วันพฤหัสบดี ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 02.00 น.
กรณี ‘ธรรมนัส’ หรือ ‘ลุงตู่’ จะอยู่แบบ ‘จ่าเฉย’

ดูทั้งหมด

  •  

จากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพะเยาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่ขาดคุณสมบัติความเป็นสส.และรัฐมนตรี แม้ต้องคำพิพากษาในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดจากศาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย เนื่องจากเป็นคำพิพากษาของศาลต่างประเทศ ไม่ใช่ของศาลไทยนั้น ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของศาลพิจารณา และการที่พรรคก้าวไกลจะไปยื่นสอบจริยธรรมต่อก็เป็นเรื่องของพรรค
ก้าวไกล ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล


ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า เคยมีความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำสั่งว่า หากถูกพิพากษาจำคุกในหรือต่างประเทศตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยพ้นโทษมาแล้วไม่ถึง 5 ปี ถือว่าเป็นบุคคลต้องห้าม ขาดคุณสมบัติการเป็น สส. แต่กรณี ร.อ.ธรรมนัส ถูกตัดสินลงโทษจำคุกคดียาเสพติดตั้งแต่ปี 2536 และพ้นโทษเมื่อปี 2540 ถือว่าพ้นโทษมาแล้วเกิน 5 ปี จึงถือว่าไม่ขาดคุณสมบัติตามกฎหมาย

เขากล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ความเหมาะสมและเรื่องจริยธรรมว่า ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วแต่จะวิจารณ์กัน ส่วนจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วินิจฉัยในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ในข้อกฎหมายถือว่าสิ้นสุดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

“ศาลรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องชี้แจงหรือพูดอะไรเพิ่มเติม เพราะได้วินิจฉัยจบแล้ว ส่วนผลทางวิชาการ ทางการเมือง แล้วแต่จะวิจารณ์กันไป ขณะเดียวกัน
คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีนี้ถือเป็นบรรทัดฐานที่ใช้ได้กับทุกคน เพราะไม่เคยมีคำวินิจฉัยมาก่อน และใช้ได้กับความผิดทุกกรณี ไม่เฉพาะแต่ความผิดคดียาเสพติดอย่างเดียว แต่ไม่ใช่การล้างมลทิน เพราะเป็นเรื่องคำวินิจฉัยเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ซึ่งอาจจะมีมลทินก็ได้” นายวิษณุกล่าว

แต่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แสดงความเห็นว่า คำวินิจฉัยในวันนี้จะเป็นบรรทัดฐานใหม่ในสังคมไทยใช่หรือไม่ว่า ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรหรือนักโทษมาจากไหน แต่ประเทศไทยจะเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้เป็นรัฐมนตรีได้เสมอ ตราบใดที่ไม่ได้ต้องคดีในไทย ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อไปพ่อค้ายา พ่อค้าอาวุธทั่วโลกก็คงสามารถเอาเงินจากการก่ออาชญากรรมมาซื้อตำแหน่งรัฐมนตรี กลายเป็นผู้บริหารประเทศไทยได้ใช่หรือไม่ เราจะปล่อยให้ประเทศเป็นแบบนี้จริงๆ หรือ

“หากเป็นแบบนี้ต่อไป อย่าแปลกใจเลยครับที่คนไทยจำนวนมากจะอยากย้ายประเทศ เพราะไม่มีใครหรอกที่อยากอยู่ในบ้านเมืองที่ไม่มีที่อยู่ให้กับคนมีความสามารถ แต่กลับมีที่ยืนให้กับบุคคลเช่นนี้”

นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร แถลง กมธ.มีมติให้ตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัสเพิ่มเติมกรณีคุณสมบัติรัฐมนตรีที่ต้องเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) จะไปตรวจสอบ 4 ประเด็นคือ 1.กรณีการรับรองสถานะตัวเองก่อนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี มีการปกปิดไม่บอกข้อมูลการต้องคำพิพากษาถูกศาลออสเตรเลียสั่งจำคุกให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) รับทราบหรือไม่ 2.การลงสมัคร สส.มีการปกปิดข้อมูลเรื่องการต้องคำพิพากษาหรือไม่ 3.การขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์ต้องมีการรับรองตัวเองเคยต้องคำพิพากษาหรือไม่ 4.กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสเคยทำหนังสือแจ้งข้อมูลต่อ กมธ.ป.ป.ช. เมื่อ 12 ธ.ค.2562 มีข้อมูลใดคลาดเคลื่อนจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่กมธ.จะไปตรวจสอบประเด็นเหล่านี้ เพื่อดูว่ามีการกระทำผิดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) หรือไม่

ขณะที่นักวิชาการ โดย รศ.ดร.มุนินทร์ พงศาปาน คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า การใช้เหตุผลในเชิงชาตินิยมที่มีน้ำหนักเบาบางเพื่อปิดกั้นคำพิพากษาศาลต่างประเทศ เป็นการละทิ้งโอกาสอย่างน่าเสียดายในการหักล้างข้อสงสัยของสาธารณชนที่มีต่อเจตนารมณ์ที่แท้จริงของบทบัญญัติ ว่าคนที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรควรมีคุณสมบัติแบบใด เป็นข้อสงสัยที่ไม่ต้องใช้เหตุผลทางกฎหมายที่ซับซ้อน แต่ใช้เพียงแค่เหตุผลธรรมดาสามัญก็สามารถตอบได้

ยิ่งเมื่อได้อ่านความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 4) ซึ่งเป็นกลุ่มนักกฎหมายชั้นนำของประเทศที่ได้วินิจฉัยในประเด็นปัญหาเดียวกันเมื่อเกือบ 40 ปีก่อนว่า “ถ้าต้องห้ามเฉพาะการกระทำผิดในประเทศ ไม่เกี่ยวกับการกระทำผิดในต่างประเทศ ก็จะเกิดการลักลั่นไม่เป็นธรรม และขัดกับเหตุผล” ยิ่งทำให้ความเคลือบแคลงสงสัยที่มีต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพิ่มมากยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่ความเชื่อมั่นศรัทธาของสังคมที่มีต่อระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไทยยิ่งตกต่ำลงไปเรื่อยๆ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

ด้าน ผศ.ดร.ปารีณา ศรีวนิชย์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงความคิดเห็นว่า ไม่แปลกใจในผลและเหตุผลที่ยึดการตีความตามตัวอักษร แต่สะท้อนใจที่สองประเด็นนี้มิได้ถูกเอ่ยถึง

1.เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องการจะได้บุคคลที่มือสะอาด ปราศจากมลทิน โดยเฉพาะในข้อหาร้ายแรง มาทำหน้าที่ในองค์กรหลักฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร

2.ความผิดนี้เป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็น Double Criminality (เป็นความผิดของทั้งสองประเทศ และไม่ยากในการที่จะพิสูจน์องค์ประกอบความผิดว่าตรงกันหรือไม่) และความผูกพันและพันธกรณีที่ประเทศไทยมีต่อนานาประเทศในการต่อต้านยาเสพติด ที่ยอมรับว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้ามชาติและเป็นภัยต่อความมั่นคงของมนุษย์

รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต อดีตคณบดีพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และประธานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ระบุว่าเป็นอีกครั้งที่เราเห็นการใช้อำนาจรัฐในนามของการตีความกฎหมาย ที่อาจบั่นทอนศีลธรรมและจริยธรรมของสังคมอย่างประมาณไม่ได้ เป็นการวินิจฉัยที่อ้างหลักอำนาจอธิปไตยที่เลื่อนลอย ไม่สอดคล้องกับบริบท แต่ละเลยต่อหลักจริยธรรมของการเป็นผู้บริหารประเทศ

วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรางวัลซีไรต์ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค ระบุว่า กำลังรอ...ว่าคุณธรรมนัสจะลาออกเอง หรือนายกฯจะขอให้ออก เพื่อลดระดับวิกฤติศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล นายกฯก็เพิ่งประกาศไปว่าสามารถยึดเก้าอี้รัฐมนตรีของใครก็ได้ ตอนนี้ก็ถึงเวลาพิสูจน์คำพูดแล้ว ถ้ายังกอดคอกันต่อไป รัฐบาลก็จะเหลือกองเชียร์น้อยลง กองแช่งมากขึ้น ทุกรัฐบาลพังเพราะวิกฤติศรัทธาอันเกิดจากเรื่องจริยธรรมทั้งนั้น หรือกลัวว่า # “ถ้าล้มผมได้ ก็สั่นคลอนรัฐบาลได้” #
“ผมคือเส้นเลือดใหญ่ เลี้ยงหัวใจรัฐบาล” รัฐบาลอยู่ได้เพราะประชาชนหรือคุณธรรมนัส?

อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความที่มีเนื้อหากล่าวว่า “...จริงๆแล้ว มันเป็นความเห็นต่างในการตีความกฎหมายเท่านั้น ศาลรัฐธรรมนูญท่านก็มีเหตุผลของท่านอยู่นะครับ ท่านเริ่มจากการมองว่า เรื่องขาดคุณสมบัตินักการเมืองเพราะต้องคำพิพากษาลงโทษอาญานี้ มันเป็นการรับเอาคำพิพากษาต่างประเทศเข้ามามีผลบังคับในระบบกฎหมายของเรา ซึ่งมันทำไม่ได้เพราะคำพิพากษานี้เป็นการใช้อำนาจอธิปไตยของรัฐอื่น ศาลใครก็ศาลมัน คำพิพากษาใครก็คำพิพากษามัน รัฐไทยจะไปยอมผูกพันด้วยไม่ได้”

ถาม แล้วฝ่ายค้านเห็นต่างอย่างไร

ตอบ ผมอยู่ฝ่ายนี้ ผมมองว่าคดีนี้เป็นเพียงการวางมาตรฐานความไว้วางใจของสังคมไทยด้วยกฎหมายไทยเองเท่านั้นว่า ถ้ามีคนโดนคำพิพากษาต่างประเทศลงโทษมาอย่างนี้ มันเพียงพอที่รัฐธรรมนูญไทยจะไม่ไว้วางใจหรือไม่ ซึ่งจะให้คำตอบอย่างไรก็เป็นอิสระตามดุลพินิจของเรา หาใช่การยอมรับหรือไม่ยอมรับอำนาจรัฐอื่นแต่อย่างใดไม่

ถาม ข้อห้ามที่ตัดสิทธิบุคคลนี่ จะตีความขยายกันได้ตามชอบเลยหรือครับ

ตอบ สิทธิเป็น สส. หรือเป็นรัฐมนตรีนี่ ไม่มีในกฎหมายไทยนะครับ เรามีสิทธิที่จะกำหนดได้ตามเหตุที่เห็นสมควร จะโดยเขียนเป็นกฎหมายให้ชัดเจนเลยก็ได้หรือโดยการตีความของศาลรัฐธรรมนูญก็ได้

ถาม ถ้าเดินมาทางนี้ แล้วผมโดนศาลเขมรลงโทษฐานรุกล้ำพรมแดน แบบ คุณพนิต สส.ประชาธิปัตย์ อย่างนี้ก็ต้องพ้น สส.พ้นรัฐมนตรีด้วยหรือครับ

ตอบ คงเตลิดไปอย่างนั้นไม่ได้ ตรงจุดนี้ต้องถือเป็นช่องว่างทางกฎหมาย ที่สามารถหาคำตอบจากการเทียบเคียงบทกฎหมายไทยต่างๆได้ ซึ่งเมื่อเทียบดูแล้ว ก็พบแนวทางที่เทียบเคียงจากประมวลกฎหมายอาญาได้ว่าความผิดนอกราชอาณาจักรนั้น กฎหมายไทยจะเอาเรื่องด้วยอำนาจอาญาก็แต่เฉพาะความผิดสำคัญๆ ที่เป็นอาญาแท้ๆ เท่านั้น เรื่องลอบเข้าเมือง แบบ สส.พนิต หรือหนีภาษี,ขับรถไม่มีใบอนุญาต, บุกรุกอุทยานฯลฯ เหล่านี้แม้ถึงจำคุกได้ แต่มันไม่ใช่อาญาแท้ เป็นเรื่องผิดเพราะกฎหมายห้ามเท่านั้น ที่กฎหมายอาญาไทยไม่ควรไปสนใจ แนวทางตามกฎหมายอาญาที่กล่าวมานี้นี่เอง ที่กฎหมายคุณสมบัตินักการเมืองของไทยก็ควรจะเทียบเคียงนำมาใชอุดช่องว่างได้

ถาม คดีคุณธรรมนัส เป็นคดียาเสพติดกฎหมายอาญาไทยเอาเรื่องข้ามประเทศได้ไหม

ตอบ กฎหมายอาญาเราเอาเรื่องคดียาเสพติดเฉพาะที่เป็นการค้าคือนำเข้าและจำหน่ายเท่านั้นครับ ถ้าเป็นครอบครองหรือเสพเราไม่ยุ่ง ตรงนี้ถ้าจะอุดช่องว่างในคดี
รัฐธรรมนูญตามแนวทางกฎหมายอาญาอย่างเช่นที่กล่าวมา ศาลรัฐธรรมนูญไทยต้องหาทางเอาสำเนาคำพิพากษาศาลออสเตรเลียมาเข้าสำนวนให้ได้ว่า คำพิพากษานี้ตัดสินลงโทษฐานใดกันแน่

ถาม ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญท่านได้หมายเรียกสำเนาคำพิพากษาจากคู่ความและปลัดกระทรวงต่างประเทศแล้วนี่ครับ แต่ไม่มีใครส่งให้เลย

ตอบ ผมว่าถึงจุดนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจ ออกหมายให้ทางการไทยขอตรงจากทางการออสเตรเลีย โดยอ้างความผูกพันตามอนุสัญญาปราบปรามการค้ายาเสพติดประกอบไปด้วยได้เลย เพราะทั้งเราและเขาเป็นสมาชิกด้วยกันทั้งคู่ ถ้าออสเตรเลียไม่ให้ เขาจะตกที่นั่งไม่เคารพอนุสัญญาไปในทันที

ถาม ด้วยแนวทางการใช้กฎหมายที่เห็นต่างกับศาลเช่นที่ลำดับมานี้ ก็เพียงพอที่จะวินิจฉัยให้ ร.อ.ธรรมนัสพ้นตำแหน่ง สส.และรัฐมนตรีได้แล้วใช่ไหม

ตอบ ถ้าตีความแล้วอุดช่องว่างอย่างนี้ กฎหมายก็เปิดทางครบถ้วนแล้วครับ เหลือแต่คำตอบทางข้อเท็จจริงต่อไปเท่านั้นว่า ศาลออสเตรเลียลงโทษตามกฎหมาย
ยาเสพติดฐานใด ใช่ฐานค้ายาคือนำเข้าและจำหน่ายหรือไม่

ถาม ท้ายที่สุดนี้ เราจะมองความแตกต่างทางความคิดเห็น ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญ กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้น อย่างไรครับ

ตอบ สองแนวทางนี้ใช้กฎหมายด้วยนิติวิธีที่ต่างกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอในทางนิติศาสตร์แต่ศาลท่านมีอำนาจตามกฎหมายเราก็ต้องยอมรับยุติตามที่ท่านวินิจฉัย

ถาม มีความเห็นเสนอว่า ยังมีช่องทางร้องให้ ป.ป.ช.วินิจฉัยว่า เป็นเรื่องขัดจริยธรรมอย่างร้ายแรงแล้วส่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองตัดสินให้พ้นจากตำแหน่ง สส.และรัฐมนตรีได้

ตอบ ผมว่าช่องทางนี้เดินไม่ได้นะครับ เพราะการกระทำผิดที่จะกล่าวหากันนั้น มันไม่ได้เกิดขึ้นในขณะดำรงตำแหน่งแต่อย่างใด มันเกิดเป็นคดีมานานกว่า ๓๐ ปีแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

ถาม สรุปแล้วคดีไม่มีทางไปทางไหนได้อีก

ตอบ อำนาจตรวจสอบของศาลและองค์กรอิสระไม่มีแล้ว ไม่รู้จะร้องใครได้แล้ว เหลือแต่อำนาจของผู้รับผิดชอบทางการเมืองเท่านั้น ตัวนายกรัฐมนตรีเองนั้นมีอำนาจหน้าที่สอบสวนในทางบริหารอยู่แล้วเพราะเป็นคดียาเสพติด ที่มีระเบียบสำนักนายกฯ กำหนดเป็นหน้าที่ผู้บังคับบัญชาไว้ชัดเจนว่าอยู่เฉยไม่ได้ ถ้าสอบแล้วได้ความว่าเป็นคำพิพากษาลงโทษฐานค้ายา ตรงนี้นายกฯก็ต้องปรับบุคคลนี้ออกจากรัฐมนตรี ส่วนพรรคต้นสังกัดก็ต้องมีมติให้พ้นจากพรรคแล้วหลุดจาก สส.ตามไปด้วย ทั้งหมดนี้ทำได้ทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าจะรู้จักถูกผิด รู้จักรับผิดชอบหรือไม่เท่านั้น

เฉยลูกเดียวหรือหลายลูกอย่างนี้มันเริ่มจะรับไม่ไหวกันแล้วนะครับ ท่านครับ!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:06 น. ‘ภูมิธรรม’แย้มถ้าเสียงเชียร์เยอะอาจทาบ‘ณัฐพงศ์’สามีพินทองทา นั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
14:06 น. เตือน! เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้า 7พื้นที่ กทม.
14:02 น. 'ธนวินท์'เร่งเครื่อง! ตามผู้นำ3สโตรกอล์ฟ'สิงห์ไทยแลนด์อเมเจอร์โอเพ่น'
13:58 น. ภรรยาแม่ทัพภาคที่2 รุดเยี่ยมครอบครัวทหารเสียชีวิต
13:56 น. รีบสมัครด่วน ‘วิ่งปล่อยแสง’ MEA SPARK RUN 2025 ก่อนหมดเขต 30 ก.ย.นี้
ดูทั้งหมด
ออกครบแล้ว! ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2568
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'มล.รจนาธร'โพสต์ขอบคุณ'ลิซ่า ลลิษา' สวมจิวเวลรีแบรนด์ไทยในลุค After party Emmy Awards
(คลิป) 'ฮุนเซน' ออกโรงแจงด่วนกลางดึก ยึดทรัพย์ 'ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์' ในเขมร
ดูทั้งหมด
อลัชชีหุ้มจีวร
‘หนู-1’รัฐบาลชั่วคราวไม่ค้างคืน
ไทยต้องปรับปรุงด่วน ถ้ายังอยากอยู่ในสายตานักลงทุนโลก
หนึ่งวันพันเหตุการณ์
แลนด์บริดจ์ ยุคนายกฯอนุทิน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทบ.’ยก 4 ข้อโต้‘กัมพูชา’บิดเบือน ย้ำไทยยึดหลักสากลหยุด‘ม็อบเขมร’ล้ำ‘บ้านหนองหญ้าแก้ว’

ภรรยาแม่ทัพภาคที่2 รุดเยี่ยมครอบครัวทหารเสียชีวิต

‘ปกรณ์วุฒิ’ลั่น!ไม่มีทางเป็นไปได้ ‘ภูมิใจไทย’พลิกบทบาทเป็น‘เสียงข้างมาก’ ถ้าไม่มีพรรคแตก

รวบ13คนไทยกำลังจะลอบข้ามแดน อ้างเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ถูกหลอกไปกัมพูชา

สะพัดเมืองคอน!‘ชินวรณ์’นัดคุย‘พิพัฒน์-นาที’ จ่อโยกซบ‘ภูมิใจไทย’

'อนุทิน'ลุยถกภาคธุรกิจ ลั่นใจกว้างเดินหน้าต่อหมดถ้านโยบายดี

  • Breaking News
  • ‘ภูมิธรรม’แย้มถ้าเสียงเชียร์เยอะอาจทาบ‘ณัฐพงศ์’สามีพินทองทา นั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ‘ภูมิธรรม’แย้มถ้าเสียงเชียร์เยอะอาจทาบ‘ณัฐพงศ์’สามีพินทองทา นั่งแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย
  • เตือน! เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้า 7พื้นที่ กทม. เตือน! เฝ้าระวังโรคพิษสุนัขบ้า 7พื้นที่ กทม.
  • \'ธนวินท์\'เร่งเครื่อง! ตามผู้นำ3สโตรกอล์ฟ\'สิงห์ไทยแลนด์อเมเจอร์โอเพ่น\' 'ธนวินท์'เร่งเครื่อง! ตามผู้นำ3สโตรกอล์ฟ'สิงห์ไทยแลนด์อเมเจอร์โอเพ่น'
  • ภรรยาแม่ทัพภาคที่2 รุดเยี่ยมครอบครัวทหารเสียชีวิต ภรรยาแม่ทัพภาคที่2 รุดเยี่ยมครอบครัวทหารเสียชีวิต
  • รีบสมัครด่วน ‘วิ่งปล่อยแสง’ MEA SPARK RUN 2025 ก่อนหมดเขต 30 ก.ย.นี้ รีบสมัครด่วน ‘วิ่งปล่อยแสง’ MEA SPARK RUN 2025 ก่อนหมดเขต 30 ก.ย.นี้
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ไม่ใช่คุกสุดท้ายของ ‘ทักษิณ’

ไม่ใช่คุกสุดท้ายของ ‘ทักษิณ’

17 ก.ย. 2568

ว่าด้วยเรื่อง ‘เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา’

ว่าด้วยเรื่อง ‘เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา’

14 ก.ย. 2568

ตามพระบรมราชโองการ

ตามพระบรมราชโองการ

10 ก.ย. 2568

ถามหา ‘ยางอาย’ จาก ‘แพทองธาร’

ถามหา ‘ยางอาย’ จาก ‘แพทองธาร’

7 ก.ย. 2568

กัด กรีด และดีดตัว ออกจาก ‘พรรคเพื่อไทย’

กัด กรีด และดีดตัว ออกจาก ‘พรรคเพื่อไทย’

3 ก.ย. 2568

‘อุ๊งอิ๊งค์’ น้อมรับ แต่ดูเหมือนจะไม่สำนึก

‘อุ๊งอิ๊งค์’ น้อมรับ แต่ดูเหมือนจะไม่สำนึก

31 ส.ค. 2568

‘บ้านหนองจาน’ สมรภูมิรบใหม่ ไทย-กัมพูชา

‘บ้านหนองจาน’ สมรภูมิรบใหม่ ไทย-กัมพูชา

27 ส.ค. 2568

ความกำแหงของ ‘ฮุนเซน’

ความกำแหงของ ‘ฮุนเซน’

24 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved