สามสี่วันมานี้ คนที่เสพเรื่องราวของผับบาร์ หรือที่เรียกให้ไพเราะเสนาะหูว่าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ ที่ถูกระบุแบบหลวมๆ ว่าอาจจะมีรัฐมนตรีบางรายเข้าไปอยู่ในสถานที่แห่งนั้น โดยคนที่พยายามให้ข่าวเรื่องนี้มากที่สุดคนหนึ่งก็คือ อดีตเจ้าของสถานอาบอบนวด ที่ผันตัวเองไปเป็นนักการเมืองจอมโว
ประเด็นเรื่องรัฐมนตรีกับการเข้าไปอยู่ในสถานที่ดังกล่าว และประเด็นการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ระลอกล่าสุดในประเทศไทย ก็คือประเด็นสำคัญที่สาธารณชนกำลังติดตามความรับผิดชอบของคนที่ถูกระบุว่าเข้าไปอยู่ในสถานบันเทิงแห่งนั้น จนทำให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ดังที่กลายเป็นข่าวในขณะนี้ แต่มีอีกประเด็นหนึ่งที่สาธารณชนตั้งคำถามกันอย่างมากว่า มีสิทธิ์นำภาพผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ทำงานอยู่ในสถานบันเทิงแห่งนั้นออกไปเผยแพร่ต่อสาธารณะหรือ โดยเฉพาะภาพที่จงใจแสดงให้เห็นทรวงอกของผู้หญิงเหล่านั้น โดยจงใจเปิดเผยหน้าตาราวกับว่าจงใจนำคนเหล่านั้นออกมาประจานให้ได้รับความอับอาย
หลายคนอาจจะถามว่า แล้วผู้หญิงเหล่านั้นไม่อับอายขายหน้าหรือที่ทำอาชีพเช่นนั้น แต่ก็มีผู้ถามกลับว่า แล้วอาชีพที่ผู้หญิงเหล่านั้นต้องทำ เป็นสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าหากผิดกฎหมายจริง แล้วเหตุใดนายทุนจึงสามารถเปิดให้บริการได้แล้วตำรวจและรัฐบาลไทยไม่มีปัญญารู้เลยหรือว่ามีสถานที่ดังกล่าวอีกมิใช่น้อยกระจายอยู่ทั่วทุกหัวระแหงของประเทศไทย มีคำถามด้วยว่า คนที่ดีแต่ด่าว่าประณามผู้หญิงทำงานในบาร์ มีความดีงามมากกว่าคนที่เขาด่าว่าหรือประณามหรือ
ขอย้ำว่า ไม่ว่าเรื่องนี้จะมีรัฐมนตรีหน้าไหน หรือมีนักการเมืองหน้าไหน หรือนักธุรกิจหน้าไหนก็ตามซึ่งเข้าไปอยู่ในสถานที่ดังกล่าว ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์นำภาพผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ต้องทำงานอยู่ในสถานบริการแห่งนั้นไปเผยแพร่ เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ และความเป็นส่วนตัวของมนุษย์ ขอยืนยันว่า การจงใจนำภาพดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ คือการจงใจละเมิดสิทธิความเป็นมนุษย์ของผู้หญิงกลุ่มดังกล่าว ผู้จงใจกระทำละเมิดต้องได้รับโทษตามข้อกำหนดของกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
การที่ผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวต้องทำงานในสถานบันเทิงที่ตกเป็นข่าว ถือเป็นความลับส่วนบุคคล และเขาเหล่านั้นคงไม่ยินดีให้ใครหน้าไหนนำภาพของเขาไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ โดยเฉพาะภาพสรีระของเขา ดังนั้นใครก็ตามที่กระทำละเมิดในเรื่องนี้ ต้องได้รับโทษโดยไม่มีข้อยกเว้น การอ้างว่านำภาพดังกล่าวมาเสนอต่อสาธารณะ เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจว่าภายในสถานบันเทิงดังกล่าวมีการให้บริการแบบไหน และอะไรบ้าง เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้นด้วยประการทั้งปวง เพราะการให้ข้อมูลใดๆ ก็ตาม ต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและศักดิ์ศรีของบุคคล
ผู้เขียนไม่เคยเข้าไปในสถานที่ที่กำลังตกเป็นข่าว แต่เคยขอสัมภาษณ์ผู้หญิงที่ทำงานในบาร์ย่านพัฒน์พงศ์ ซึ่งหลายคนเรียกเขาเหล่านั้นว่าสาวอะโกโก้ เพื่อทำรายงานพิเศษในรายการทีวี สมัยที่ผู้เขียนทำงานอยู่ไอทีวี ผู้หญิงทำงานในบาร์อะโกโก้ทุกคนที่ให้สัมภาษณ์ผู้เขียนเมื่อหลายปีก่อนบอกว่า หากหนูเลือกงานได้ หนูไม่มีวันทำงานนี้เป็นอันขาด แต่ที่ต้องทนทำ เพราะมีความจำเป็นที่ไม่อยากบอกใคร เพราะบอกแล้วก็ไม่มีใครช่วยเหลือหนูได้ ทุกคนบอกกับผู้เขียนด้วยว่า พี่คะ หนูถูกมองว่าหน้าด้านไม่มีศักดิ์ศรี หนูแก้ผ้าเต้นอะโกโก้ก็จริงนะพี่ หนูไม่ได้ขายตัว หนูทำงานหาเงินเลี้ยงตัว เลี้ยงคนในครอบครัวของหนู เพราะหนูไม่มีงานอื่นทำ หนูแก้ผ้า แต่หนูไม่ขายตัว หนูไม่ได้ไปนอนกับใครโดยไม่เลือกหน้า ไม่ใช่ใครจะลากหนูไปนอนก็ได้นะพี่ หนูก็เป็นคนคนหนึ่งนะพี่ แม้คนจะดูถูกพวกหนูแต่หนูไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้ใครนะพี่หนูฝากพี่นักข่าวบอกกับสังคมด้วยนะคะ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี