เมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนผมเคยแปลหนังสือเรื่อง A Man ของ ออเรียน่า ฟาลาชี่ ใช้ชื่อภาษาไทยว่า “กรงเล็บปีศาจ” ออเรียน่า เป็นผู้สื่อข่าวสตรีชาวอิตาลีที่ติดตามทำข่าวการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ “อาเลีย คอซ” นักต่อต้านรัฐบาลเผด็จการของ “นายพลปาปา ดูโปลอส” ในประเทศกรีซ
“อาเลีย คอซ” นักต่อต้านเผด็จการนำมวลชนผู้ใช้แรงงานท่าเรือและมวลชนทั่วไปออกมาต่อต้าน “ปาปาดูโปลอส” อย่างเร่าร้อนรุนแรงจนติดคุกติดตะรางนานหลายปี กระทั่ง “ปาปา ดูโปลอส” หมดอำนาจไปและมีรัฐบาลใหม่จากเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ในระหว่างที่ “อาเลีย คอซ”อยู่ในคุกถูกขังเดี่ยว ด้วยความที่ติดคุกนานไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่ได้รับข่าวสารจากโลกภายนอก เมื่อออกจากคุกก็คิดว่าผู้คนยังศรัทธาคลั่งไคล้ในตัวเขา “อาเลีย คอซ” เริ่มต่อต้านรัฐบาลที่มาจากเลือกตั้ง
แต่ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะการประท้วงในรอบใหม่ จากมวลชนที่เคยคลั่งไคล้กลับไม่ได้ความสนใจและสนับสนุนจากมวลชน ซึ่ง“ออเรียน่า”บรรยายด้วยอารมณ์รักและสงสารเขาว่า วณิพกที่ร้องเพลงเปิดหมวกขอทานยังได้รับความสนใจมากกว่าอดีตวีรบุรุษยิ่งใหญ่ผู้ฝังใจอยู่กับความรุ่งโรจน์ในอดีต
ชะตากรรมของ “อาเลีย คอซ” จบลงด้วยโศกนาฏกรรมอย่างไรคงไม่ต้องบรรยายยืดยาว แต่เอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะเห็นว่านักการเมืองไทยใช้ฤกษ์ 4/4/4 คือ วันที่ 4 เดือน เม.ย. ปี’64 มาประท้วงขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่เลียนแบบพม่าในการใช้ฤกษ์ผานาที โดยพม่าใช้ 2/2/2 คือวัน 12 ก.พ. ปี 2012 เป็นฤกษ์ยามในการหยุดงานทั่วประเทศเพื่อต่อต้านการยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 (พม่าใช้ค.ศ. ของเราใช้ พ.ศ.)
นักกิจกรรมการเมืองคงไม่สำเนียก ว่าเลขตองเป็นอาถรรพ์เป็นฤกษ์อุบาทว์ พม่าเคยใช้ตัวเลข 888 ประท้วงใหญ่ปรากฏว่าฉิบหายฆ่ากันตายหลายพันคน คราวนี้ใช้ฤกษ์ 222 ประท้วงใหญ่ทั่วประเทศได้ข่าวว่าตั้งแต่เริ่มประท้วงเป็นต้นมาฆ่ากันตาย 500 กว่าศพแล้ว
ดังนั้นวันที่ 4 เดือน 4 ปี’64 เป็นฤกษ์ไม่ดีที่นักการเมืองไทยผู้หลงใหลอยู่กับความยิ่งใหญ่ในอดีตใช้เป็นฤกษ์ไล่ “ลุงตู่” ถือว่าเป็นยามร้ายเหมือนกับที่พราหมณ์กำมะลอเคยแนะนำให้ใช้เลือดราดประตูทำเนียบฯ เอาเลือดราดหน้าบ้านนายอภิสิทธิ์ แล้วจบลงอย่างไร? ยังพล่ามหากินกับคนตายอยู่จนวันนี้
ที่ใช้คำว่าแกนนำชราผู้หลงใหลอยู่กับความยิ่งใหญ่ในอดีตก็เพราะอย่างน้อยผู้จัดชุมนุมเคยได้ชื่อว่า“เป็นประธาน
แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.” ที่ยโสโอหังเคยสั่งให้ทหารลอดหว่างขามาแล้ว
อดีตประธาน นปช. ที่ทึกทักเอาว่าผู้นำกัมพูชายังมาเป็นสหาย ที่ผยองพองขนว่าแม้แต่ทูตสหรัฐอเมริกายังมานั่งหลังเวที นปช.
#แต่ประธานคนแรกของ นปช. ผู้ย่างเข้าวัยชราเล็งเห็นว่า นปช. ในปี 2552-53 ห้าวบ้าบิ่นเกินธงเลยกระโดดลงจากขบวนระหว่างทาง#
เป็นช่องว่างให้ท่านเลขาฯได้ขึ้นเป็นประธาน และในห้วงเวลาสองปีกว่าที่ นปช. ต่อต้านรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ด้วยความโหดร้ายรุนแรงสร้างชิงชังให้กับประชาชน เพราะคนในประเทศไทยเห็นว่า#รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เป็นประชาธิปไตยไม่ได้เป็นเผด็จการตรงไหน นอกจากนั้นยังไม่เคยมีประวัติโกงชาติปล้นแผ่นดิน
ความจริงแล้วผู้ริเริ่มขบวนการเสื้อแดงคนแรกคือนายเนวิน ชิดชอบ และนายเนวินก็เป็นคนแรกที่นายใหญ่ไว้วางใจในการจัดตั้งมวลชน แต่ภายหลังนายเนวินสำนึกได้ว่าเสื้อแดงกับนายใหญ่ไปไกลเกินธง
นายเนวิน เลยแยกตัวออกจากการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนที่มีนายใหญ่คนแดนไกลเป็นเจ้าของ แล้วมาร่วมมือ
กับนายอภิสิทธิ์ จัดตั้งรัฐบาลตามกระบวนการประชาธิปไตย ตามที่พรรคพลังประชาชนทำก่อนหน้า จึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลนายอภิสิทธ์ิเป็นเผด็จการตอนไหนแล้วทำไม นปช. ถึงต่อต้าน
ดังนั้นจึงไม่มีความชอบธรรมที่เสื้อแดงจะใช้คำว่าแนวร่วมประชาธิปต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ความจริง นปช. น่าจะย่อมาจากคำว่า #“นรกป่วนชาติ”# เพราะ นปช. ไม่ได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแต่ #นปช. ต่อสู้เพื่อคนปล้นชาติอาฆาตพยาบาทสถาบัน#
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราฉันใด” นรกป่วนชาติ” ก็ฉันนั้น เมื่อรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์หมดอำนาจเพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมืองมีคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฐานความผิดปฏิบัติหน้าโดยมิชอบ ในกรณีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ให้พ้นจากหน้าที่เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ขบวนการนรกป่วนชาติก็เริ่มเสื่อมสลาย
หมู่บ้านชุมชนเสื้อแดงเริ่มปิดตัวทีละแห่งสองแห่ง การชุมนุมแต่ละครั้งก็มีมวลชนเข้าร่วมน้อยมาก ประกอบกับการดำเนินคดีอาญากับแกนนำและแนวร่วมนรกป่วนชาติงวดเข้ามาเต็มที แกนนำถูกตัดสินจำคุกทีละห้ารายสิบรายสุดท้ายท่านประธาน นปช. ออกจากคุกมาแล้วขอร้องให้เสื้อแดงยุติบทบาท
ประกอบกับคู่ขาที่เคยเป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดที่เคยแย่งตำแหน่งรัฐมนตรีไปติดคุก #ท่านประธานนรกป่วนชาติ#ปรับบทบาทปรับท่าทีใหม่ไปเป็นจิตอาสาจนหลายคนคิดว่า #คางคกพอเลือดตกยางออกก็รู้สึก ได้สำนึกกลับตัวกลับใจ
หรือเพราะเห็นอดีต นรกป่วนชาติ หลายรายที่พอแปรพักตร์ไปหานายใหม่แล้วได้ดิบได้ดี หลบคดีลี้คุกได้เช่นนายแรมโบ้อีสาน จากคนปล้นปืนทหารมาโชว์ในเวทีนรกป่วนชาติและที่หลุดพ้นคดีเพราะหมดอายุความเนื่องจากมาเป็น
ที่ปรึกษารัฐมนตรีที่ตำรวจมีหมายจับแต่หาตัวไม่เจอ แรมโบ้อีสานที่ห้าวเป้งประกาศจะแขวนคอป๋ากลางสนามหลวง กลายเป็นคนเรียบร้อยถ้อยทีถ้อยอาศัยอยู่ในรัฐบาล
หรือนายอานนท์ แสนน่าน ที่เคยเป็นแกนนำคนสำคัญของหมู่บ้านคนเสื้อแดงอีสานออกมา เตือนว่า.....อย่าหลงเชื่อคนที่จะออกมาล้มรัฐบาล“ลุงตู่” ที่มาจากการเลือกตั้ง....เพราะที่ผ่านมา ใครพาพวกเราไปติดคุกและตาย แล้วสุดท้ายคนที่สบายคือแกนนำ .....”
เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมแรมโบ้อีสาน กับนายอานนท์ แสนน่าน เปลี่ยนท่าทีปรับตัวอย่างไรไม่ให้ติดคุกติดตะราง
จึงน่าประหลาดใจว่าทำไม? คางคกเลือดหัวตกยางหัวออกแล้วยังไม่รู้สึก ยางหัวออกครั้งแรกคือตอนที่เพื่อนซี้ได้เป็นเสนาบดี แต่ตัวเองเป็นขี้คุก ยางออกครั้งที่สอง
คือตอนที่ถูกไล่เหมือนหมูเหมือนหมาออกมาจากห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ยางหัวออกครั้งต่อมา คือเมื่อครา
เลือกตั้งนายกองค์การบริหารจังหวัดเชียงใหม่ ที่ประกาศว่ายังรักนายใหญ่แต่ไม่ช่วยพรรค ประกาศว่ายังรักแต่ถูกนายใหญ่กับน้องสาวกับสมุนบริวารพาลรุมด่า
เมื่อสหายร่วมทำลายชาติกันมา พากันแห่แปรพักตร์ไปรักรัฐบาลใหม่ แล้วประธานที่ยังฝังใจกับความยิ่งใหญ่ในอดีต จะเรียกระดมมวลชนจากไหนให้มาป่วนชาติ ประกอบนายใหญ่ไม่ไว้ใจเหมือนเมื่อครั้งมวลชนคลั่งไคล้ทำลายชาติ หรือเพียงแต่เห็นนายโทนี่พูดว่าจะแก้รัฐธรรมนูญให้ได้เลยหวังว่าท่อน้ำใหม่คงกลับมาถ้าเทคแอ๊กชั่น วันที่ 4 เม.ย.
แต่ในห้วงเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมาแกนนำรุ่นใหม่สามารถทำชั่วได้เกินราคาค่าจ้าง ดังนั้นถ้าชั่วได้ไม่เท่าเด็กอย่าริเทคแอ๊กชั่น
จะหวังพึ่งพาสหรัฐอเมริกาให้เข้ามาช่วยยกหูชูหางดังที่แล้วมา วันนี้อเมริกาวุ่นวายอยู่กับปัญหาพม่าจนไม่มีเวลามาช่วยคางคก จึงทำนายว่าชะตากรรมของประธาน“นรกป่วนชาติ”ไม่ต่างจากนายอาเลีย คอซ ในเรื่องกรงเล็บปีศาจที่ทนความอดสูเมื่อถูกทอดทิ้งไม่ได้ก็ฆ่าตัวตายอย่างโดดเดี่ยว
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี