มีเรื่องน่าขบขันเกิดขึ้นในสังคมไทยในระยะนี้คือ มีม็อบที่จงใจสร้างความโกลาหล ความเสียหาย และความรุนแรงให้เกิดกับสังคม แต่กลับอ้างว่าเป็นม็อบที่ไม่มีแกนนำ เมื่อม็อบไร้แกนนำ ตำรวจก็จึงอ้างไปเรื่อยเปื่อยว่า ไม่ทราบจะจับแกนนำม็อบได้อย่างไร เพราะม็อบไม่มีแกนนำ 

การชุมนุมประท้วงใดๆ บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และความรุนแรงทุกชนิด หรือการชุมนุมของฝูงชนผู้บ้าคลั่งจนกลายเป็นม็อบ ล้วนแล้วแต่เกิดมาจากเหตุปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง จนทำให้มีผู้คนจำนวนมากไปรวมตัวกันเพื่อแสดงออกซึ่งความต้องการทางการเมือง (แต่ในที่นี้จะไม่พูดถึงม็อบจัดตั้งหรือม็อบรับจ้าง) 

ถามจริงๆ เถอะ คุณเชื่อหรือว่าการชุมนุมทางการเมืองใดๆ ก็ตาม ไม่มีแกนนำผู้ชุมนุม หรือแกนนำผู้ประท้วงคุณเชื่อจริงๆ หรือว่าการที่ผู้คนจำนวนมากตั้งใจไปรวมตัวเพื่อแสดงปฏิกิริยาทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่ง เกิดมาจากการตัดสินใจโดยลำพังของคนทุกคน แล้วคุณเชื่อหรือว่าการที่คนจำนวนมากออกไปอยู่บนท้องถนน หรือตามสถานที่ใดๆ ก็ตาม เช่น ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ค่ายทหาร หน้าเรือนจำ หรือหน่วยหน่วยราชการใดๆ ดังปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น เกิดมาจากการตัดสินใจไปร่วมชุมนุมเอง โดยปราศจากการชักจูง โน้มน้าว หรือการได้รับข้อความปลุกเร้าใดๆ  

ขออภัยจริงๆ ที่ต้องบอกตรงๆ ว่า คนมีสติไม่มีวันเชื่อว่าการชุมนุมทางการเมืองใดๆ จะปราศจากแกนนำ หรือหัวหน้าขบวนการ คุณลองถามตัวเองก็ได้ว่า หากคุณคือคนคนหนึ่งที่เคยเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงทางการเมืองคุณตัดสินใจไปร่วมชุมนุมโดยไม่มีแรงจูงใจ โดยปราศจากการชักจูงจริงหรือ หรือคุณยังจะคงตอบแบบน่าขบขันว่า ฉันตัดสินใจไปชุมนุมทางการเมืองทั้งๆ ที่ฉันเองก็ไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำไปว่าในการชุมนุมนั้นๆ มีข้อเรียกร้องใดบ้าง และไม่รู้แม้กระทั่งใครเป็นแกนนำการชุมนุม 

น่าประหลาดที่คนไทยจำนวนหนึ่งในยุคนี้กล้าโกหกกันด้วยความเท็จ อย่างชนิดที่ไม่สามารถหาความจริงได้แม้แต่น้อย แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่าก็คือ ผู้มีอำนาจรัฐในยุคนี้ไม่สามารถหาข่าวลึกๆ จนทำให้รับรู้ได้ว่าใครคือแกนนำการชุมนุม หรือไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมคือใคร ไม่สามารถรู้ได้แม้กระทั่งเส้นทางการเงินที่มีผู้ให้เพื่อสนับสนุนการชุมนุมประท้วง (หรือจริงๆ แล้วผู้มีอำนาจรัฐก็รู้ดี แต่แสร้งทำเป็นไม่รู้ เพราะต้องการให้เกิดการชุมนุมประท้วง จนนำไปสู่ความวุ่นวายโกลาหล บาดเจ็บล้มตาย เพื่อรัฐบาลจะได้ฉวยโอกาสดำเนินการทางการเมืองตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้แล้ว)  

ทุกวันนี้ หากคุณผู้อ่านมีเวลาติดตามดูการปลุกเร้าปลุกระดมด้วยกลอุบายต่างๆ เพื่อหวังให้เกิดการชุมนุมประท้วงทางการเมือง โดยเผยแพร่ข้อความ และความคิดเชิงปลุกระดม รวมถึงการนัดแนะวันเวลาสถานที่ของการชุมนุม ที่แพร่กระจายอยู่ใน Social Media สารพัดชนิด เช่น Twitter,Facebook คุณก็คงทราบได้โดยพลันว่ามีผู้ชักชวนและปลุกเร้าให้ผู้คนออกไปรวมตัวเพื่อชุมนุมประท้วง แต่สิ่งที่ลึกกว่านั้นคือ การชุมนุมประท้วงทางการเมืองทุกครั้งต้องมีผู้จัดการเรื่องสถานที่ และเรื่องเป้าหมายของการชุมนุม แต่หากจะเอากันให้ลึกจริงๆ ก็ต้องดูถึงการแจกจ่ายสิ่งของต่างๆ ในระหว่างการชุมนุมด้วย สิ่งเหล่านี้สามารถบ่งชี้ได้ว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมในระดับใด  

มีผู้แย้งว่าผู้คนไปรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหรือที่หน้าค่ายทหารแห่งใดๆ เกิดมาจากการรับรู้ข้อมูลผ่าน SocialMedia แต่ไม่ปรากฏว่าใครคือแกนนำการชุมนุม จึงเป็นการอ้างที่ดูเสมือนไร้ปัญญา ขอถามทิ้งท้ายว่า รัฐบาลเชื่อจริงๆ หรือว่าการชุมนุมประท้วงทางการเมืองทุกครั้งในยุคนี้ เป็นการชุมนุมที่ไม่มีแกนนำ ไม่มีผู้ชักใย ไม่มีผู้สนับสนุน ขอถามอีกทีว่ารัฐบาลแกล้งเชื่อ เพราะมีแผนการอะไรบางอย่างอยู่ในใจ ใช่หรือไม่