สัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้อ่าน facebook post ของ ดร.ณัฐวุฒิ เผ่าทวี ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ที่ Warwick Business School ประเทศอังกฤษ เกี่ยวกับความสำเร็จของประเทศอังกฤษในการกระจายวัคซีนให้กับประชาชน เพื่อเป็นบทเรียนสำหรับประเทศไทย
อาจารย์อธิบายไว้ได้อย่างน่าสนใจมาก โดยยกงานวิจัยของ Dan Ariely ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาและเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม Duke University สหรัฐอเมริกา ที่อธิบายพฤติกรรมของมนุษย์โดยทั่วไปว่า จะพยายามโกงหากมีโอกาสโกงได้ แต่จะโกงเพียงที่จะทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่เสียโอกาสและในเวลาเดียวกันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนไม่ดีอะไร
ดังนั้น นอกเหนือจากการที่รัฐบาลอังกฤษประกาศอย่างชัดเจนว่า ได้เตรียมพร้อมวัคซีนไว้อย่างเพียงพอหรือเกินพอสำหรับประชาชนทุกคนแล้ว การที่ประเทศอังกฤษมีการประกาศหลักเกณฑ์ในการกระจายวัคซีนอย่างชัดเจน ให้กับบุคลากรด่านหน้าก่อน ตามด้วยผู้สูงอายุ และไล่อายุลงมาเรื่อยๆ โดยไม่เปิดโอกาสให้มีการลัดคิวเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีชื่อเสียง ผู้มี
อำนาจใดๆ ก็ไม่สามารถใช้อภิสิทธิ์ในการขอรับวัคซีนก่อนคนอื่น ทุกคนอยู่ภายใต้กติกาอันเดียวกันอย่างไม่มีข้อยกเว้น ที่อาจารย์ใช้คำว่า “เรามาด้วยกัน เราก็ไปด้วยกัน” จึงทำให้การรอคอยวัคซีนของหลายๆ คนเป็นการยินดีรออย่างมีความแน่นอนชัดเจน แม้จะต้องรอคอยนานหลายเดือนก็ตาม
สมมุติฐานของผมว่าทำไมอังกฤษสามารถออกหลักเกณฑ์การกระจายวัคซีนที่เป็นที่ยอมรับได้ อาจจะมาจากประสบการณ์ของประเทศที่เคยผ่านความยากแค้นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ที่เกาะอังกฤษถูกปิดล้อมโดยนาซีเยอรมัน ทำให้ขาดแคลนอาหารและสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตอื่นๆ เช่น น้ำมัน สบู่ ยารักษาโรค เพื่อป้องกันความโกลาหลวุ่นวาย จึงมีการใช้การแจกบัตรปันส่วนกับประชาชนทุกคน โดยให้ความมั่นใจว่าทุกคนจะได้รับจัดสรรแบ่งปันกันโดยทั่วถึงไม่ต้องแย่งชิงกัน ถ้าทุกคนเคารพกฎเกณฑ์นี้ ถ้ามีใครเล่นนอกกติกาเอาเปรียบคนอื่น รัฐบาลก็จะลงโทษอย่างจริงจัง ไม่มียกเว้น ซึ่งในปี ค.ศ. 1941 มีคนถูกจับและลงโทษหนักถึง 2,300 ราย ประสบการณ์นี้จึงน่าจะทำให้รัฐบาลและประชาชนอังกฤษพอจะรู้วิธีบริหารจัดการกระจายทรัพยากรในช่วงวิกฤติบ้าง
เมื่อกลับมามองประเทศไทย ที่ทุกวันนี้การได้รับวัคซีนเป็นทั้ง เรื่องยาก และ เรื่องงง มากเสียเหลือเกิน หลายครั้งที่การทักทายว่าฉีดวัคซีนหรือยังต้องตามมาด้วยคำถามว่าได้โควตาอะไรมา กลายเป็นเรื่องปกติไป แสดงให้เห็นถึงความสับสนและไม่ชัดเจนของกฎเกณฑ์ในการกระจายวัคซีนของไทย ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้สามารถอธิบายได้ตามหลักการข้างต้นว่า คนที่อยู่ในสังคมที่ไม่มีความยุติธรรม ทำให้เขารู้สึกว่ากำลังจะเสียโอกาส หรือถูกเอารัดเอาเปรียบ ก็จะต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตัวเองหรือคนที่เขารัก ดังนั้น
เมื่อมีโอกาสใดที่จะได้รับวัคซีนเกิดขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยกฎหมายเปิดช่องให้ หรือ มีโควตาเหลือมา เขาก็จะต้องรีบแสวงหาและคว้าเอาไว้ในทันที
ยิ่งเมื่อเราเห็นข้อมูลว่า คนบางกลุ่ม หรือบางจังหวัด ได้รับจัดสรรวัคซีนเร็วกว่า หรือ มากกว่าที่อื่น ทั้งๆ ที่อาจมีความจำเป็นน้อยกว่า ดังที่มีการประท้วงว่าการกระจายวัคซีนไปจังหวัดต่างๆ นั้นไม่เสมอภาคกัน จังหวัดที่มีนักการเมืองดำรงตำแหน่งที่มีอำนาจในรัฐบาลได้รับการจัดสรรวัคซีนมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ผมเลยลองเข้าไปดูข้อมูลจำนวนผู้ได้รับฉีดวัคซีนในจังหวัดนี้จาก แอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ปรากฏว่าจำนวนวัคซีนที่ได้แจกจ่ายฉีดไปมีสัดส่วนต่อจำนวนประชากรในจังหวัดสูงมากกว่าจังหวัดอื่นๆจริง ความจริงเหล่านี้ยิ่งย้ำให้เห็นถึงความไม่เป็นธรรมในการบริหารจัดการการกระจายวัคซีน และยิ่งทำให้คนไทยเกิดความรู้สึกถูกเอาเปรียบ จึงต้องรีบขวนขวายหามาให้เร็วที่สุด ซึ่งการรีบนั้นก็อาจจะหมายถึงการไปลัดคิวหรือแย่งโควตาบุคลากรหน้าด่านมาก็ได้
ในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลนี้ ต้องขอบคุณทีมงานที่นำข้อมูลการฉีดวัคซีนในแต่ละวันมาเผยแพร่ตลอด ละเอียดเป็นแต่ละจังหวัด และอยู่ในรูปแบบที่เข้าดูได้ง่าย เพื่อสร้างความโปร่งใสของข้อมูลการกระจายวัคซีนโควิด-19 เตรียมพร้อมรองรับการกระจายวัคซีน mRNA ทั้ง Pfizer หรือ Moderna ที่ได้รับบริจาคและจะมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ ข้อมูลเหล่านี้จะมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการติดตามตรวจสอบการกระจายวัคซีนให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่จะต้องมีความชัดเจน ไม่ให้มีช่องว่างในการขอลัดคิวหรือวิ่งเต้นขอโควตาได้ ป้องกันการแอบนำไปให้กับ บุคคลกลุ่ม
VIP หรือให้กับกลุ่มที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้มีอำนาจต่างๆ อีก อย่างที่เราเคยได้เห็นในจดหมายขอวัคซีนให้กับกลุ่มตนในทำนองนี้ ไม่อย่างนั้นปัญหาการกระจายวัคซีนอย่างไม่มีประสิทธิภาพก็จะกลับมาเหมือนเดิม และโอกาสในการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสและลดความสูญเสียก็จะหายไปกับความไร้กฎเกณฑ์นี้
ล่าสุด สถานการณ์ในขณะนี้มีคนไทยที่ได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว เพียงประมาณ 20% หลายคนที่ยังไม่ได้ฉีดและยังไม่เห็นอนาคตว่าจะได้ฉีดวัคซีนในวันไหนบางคนที่มีอายุเกิน 60 ปีเคยได้วันนัดแล้ว จากหมอพร้อม หรือ ไทยร่วมใจ ก็ถูกยกเลิกกันไปบ้าง โดยมีคำชี้แจงเพียงว่า ขอหยุดการบริการฉีดวัคซีนจนกว่าจะได้วัคซีนมาแล้วจะแจ้งให้ทราบ ทั้งหมดนี้จึงอธิบายสาเหตุของความสิ้นหวังและเสื่อมความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการของรัฐบาลในขณะนี้ได้อย่างดี
อย่าให้คนไทยต้องสิ้นหวัง หมดศรัทธากับรัฐบาล ถึงขั้นเสนอให้ไปพึ่งดวงชะตา จับลอตเตอรี่ชิงโชคฉีดวัคซีนกันเลยนะครับ
รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค และ ผศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี