มีคำพังเพยเขียนเอาไว้ว่า “สีซอให้ควายฟัง ซึ่งหมายความถึง การพูดสอนให้ผู้ที่มีความรู้น้อยได้ฟัง แต่ผู้ฟังไม่ใส่ใจที่จะฟัง หรือฟังแต่ก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้ ทำให้ผู้ที่สั่งสอนให้ความรู้นั้นเสียเวล่ำเวลา”
แต่วันนี้ที่จะบอกเล่า เราเห็นว่าท่านและคณะเป็นผู้รู้เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาพื้นที่ในทุกภูมิภาคของประเทศรุ่งเรืองเติบโต พัฒนาความเจริญสร้างความสุขให้ประชาชนในพื้นที่อยู่ดีมีสุข ตามที่เคยประกาศไว้กว่า 5-6 ปีที่ผ่านมา
แม้เวลา 5-6 ปี ที่ผ่านมา นั้นท่านและคณะจักทำให้ประเทศเกิดความสงบสุข ชิงก่อรัฐประหารก่อนสงครามกลางเมืองจะบานปลาย ด้วยเหตุแห่งความแตกแยกในสังคมไทยจากระบอบทักษิณ จนผ่านความเห็นชอบจากประชาชนเลือกเข้ามาให้เป็นผู้นำรัฐบาลบริหารประเทศต่อเนื่องจากรัฐบาลเผด็จการทหาร
เราเคยบอกหลายครั้งหลายหนว่ามีหลายโครงการที่ประชาชนแสดงความคิดเห็นต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อความเจริญในพื้นที่ แต่“เรือแป๊ะ” ลำนี้กลับเมินเฉย ยกสารพัดข้ออ้างที่จะไม่ดำเนินการตามความต้องการของประชาชนราวกับบุคลากรที่ไร้สมรรถนะสมรรถภาพในการบริหารจัดการ
ล่าสุด ดูเหมือนญัตติที่พรรคฝ่ายค้านยื่นตามมาตรา 151 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้เหนือความคาดหมายนัก
ตัวอย่างการขาดความสามารถในการบริหารงานและการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลอย่างกรณี “โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา หรือ “เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต” โครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ทั้งนี้ โดยให้นำบทบัญญัติตามความในมาตรา 10 และ มาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2553 และที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดต่อการบริหารจัดการการทำงานที่หวังผลเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบเวลาและแนวทางการทำงานที่ชัดเจนและเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่มีเป้าหมายการทำงาน
ทว่า การทำงานการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลกลับย้อนแย้งกันเอง ทำให้โครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติไม่มีความคืบหน้า รัฐบาลทราบหรือไม่ “โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ”จะก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศและการว่าจ้างแรงงานและความสงบสุขของประชาชนก็จะเกิดขึ้นตามมาด้วยเกิดการชะงักงัน
เริ่มจากเกิดการคัดค้านโครงการจากประชาชนนอกพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ที่ถูกอุปโลกน์ให้เป็นตัวแทนประชาชนส่วนใหญ่เจ้าของพื้นที่รวมทั้งการอ้างเรื่องความต้องการไฟฟ้าไม่เป็นไปตามโครงการน่าจะเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศชาติมากกว่า ยิ่งกระทรวงพลังงานโดย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการครม.ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาทบทวนมติเมื่อวันที่ 7พฤษภาคม 2562 ยิ่งทำให้เห็นประจักษ์ถึงความเป็นเอกภาพของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลของประชาชน
ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประชาชนเขาอยากให้โครงการนี้เกิดโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ประเทศชาติในหลายมิติ
อย่าประพฤติตนเยี่ยงควายนั่งหายใจทิ้งฟังสังคมเสียงสีซออยู่เยี่ยงนั้นเลย
ผลประโยชน์ของประเทศชาติไม่ควรรอเวลาดำเนินการ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี