นายปิยบุตร แสงกนกกุล โพสต์เฟซบุ๊ค ว่าด้วยเครื่องราชอิสริยาภรณ์
วาดภาพว่าตัวเองไม่ชอบ ไม่สบายใจ เกี่ยวกับเครื่องราชฯ และบางส่วนพยายาม “ด้อยค่า” เครื่องราชฯ
ถึงขนาดหยิบวาทะฝรั่งมาตีตราด้อยค่าความรู้สึกของคนไทยที่ภูมิใจกับการได้รับเครื่องราชฯ
“...Pierre Bourdieu เคยกล่าวไว้ที่ไหนสักแห่งว่า ระบบการมอบรางวัล เหรียญตรา เกียรติยศ คือ เครื่องมือแห่งการครอบงำ ไม่เพียงแต่ช่วยแบ่งแยกคนออกเป็นพวกเป็นประเภทเท่านั้น แต่ยังช่วยล้อมกรอบให้คนอยู่ในโอวาทด้วย...”
1. เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นเครื่องหมายแสดงเกียรติยศและบำเหน็จความชอบ ที่พระมหากษัตริย์พระราชทานเป็นบำเหน็จความชอบ ความดีความงาม ในราชการ งานประเทศชาติส่วนรวม หรือส่วนพระองค์
เพื่อส่งเสริมเกียรติของบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นต่อส่วนรวม
มิใช่เป็นเครื่องหมายแบ่งแยกชนชั้น
ในสมัย ร.5 ทรงพระกรุณาให้เรียกเครื่องประดับสำหรับยศว่า เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นครั้งแรกและทรงพระกรุณาให้มีสายสะพายประกอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ตลอดจนให้มีประกาศนียบัตรกำกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ยกเว้นบางชั้นตราและบางชนิดที่ไม่มีประกาศนียบัตรกำกับเครื่องราชฯ แต่ก็จะต้องลงประกาศนามผู้ได้รับพระราชทานในราชกิจจานุเบกษา
2.นายปิยบุตรคงเป็นผู้วิเศษกว่าใครอื่น ไม่ถูกครอบงำด้วยความคิดใดเลย แม้แต่ความคิดของนักคิดปฏิวัติฝรั่งเศสที่ ตนอมขี้ปากมาพ่นทับประวัติศาสตร์ไทยอยู่เสมอ ก็ไม่ใช่เพราะถูกครอบงำความคิด หรือถูกสนตะพายความคิด ดอกกระมัง
ยิ่งกว่านั้น ในวันที่นายปิยบุตรและพวกแต่งชุดขาว ประดับเครื่องราชฯ ทุกคนก็มีสีหน้าสุขสม โก้หรู ไม่เห็นจะรู้สึกอึดอัดอะไรเลย
3.คนที่หมิ่นแคลนสิ่งที่ผู้อื่นภาคภูมิใจ ไม่ใช่ผู้กล้า ไม่ใช่ว่าจะดีเด่กว่าคนอื่น
แต่เป็นบุคคลประเภทไหน ท่านผู้อ่านลองคิดดู
4.ตัวอย่างความรู้สึกของผู้เคยเข้าเฝ้าฯรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย
ในฐานะข้าราชการครูธรรมดาคนหนึ่ง
“..บันทึกเมื่อวันจันทร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๑.๑๙ น.
เมื่อวันวิสาขบูชา วันศุกร์ที่ ๒๔ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ผมได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี แทนพระองค์ รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ ๑ ประถมาภรณ์มงกุฎไทย นับเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย สายแรกในชีวิต และไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตนี้จะมีโอกาสได้รับ จึงรู้สึกภาคภูมิใจเป็นที่ยิ่งและตั้งใจว่าจะตั้งใจปฏิบัติราชการด้วยความสุจริตไปจนกว่าจะครบเกษียณ และเมื่อพ้นจากราชการแล้วก็จะทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีไปจนกว่าจะสิ้นอายุ สนองพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานเกียรติยศให้กับข้าราชการคนหนึ่ง
ในโอกาสนี้ได้นำเอาความรู้เล็กๆ น้อยๆ เป็นประสบการณ์ บันทึกเล่าเรื่องแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในประเทศไทยโดยส่วนตัวเข้าใจว่ามีเพื่อนข้าราชการอื่นมีความรู้และอยากถ่ายทอดเป็นประสบการณ์ให้รุ่นหลังๆ ใคร่รู้ใคร่ทราบเช่นกัน….”
คุณครูท่านนี้ เล่าละเอียดอีกยาว
คุณครูท่านนี้ มีชีวิตที่ด้อยค่ากว่านายปิยบุตร หรือไม่?
พ่อของนายปิยบุตร เคยสั่งสอนนายปิยบุตรมาอย่างไรบ้าง?
5.สส.พรรคก้าวไกลหลายสิบคน มีชื่อโผล่ได้รับเครื่องราชฯ
นั่นหมายความว่า คนเหล่านี้ จะต้องลงชื่อเป็นผู้ขอรับพระราชทานเครื่องราชฯ
ขณะเดียวกัน คนเหล่านี้ สนับสนุนคณะบุคคลที่จ้องบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือ และโจมตีพระมหากษัตริย์ไทยอย่างต่อเนื่อง
สส.บางคน คอยเป็นปากเป็นเสียง คอยสนับสนุนแกนนำม็อบที่มุ่งด่าในหลวงด้วยถ้อยคำหยาบคาย รุนแรง และหลายต่อหลายเรื่องเป็นการเอาความเท็จมาสาดใส่สถาบันพระมหากษัตริย์
ถามว่า สส.เหล่านี้ ขี้ขลาดที่จะขัดขวาง ขัดขืน หรือตอบโต้แนวคิดของนายปิยบุตร หรือว่าหน้าด้านที่มีแนวคิดเหมือนนายปิยบุตร แต่ก็ยังอยากได้เครื่องราชฯ มาประดับเป็นเกียรติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี