วันนี้ ว่าจะเล่าเรื่องเมืองโบราณศรีเทพ ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งมีมติเห็นชอบเอกสารนำเสนอเข้าสู่บัญชีรายชื่อมรดกโลกไปหมาดๆ แต่ก็วาบนึกไปถึงสถานที่อย่างคำชะโนด อุดรธานี และไอ้ไข่ วัดเจดีย์ นครศรีธรรมราช
ฟังดูแปลกๆ แต่เพราะอะไร?
1. ปัจจุบัน ประเทศไทยมีสถานที่ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก รวม 5 แหล่ง ได้แก่ (1) นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (2)เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (3) แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (4) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ – ห้วยขาแข้ง และ (5) ป่าดงพญาเย็น –เขาใหญ่
ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีเคยเห็นชอบการเสนอสถานที่เป็นแหล่งมรดกโลกในลักษณะเดียวกัน คือ พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2556 และ 21 มกราคม 2563) ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา ครม.มีมติเห็นชอบเอกสารนำเสนอเข้าสู่บัญชีรายชื่อมรดกโลก เมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ประเทศไทย โดยประธานกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก(พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) จะลงนามในเอกสารนำเสนอเมืองโบราณศรีเทพเข้าสู่บัญชีรายชื่อมรดกโลกต่อศูนย์มรดกโลก กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ต่อไป
2. เมืองโบราณศรีเทพที่เสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลก ครอบคลุม 3 แหล่ง ได้แก่ เมืองโบราณศรีเทพ (เมืองในและเมืองนอก) โบราณสถานเขาคลังนอก และโบราณสถานถ้ำเขาถมอรัตน์
พื้นที่แหล่งวัฒนธรรมรวมประมาณ 8.66 ตารางกิโลเมตร และมีพื้นที่กันชนอีกประมาณ 48.71 ตารางกิโลเมตร
เขตเมืองใน มีโบราณสถานกว่า 50 แห่ง กลุ่มโบราณสถานที่สำคัญ เช่น โบราณสถานเขาคลังนอก โบราณสถานปรางค์ฤๅษี กลุ่มโบราณสถานคลังแก้ว และสระแก้ว สระน้ำโบราณขนาดใหญ่
นอกเมืองโบราณศรีเทพ ห่างไปประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของ “เขาถมอรัตน์” ภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ที่มีรูปลักษณ์เฉพาะใช้เป็นจุดสังเกตในการเดินทางที่สำคัญในยุคก่อนประวัติศาสตร์
คุณค่าความโดดเด่น ได้แก่ (1) เมืองโบราณศรีเทพมีรูปแบบผังเมืองที่มีคูน้ำคันดินล้อมรอบ โดยผังเมืองขยายเป็น 2 ชั้นซ้อนกัน เรียกว่า เมืองในและเมืองนอก (2) ศาสนสถานเขาคลังนอกที่แสดงถึงความเป็นมณฑลจักรวาลที่หลงเหลือหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์ (3) ศาสนสถานถ้ำถมอรัตน์ที่มีความสำคัญของศาสนสถานประเภทถ้ำ (4) ประติมากรรม “สกุลช่างศรีเทพ” ที่มีความโดดเด่นและแตกต่างจากประติมากรรมในยุคสมัยเดียวกัน โดยเป็นประติมากรรมสลักลอยตัว เอียงตน และมีลักษณะสีหน้าผสมผสาน
เมืองโบราณศรีเทพ มีอายุอยู่ราวพุทธศตวรรษที่ 12 – 16 เป็นเมืองโบราณที่มีความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในวัฒนธรรมทวารวดี เป็นเมืองที่มีการติดต่อรับคติความเชื่อทางศาสนา ทั้งพุทธศาสนาแบบเถรวาท มหายาน และศาสนาฮินดู ที่ปรากฏหลักฐานทั้งทางด้านสถาปัตยกรรมและประติมากรรมต่าง ๆ เช่น ศาสนสถานเขาคลังนอก ศาสนสถานถ้ำเขาถมอรัตน์ มีความโดดเด่นเป็นประจักษ์ หาที่เสมือนไม่ได้
3. ตัดภาพไปที่คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี และไอ้ไข่วัดเจดีย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทั้งสองแห่งต่างก็มีคุณค่าและมีเสน่ห์ในตัวเอง
ทั้งสองแห่งโด่งดังเป็นที่รู้จักวงกว้าง
ทั้งสองแห่งเป็นที่หวงแหนของชาวบ้าน ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปเยือน ไปกราบไหว้ขอโชคลาภ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในรูปเม็ดเงินในพื้นที่จำนวนมาก
ทั้งสองแห่งไม่ได้เป็นอุทยาน ไม่ได้เป็นมรดกโลก แต่โด่งดังไม่แพ้มรดกโลกในเมืองไทย และโด่งดังกว่าเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์แน่ๆ
4. เมืองโบราณศรีเทพ ปีที่แล้ว มีประเด็นวิตกกังวลเรื่องผลกระทบจากโครงการสำรวจปิโตรเลียม ทำให้ชาวเพชรบูรณ์และนักโบราณคดีออกมาคัดค้าน ร่วมกับการรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์ กระทั่งโครงการถูกชะลอไปก่อน หวุดหวิด จวนเจียน
ทำอย่างไรสังคมในวงกว้างจะได้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของเมืองโบราณศรีเทพมากขึ้นกว่านี้?
ถ้าให้โด่งดัง เป็นที่รู้จักไม่น้อยไปกว่าคำชะโนด และไอ้ไข่ วัดเจดีย์ได้ ก็ยิ่งดี
โดยต้องไม่ทำเหมือนสองแห่งนั้น
5. ประการหนึ่งที่ผู้เกี่ยวข้องพึงพิจารณา คือ การนำเสนอเรื่องราวของสถานที่ให้ร้อยรัดเข้ากับชีวิตปัจจุบันของผู้คนให้ได้อย่างไร มิติไหน?
คำชะโนดกับไอ้ไข่ วัดเจดีย์ เขาเน้นเรื่องโชคลาภ นั่นเป็นจุดขายของเขา
แต่เมืองโบราณศรีเทพ นอกจากคุณค่าแห่งเมืองโบราณแล้วจะมีเรื่องราว (story) จุดขายโดดเด่น โดนใจ จุดประกายความสนใจของผู้คนในสังคมยุคปัจจุบันได้อย่างไร? จะมีการออกแบบกิจกรรมที่ขับเน้นคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโบราณแห่งสถานที่นั้นอย่างไร?
การสร้างจุดขาย ไม่ได้หมายความว่าเมืองโบราณศรีเทพไม่มีคุณค่าจนต้องมาสร้างจุดขาย
แต่หากมีจุดขายที่ดึงดูดพอ ก็จะทำให้งานอนุรักษ์และสืบสานดำเนินการไปได้อย่างยั่งยืน และแผ่ความรู้ออกไปสู่สังคมในวงกว้างได้มากขึ้น
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี