมได้รับความยกเว้นจากการเก็บภาษีอากร เช่นเดียวกับทรัพย์สินของแผ่นดิน แต่ทรัพย์สินส่วนพระองค์ย่อมไม่อยู่ในข่ายแห่งความยกเว้น ซึ่งหมายความว่า ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นั้นได้รับการยกเว้นภาษีทั้งหมด แต่ทรัพย์สินส่วนพระองค์โดยหลัก “ต้องเสียภาษี” ยกเว้นจะมีกฎหมายใดมายกเว้นเป็นการเฉพาะ

กฎหมายใหม่ แก้ไขเป็นว่า ทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ทุกประเภทจะต้องเสียภาษีอากร หรือได้รับยกเว้นภาษีอากรย่อมเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

แปลว่า หลักการเดิมที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไม่ต้องเสียภาษีเป็นหลักทรัพย์สินส่วนพระองค์ต้องเสียภาษีเป็นหลัก ถูกยกเลิกไป โดยเรื่องใดจะต้องเสียภาษีหรือไม่ขึ้นอยู่กับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

นั่นทำให้รัฐได้รับเงินภาษีรายได้จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์มากขึ้น

2.3 พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2561

เหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ เพื่อปรับปรุงการจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ให้เหมาะสมแก่การบริหารจัดการยิ่งขึ้น โดยถวายเป็นพระราชอำนาจในการจัดการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย เพื่อให้การใช้ประโยชน์ทรัพย์สินนั้นเป็นไปโดยเหมาะสมตามที่จะทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยตามโบราณราชประเพณี

มีการแก้ไขชื่อเรียก โดย “ทรัพย์สินส่วนพระองค์” แก้ไขเป็น “ทรัพย์สินในพระองค์” และ“ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” แก้ไขเป็น “ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์”รวมถึง“สํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” แก้ไขเป็น “สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์”

กำหนดชัดเจนว่า “ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์” จำแนกเป็นสองส่วน ได้แก่ ทรัพย์สินในพระองค์และทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์ การจัดการ การดูแลรักษา การจัดหาผลประโยชน์ และการดำเนินการอื่นใด อันเกี่ยวกับทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย

“ทรัพย์สินในพระองค์” หมายความว่า ทรัพย์สินที่เป็นของพระมหากษัตริย์อยู่แล้วก่อนเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ทรัพย์สินที่รัฐทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และทรัพย์สินที่ทรงได้มาไม่ว่าในทางใดและเวลาใดอันเป็นการส่วนพระองค์ ทั้งนี้ รวมถึงดอกผลที่เกิดจากบรรดาทรัพย์สินเช่นว่านั้นด้วย

“ทรัพย์สินในพระมหากษัตริย์” หมายความว่า ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์นอกจากทรัพย์สินในพระองค์

กำหนดให้พระมหากษัตริย์มีพระบรมราชวินิจฉัยในกรณีที่มีปัญหาว่าทรัพย์สินใดเป็นทรัพย์สินพระมหากษัตริย์

เปิดทางให้บุคคลหรือหน่วยงานอื่นสามารถจัดการทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ตามที่พระมหากษัตริย์ได้มอบหมาย แต่ถ้ายังมิได้ทรงมอบหมายให้ใครสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จะมีหน้าที่จัดการเกี่ยวกับทรัพย์สินพระมหากษัตริย์นั้น

ดูแลมิให้เกิดสุญญากาศในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยกำหนดว่า ให้ใครก็ตามที่พระมหากษัตริย์ทรงได้เคยมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินฯ ยังคงจัดการได้ต่อไป

ในเรื่องภาษี มาตรา 9 ยังกำหนดว่า ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์จะต้องเสียภาษีอากร หรือได้รับยกเว้นภาษีอากร ย่อมเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

ทำให้รัฐจัดเก็บภาษีจากทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ได้มากขึ้น (สมัยก่อนโน้น ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้รับความยกเว้นจากการเก็บภาษีอากรเช่นเดียวกับทรัพย์สินของแผ่นดิน)

3. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ เขียนบทความสรุปไว้อย่างชัดเจนว่า

ทรัพย์สินพระมหากษัตริย์และทรัพย์สินส่วนพระองค์ อันเป็นพระราชมรดกตกทอด ได้ถูกแยกขาดออกจากทรัพย์สินของแผ่นดินในสมัยรัชกาลที่ 5 ไม่ให้ปะปนกัน

ทรัพย์สินส่วนพระองค์ คือ ทรัพย์สินพระราชมรดกของพระเจ้าแผ่นดินพระองค์นั้น เป็นการเฉพาะ

ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ คือ พระราชมรดกตกทอดแห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์ เป็นทรัพย์สินของสถาบันพระมหากษัตริย์และย่อมจะสืบทอดต่อไปยังพระเจ้าแผ่นดินพระองค์ถัดไปในอนาคต เป็นพระราชทรัพย์ของราชวงศ์จักรี หาได้เป็นทรัพย์ของแผ่นดินไม่ (ที่มาของพระราชทรัพย์นี้ที่สำคัญที่สุดคือเงินถุงแดง...)

ในอดีตกรมพระคลังข้างที่ดูแลทรัพย์สินพระมหากษัตริย์และทรัพย์สินส่วนพระองค์ ต่อมากลายเป็นสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ปัจจุบันคือสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และพระคลังข้างที่ สังกัดสำนักพระราชวัง

...พระราชอำนาจในการจัดการพระราชทรัพย์ของพระเจ้าแผ่นดิน ได้ถูกปล้นไปโดยคณะราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม เอาที่ดินขายให้พวกตัวเองกันในราคาถูกๆ เอาเข้ากระเป๋าตัวเอง จนทุกวันนี้ ลูกหลานของขุนนิรันดรชัย ยังฟ้องร้องแย่งชิงมรดกที่ดินแปลงงามที่ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ไปปล้นซื้อมาราคาถูกแสนถูกจากกรมพระคลังข้างที่

แล้วก็มาลิดรอนพระราชอำนาจในการจัดการทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ โดยการออกพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ฉบับ พ.ศ.2479 ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแลรักษาการ

พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ฉบับ พ.ศ.2484 ให้กระทรวงการคลังดูแล และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน

ส่วนพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ ฉบับ พ.ศ.2491 ให้มีการจัดตั้งสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน โดยตำแหน่ง

ทั้งหมดนี้ เป็นการลิดรอนสิทธิในการถือครองทรัพย์อันเป็นพระราชมรดก และการลิดรอนพระราชอำนาจตลอดจนสิทธิส่วนบุคคลในการถือครองทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์เพราะคณะราษฎรไม่ต้องการให้สถาบันพระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจใดๆ เลย

...พระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ 2560 และ 2561 ทั้งทรัพย์สินส่วนพระองค์ (พระเจ้าแผ่นดินในฐานะตัวบุคคล) และทรัพย์สินพระมหากษัตริย์(พระเจ้าแผ่นดินในฐานะสถาบันพระมหากษัตริย์) ดูแลจัดการโดยสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ที่เปลี่ยนมาจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งกรรมการสำนักงานได้ตามพระราชอัธยาศัย

ทำให้ทรงจัดการพระราชทรัพย์ได้สะดวกและเป็นประโยชน์ได้ง่ายขึ้น

ทำให้ทรงเสียภาษีอย่างถูกต้องได้ทั้งหมด

ทำให้ทรงได้รับสิทธิ์อันชอบธรรมในการดูแลพระราชมรดกแห่งพระราชวงศ์จักรี

ทำให้ทรงงานและทรงใช้พระราชทรัพย์ในการทรงงานเพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชน สืบสาน ต่อยอด พระราชดำริแห่งในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ประเทศ
มีการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปได้

ตัวอย่างหนึ่งคือ การที่พระเจ้าอยู่หัวพระราชทานที่ดินมากมายที่เคยอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ไปเป็นสาธารณประโยชน์ และทรงยกให้หน่วยราชการจำนวนมาก โดยที่ไม่ทรงเสียดายพระราชทรัพย์แต่ประการใดเลยมีมูลค่านับหลายแสนล้านบาท ไม่ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและราชการหรือ?- ดร.อานนท์

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
10:28 น. ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 28 พฤษภาคม​ 2568
10:27 น. 'ชวน-นิพนธ์'เชิญนักลงทุนจีนเปิดโรงงานในภาคใต้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน เพิ่มรายได้ประชาชน
10:26 น. ชาวกาซานับพันแห่แย่งอาหารจากศูนย์ช่วยเหลือ ทหารต้องยิงปืนเตือน
10:22 น. 'วราวุธ'หนุนไอเดีย'ทักษิณ'ปันงบกระตุ้นศก. 1.57 แสนล้านเร่งแก้ปัญหายาเสพติด
10:17 น. “บิ๊กโอ ก้องเกียรติ”สส.คนที่ 26 พรรคกล้าธรรม รายงานตัว-ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้ว
ดูทั้งหมด
‘หมอวี’ฉายภาพระบบสาธารณสุข อีก 3 ปีพัง ‘รักษาฟรี’อาจเหลือแค่ในความทรงจำ
'อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ'ชี้ ลำดับเหตุการณ์ก็รู้ 'ใครรังแก อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์'
วงการแพทย์ทั่วโลกฮือฮา! ผลวิจัยชี้ยารักษาเบาหวาน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
(คลิป) 'แพทยสภา'หักหน้า! 'สมศักดิ์' ไม่ให้เอกสารลงโทษแพทย์ 3 ราย
‘เซเลบผ้าท้องถิ่น’จัดหนัก! ถล่ม‘อิ๊งค์’ไร้กาลเทศะ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติการทูต
ดูทั้งหมด
บาปของ‘ทักษิณ’ใน‘สงครามยาเสพติด’
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มผลักดันสันติภาพโลก ด้วยการเจรจาทางการทูต
การแจ้งเบาะแส เทคโนโลยี และการแก้คอร์รัปชัน
เพื่อนซี้ไม่มีในผู้แพ้?
ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ บทเรียนการเอายอดคนตาย เป็นผลงาน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 28 พฤษภาคม​ 2568

ชาวกาซานับพันแห่แย่งอาหารจากศูนย์ช่วยเหลือ ทหารต้องยิงปืนเตือน

'วราวุธ'หนุนไอเดีย'ทักษิณ'ปันงบกระตุ้นศก. 1.57 แสนล้านเร่งแก้ปัญหายาเสพติด

‘หมอวรงค์’ฟันธง‘สมศักดิ์’วีโต้ กังขา‘สทร.’มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือ‘แพทยสภา’

Synopsis TikTok AR Game #หรือฉันก็เป็นเอเลี่ยน

เย้ย‘โมฆะบุรุษ’! อดีตบิ๊กข่าวกรองจับไต๋แค่ใช้เวทีป.ป.ส.โชว์ตัว รอดู 13 มิ.ย.อยู่หรือไป

  • Breaking News
  • ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 28 พฤษภาคม​ 2568 ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 28 พฤษภาคม​ 2568
  • \'ชวน-นิพนธ์\'เชิญนักลงทุนจีนเปิดโรงงานในภาคใต้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน เพิ่มรายได้ประชาชน 'ชวน-นิพนธ์'เชิญนักลงทุนจีนเปิดโรงงานในภาคใต้ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน เพิ่มรายได้ประชาชน
  • ชาวกาซานับพันแห่แย่งอาหารจากศูนย์ช่วยเหลือ ทหารต้องยิงปืนเตือน ชาวกาซานับพันแห่แย่งอาหารจากศูนย์ช่วยเหลือ ทหารต้องยิงปืนเตือน
  • \'วราวุธ\'หนุนไอเดีย\'ทักษิณ\'ปันงบกระตุ้นศก. 1.57 แสนล้านเร่งแก้ปัญหายาเสพติด 'วราวุธ'หนุนไอเดีย'ทักษิณ'ปันงบกระตุ้นศก. 1.57 แสนล้านเร่งแก้ปัญหายาเสพติด
  • “บิ๊กโอ ก้องเกียรติ”สส.คนที่ 26 พรรคกล้าธรรม รายงานตัว-ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้ว “บิ๊กโอ ก้องเกียรติ”สส.คนที่ 26 พรรคกล้าธรรม รายงานตัว-ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้ว
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ  บทเรียนการเอายอดคนตาย เป็นผลงาน

ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ บทเรียนการเอายอดคนตาย เป็นผลงาน

28 พ.ค. 2568

นายกฯ ไร้ฝีมือ  ทุเรียนไทยเจอขวากหนาม

นายกฯ ไร้ฝีมือ ทุเรียนไทยเจอขวากหนาม

27 พ.ค. 2568

จะเปลี่ยนนายกฯ  หรือจะให้ประเทศชาติเน่าคามืออุ๊งอิ๊งค์

จะเปลี่ยนนายกฯ หรือจะให้ประเทศชาติเน่าคามืออุ๊งอิ๊งค์

26 พ.ค. 2568

บทเรียนนักการเมือง  เช็คบิลค่าเสียหายจำนำข้าว

บทเรียนนักการเมือง เช็คบิลค่าเสียหายจำนำข้าว

23 พ.ค. 2568

ธุรกิจกาสิโนที่ไหนจะรับว่ามีการฟอกเงิน

ธุรกิจกาสิโนที่ไหนจะรับว่ามีการฟอกเงิน

22 พ.ค. 2568

อย่าให้ประเทศชาติต้องแบกนายกฯที่ไร้บารมี

อย่าให้ประเทศชาติต้องแบกนายกฯที่ไร้บารมี

21 พ.ค. 2568

อย่าให้เศรษฐกิจย่อยยับ  คามือ ‘นายกฯ ชินวัตร’

อย่าให้เศรษฐกิจย่อยยับ คามือ ‘นายกฯ ชินวัตร’

20 พ.ค. 2568

ดินพอกหางหมูค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว  กทม.จะโยนภาระ ?

ดินพอกหางหมูค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว กทม.จะโยนภาระ ?

19 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved