เราต้องเริ่มต้น ด้วยการหาสัจจะ จากความเป็นจริง
๑.ปัญหาความยาก ที่จะออกจากวิกฤติ ไป สู่ประชาธิปไตย
อยู่ตรงไหนบ้าง ?
(๑)เราขาดผู้นำรัฐบุรุษ ที่จะกล้าฟันฝ่า ด้วยการยอมเสียสละ และสู้ด้วยชีวิต เพื่ออนาคต
(๒)ระบบโครงสร้างของสังคมและการเมือง แก้ด้วยระบบการเลือกตั้งที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม ไม่ได้
(๓)คุณภาพของ สถาบัน องค์กร ผู้นำและประชาชนในสังคมไทย อ่อนแอ
(๔)อีกปัจจัยใหญ่ ที่ไม่ค่อยมีใครนำเสนอ หรือ กล่าวถึง คือ แม้ว่าประเทศจะมีความเหลื่อมล้ำ มีวิกฤติ แต่วิกฤติของประเทศไทย ไม่ได้แย่สุดๆ จนอยู่กันไม่ได้จาก สภาพของสังคมไทย โดยรวมในทุกด้าน ทั้งข้อดี และข้ออ่อนโดยเฉพาะศักยภาพของสถาบันและประชาชนที่หลากหลาย โดยเฉพาะความมีน้ำใจ มิตรไมตรี ฯลฯ ทรัพยากรธรรมชาติ แผ่นดิน ป่าไม้ แม่น้ำ ขุนเขา พื้นที่ที่เหมาะสมกับการเกษตร การผลิตอาหารฯและทำเลที่ตั้งของประเทศ ที่เป็นศูนย์กลางของทวีปและของโลกโดยเฉพาะ การปรับตัวของสถาบันหลักต่างๆ ที่ไม่ไปสุดโต่ง ด้านใดด้านหนึ่ง…..ประเทศไทย และประชาชนไทย ยังอยู่กันได้ความจริงที่กล่าวมาข้างต้นเป็นข้อดีแต่อีกด้านหนึ่ง กลับกลายเป็นจุดอ่อน ในการนำไปสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงเพราะประเทศที่จะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ มักจะมีปัญหาวิกฤติ ที่ไม่ปรับไม่เปลี่ยน จะอยู่กันไม่ได้
๒.โอกาส การเปลี่ยนแปลงไปสู่ ประชาธิปไตย โดย สถาบันหลักต่างๆ
บทบาทของสถาบันหลักที่สำคัญ มี ๒ ประการ
หนึ่ง. การนำ หรือ เป็นผู้นำพา ไปสู่ ประชาธิปไตย ตามบทบาทหน้าที่ โดยตรง คือ รัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสมาชิก และสถาบันตุลาการ และหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรง คือ กกต. และ ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งอาจจะมาจากการเลือกตั้ง หรือ แต่งตั้งฯ หากมาจากการเลือกตั้ง ก็คือ พรรคการเมือง หรือ นักการเมืองในท้องถิ่น
สอง. ส่วนที่เป็นประมุข ผู้นำของรัฐ ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายศาสนา มีหน้าที่ สนับสนุน ส่งเสริม และเอื้อประโยชน์ ให้เกิดความรักสามัคคี การปรองดอง และความผาสุกของประชาชน ต้องมีการปฏิวัติ หรือ ปฏิรูปใหญ่
บทบาทของสถาบันหลักฯ ที่ควรมีควรเป็น
ควรจะมีการปฏิรูป การรักษาปกป้อง และพัฒนาประชาธิปไตย ตามสภาพที่เป็นจริงของสังคมไทย
(๑)สถาบันพระมหากษัตริย์ การใช้ ฐานะบทบาทหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ในการส่งเสริม การไปสู่ประชาธิปไตย ผ่าน หน่วยงานและสถาบันฯต่างๆ ทั้งทางตรง และทางอ้อม ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ ได้ทรงทำหน้าที่นี้
(๒) สถาบันกองทัพ สามารถทำหน้าที่ ในการส่งเสริมสนับสนุน การไปสู่ประชาธิปไตยได้ โดย การปรับและพัฒนา ให้ “กองทัพเป็นประชาธิปไตย” เป็นกองทัพของประชาชน ทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติและที่สำคัญ ในยุคที่บ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย สิ่งที่กองทัพต้องคิดและทำคือ การปฏิบัติ หรือการรับคำสั่ง จาก “รัฐบาล ในเรื่องดีงามและถูกต้องต้องจำแนก รัฐบาลที่ดี มีธรรมาธิบาล และรัฐบาลที่
คอร์รัปชั่นโกงกิน แทรกแซงข้าราชการ
(๓)สถาบันข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และ กระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ อัยการศาล) ต้องมีจิตใจประชาธิปไตย ทำงานรับใช้ประชาชนและประเทศชาติ อย่างสุจริตเที่ยงธรรมต้องมีความเป็นอิสระ ในการแต่งตั้งโยกย้าย “ผู้คน” ในหน่วยงานของตนส่วนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในระดับสูง ต้องมีกฎกติกา ควบคุมโดยเฉพาะ “รายได้ที่สุจริต”
(๔)ฝ่ายการเมือง ต้องมีการปฏิรูปใหญ่ ในเรื่องหลักสำคัญพรรค นักการเมือง ต้องมีกฎกติกาที่เป็นประชาธิปไตยและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง ในการเข้าสู่อำนาจรัฐ ต้องสุจริต ไม่ซื้อขายเสียงฯโดยต้องมีการปฏิรูปใหญ่ด้านกฎหมาย ที่เข้มงวด เอาจริง ทั้งการใช้เงิน และการซื้อเสียง และการใช้อำนาจรัฐ ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญไม่โกงกิน ไม่แทรกแซงข้าราชการ รวมทั้งการถูกตรวจสอบอำนาจรัฐ
(๕)ฝ่ายเศรษฐกิจ ต้องเน้นการมีธรรมาภิบาลแต่ก็ต้องทำหน้าที่ หารายได้เข้าประเทศ และการส่งเสริมสนับสนุนการทำงานของประชาชน รวมทั้งการพัฒนา ความเจริญ และมั่งคั่งของประเทศและประชาชน ควบคู่กันไป ต้องตรวจสอบ“การเข้ามาแทรกแซงเศรษฐกิจความมั่นคงของประเทศจากอิทธิพลต่างชาติ
(๖)สภาพัฒน์ และมหาวิทยาลัย สถาบันทางด้านวิชาการของประเทศ ต้องเน้น งานด้านการพัฒนา ความรู้ ความคิดและการใช้เทคโนโลยี ดิจิทัล ฯลฯ ต่างๆ แนวทางการพัฒนาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง รายได้ และความสุข
ของประชาชน
(๗)สื่อ หน่วยงานด้านการสื่อสาร หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์ต่างๆ ต้องมีจรรยาบรรณ ทำหน้าที่ทั้งการเป็นสื่อสาร การให้ความรู้ความคิด และสิ่งที่ถูกต้องต้องมีการตรวจสอบดูแล และควบคุม มิให้ไปสมคบร่วมมือกับนักการเมือง กลุ่มทุนฯและต่างประเทศ ที่มีเจตนาไม่ดี หรือ การเข้าแทรกแซงประเทศไทย ตามอคติของเขา
(๘)สถาบันศาสนา วัด โบสถ์ มัสยิด ฯลฯ ต้อง เป็นองค์กรทางศาสนา ที่สอนหลักธรรมที่ถูกต้องของศาสดา แก่ประชาชนทำให้ประชาชนเป็นคนดี รักสามัคคี และใฝ่ความรู้ เทิิดทูนคุณธรรมที่ถูกต้อง ดีงามเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ควรอย่างยิ่งที่จะต้องมีการปฏิรูปวงการสงฆ์ครั้งใหญ่ให้ ผู้นำสงฆ์ นำพาให้ พระ (ชี) ได้ทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณที่ถูกต้องแก่ชาวบ้าน
(๙) องค์กรภาคประชาชน ต้องมีการปฏิรูปใหญ่ต้องเป็นองค์กรที่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศอย่างแท้จริง องค์กรภาคประชาชนไทย อ่อนแอ และมีกำลังน้อยกว่า สถาบันอื่นๆ แต่ไม่เคยปรับตัวเอง มัวแต่หลง และกล่าวอ้างยกตัวเองมาตลอด แต่ความจริง ไม่มีน้ำยา
(๑๐)ประชาชน โดยเฉพาะส่วนที่เป็นผู้นำ ที่เป็นพลเมือง (Active Citizen)ต้องพัฒนาความคิดของตน และสร้างกลุ่มพลังประชาชน ที่มีความพร้อม ในการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่การทำหน้าที่ของพลเมือง อย่างถูกต้องชอบธรรม การตรวจสอบ สถาบันต่างๆ โดยเฉพาะ “ การเมือง ข้าราชการ และกลุ่มทุนอิทธิพล”และการทำหน้าที่ รักษาปกป้องแผ่นดินไทย ในยามขับขัน วิกฤติ
lสิ่งที่ประชาชนผู้มีอุดมคติ ควรทำ What is to be done?
๑.พัฒนาตนเอง ให้เป็นผู้รู้ และทำเพื่อบ้านเมือง ด้วยสติปัญญาความจริง
๒.เสริมสร้างพัฒนา ให้เกิดการร่วมกลุ่ม เป็นองค์กรภาคประชาชน ที่แท้จริง
๓.การสนับสนุน ผู้นำ รัฐบาล รัฐสภาฯ ในสิ่งที่ดีงามถูกต้อง เป็นประโยชน์แก่ประชาชนและบ้านเมือง
๔.การตรวจสอบ ควบคุม สถาบัน หน่วยงาน ที่มีการกระทำมิชอบต่อบ้านเมือง
(๑)การตรวจสอบ นักการเมือง (และข้าราชการ รวมทั้งกลุ่มทุน) ที่ประพฤติมิชอบ
(๒) นำเสนอมาตรการ มิให้มีการรวมตัวของ “นักการเมืองข้าราชการ กลุ่มทุนที่มิชอบ”
(๓) หากทำได้จริง จะทำให้พลังของ “๓ อักษะแห่งความชั่วร้าย” ไม่สามารถครอบงำสังคมได้
๕.การรวมตัวใหญ่ของผู้มีอุดมคติ : ในการแสวงหาแนวทาง นโยบาย ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี จังหวะก้าวขั้นตอน : ตามสภาพและลักษณะที่เป็นจริงของสังคมไทย คือ นำมาใช้ได้จริง
๖.ต้องมีการดำเนินการ ตามสภาพที่เป็นจริง
(๑)ในช่วงรอคอย การเปลี่ยนผ่าน ต้องทำหน้าที่ตามที่กล่าวมาข้างต้น
(๒)ในภาวะของการเปลี่ยนผ่าน ที่มีเงื่อนไขและปัจจัยที่พร้อมต้องเข้าร่วม การต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้ประสบความสำเร็จทำได้เช่นนี้ เราก็จะนอนตายตาหลับ แต่หากยังทำไม่ได้ในยุคของเรา ก็ต้องส่งไม้ต่อ ให้ลูกหลานและเยาวชนที่มีอุดมคติเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง สู้ต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี