วิญญูชนต่างรู้สึกสังเวชใจ เมื่อได้เห็นข่าวนักร้องเพลง เพศชาย (ย้ำว่ามีเพศสภาพเป็นชาย แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นสุภาพบุรุษหรือไม่)รายหนึ่งออกมาโวยวายว่า นายกรัฐมนตรีฟ้องร้องประชาชน
คนมีสติปัญญาต่างหัวเราะด้วยความขบขันผสมสมเพชเวทนาเมื่อได้เห็นข่าวนี้ แล้วยิ่งรู้สึกขยะแขยงหนักขึ้นไปอีก เมื่อได้ยินคำจากนักร้องรายที่ว่านั้นทำนองว่า นายกรัฐมนตรีต้องไม่ฟ้องร้องประชาชนหรือไม่ควรฟ้องร้องประชาชน แล้วยังถามอีกว่ามีที่ไหนที่นายกรัฐมนตรีฟ้องร้องประชาชน
ขออภัยที่ต้องบอกว่า ไม่มีกฎหมายข้อใดห้ามนายกรัฐมนตรีฟ้องร้องประชาชน หากประชาชนใส่ความกล่าวหาว่าร้ายนายกรัฐมนตรีด้วยความเท็จจนทำให้นายกรัฐมนตรีได้รับความเสียหายร้ายแรง เสื่อมเสียศักดิ์ศรี และกระทบต่อความน่าเชื่อถือในการปฏิบัติภารกิจเพื่อประเทศ
แน่นอนว่าในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นผู้บริหารประเทศ ซึ่งการตัดสินใจดำเนินนโยบายใดๆ ของรัฐบาลย่อมมีผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางตรงและอ้อม ประชาชนจึงมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่าประชาชนมีสิทธิ์ด่าทอประณามหยามหมิ่นนายกรัฐมนตรีด้วยคำหยาบคาย คำเท็จ และไม่มีสิทธิ์นำความเท็จทั้งปวงกล่าวหาใส่ความเพื่อจงใจให้นายกรัฐมนตรีได้รับความเสื่อมเสีย ถูกหยามหมิ่นเกียรติยศศักดิ์ศรี หากประชาชนคนใดใส่ร้ายนายกรัฐมนตรีด้วยความเท็จ ก็ต้องถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาทโดยไม่มีข้อยกเว้น
ดังนั้นคนที่ปากพล่อย มือพล่อย สมองและสติพล่อย รวมถึงใจพล่อย ที่จงใจกล่าวร้ายใส่ความเท็จเพื่อมุ่งหวังให้นายกรัฐมนตรีเสื่อมเสียหรือมีเจตนากล่าวร้ายบุคคลที่อยู่นอกเหนือคณะรัฐมนตรีด้วยความเท็จทั้งปวง ผู้ที่ปากพล่อยใจพล่อยก็ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในทุกกรณี จะมาแหกปากตะโกนป่าวร้องเพื่อประจานตัวเองว่า เจ้าข้าเอ้ย ไม่เคยพบไม่เคยเห็นนายกรัฐมนตรีฟ้องประชาชน ก็นับเป็นเรื่องน่าบัดสีของคนจำพวกที่จงใจทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด หรือจะมาแก้ตัว โกหก อ้างไปข้างๆ คูๆ ว่า ไปนำเอาข้อความหรือคำพูดของคนอื่นมาส่งต่อ ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำให้ผู้เจตนาใส่ความผู้อื่นด้วยความเท็จ หาได้พ้นความผิดที่ได้จงใจกระทำไปแล้วไม่
อย่ามาอ้างว่ากฎหมายปิดปาก เพราะกฎหมายมีไว้เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง หากคนไม่ปากพล่อยเสียแล้ว กฎหมายที่ไหนจะสามารถไปปิดปากได้ ในเมื่อตั้งใจด่าว่าใส่ความคนอื่นด้วยความเท็จ ก็ต้องถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด เพื่อมิให้ปากพล่อย มือพล่อยอีกต่อไป แต่เท่าที่ทราบนั้น มีข้อมูลยืนยันหนักแน่นพร้อมหลักฐานสำคัญชี้ชัดว่า คนปากพล่อยรายดังกล่าวเคยต้องนำกระเช้าไปกราบขอขมาคนที่ตนเองเคยจงใจหมิ่นประมาทมาแล้ว พร้อมทำเสียงอ่อนเสียงหวานประมาณว่าต่อไปจะไม่ทำเลวในแบบที่เคยได้กระทำมาอีก
เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาตะโกน เจ้าข้าเอ้ยนายกรัฐมนตรีฟ้องร้องประชาชน เพราะตะโกนให้คอแตก ก็ไม่ทำให้พ้นผิดไปได้ ในเมื่อหลักฐานที่เป็นองค์ประกอบความผิดชัดเจน แถมหลายต่อหลายคนยังรู้เช่นเห็นชาติคนแบบนี้มานานแล้ว ดังนั้นก็ต้องย้ำอย่างหนักแน่นว่านายกรัฐมนตรีฟ้องร้องประชาชนที่ปากพล่อยใส่ความด้วยความเท็จเพื่อทำลายล้างนายกรัฐมนตรีและคนอื่นๆ ได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องบ่ายเบี่ยงเพื่อหนีคดีอีกต่อไป จำไว้ทำผิดก็คือทำผิด คนปากพล่อยก็คือคนปากพล่อย และจงจำไว้ว่าหากจะด่าว่าใครก็ตาม ถ้าหากไม่ใช่ข้อเท็จจริง ก็จงอย่าปากพล่อย หากคิดว่าสันดานปากพล่อยแก้ไม่หาย ก็ต้องยอมติดคุกเพราะความปากพล่อยของตนเอง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี