อภิปรายในสภารอบนี้ เราเห็นความตกต่ำขีดสุด
สส.เอาเอกสารราชการปลอมมาอภิปรายอย่างหน้าด้าน
สส.เอาคลิปเหตุการณ์ตำรวจทำร้าย กปปส. มาอภิปรายว่าเป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน ด่าว่ารัฐบาลและสื่อรัฐบาลปิดหูปิดตา มั่วสุดติ่งกระดิ่งแมวจริงๆ
สส.จิกหัวด่านายกฯ เอาคำพูดแบบเกรียนคีย์บอร์ดมาอภิปราย เอาคำด่าในโลกออนไลน์มาถ่ายทอด เพื่อความสะใจ หวังเอาใจพวกปั่นกระแส “หิวแสง”ต่ำตมสุดๆ
ไม่มีหลักฐาน ไม่มีใบเสร็จการทุจริต มีแต่การมโนและกล่าวหาแบบเลื่อนลอย
หากเป็นปมการเมือง รัฐบาลก็ชี้แจงไป ถ้าไม่มีปัญหาตอบโต้ก็เสียโง่เอง
แต่ถ้าเป็นปมเกี่ยวกับข้อมูลทางการแพทย์ วัคซีน ความเป็นความตายเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรค ที่จะทำให้สังคมเข้าใจผิด แตกตื่น มีผลกระทบต่อการควบคุมโรคระบาด เรื่องแบบนี้ จะให้นักการเมืองนำไปบิดเบือน ปลุกปั่น โดยไม่รีบชี้แจง ไม่ได้ เพราะจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย
แล้วคนที่จะพูดได้ดีที่สุด รู้จริงที่สุด จะเป็นใคร?
สส.ในสภาเหรอ? ไม่ใช่
มันก็ต้องเป็นบุคลากรการแพทย์ที่ทำงานโดยตรง
1. เพจ Sound of Thailand สะท้อนไว้อย่างชัดเจนเลยว่า
“ประสาทแดกมั้ย กองเชียร์ฝ่ายค้าน
รู้แหละว่าจะแซะคุณหมอที่ออกมาชี้แจงเรื่องโควิดกับเรื่องวัคซีน หลังฝ่ายค้านโจมตี
พอพวกคุณแพ้ด้วยข้อมูล แทนที่จะกลับไปตั้งคำถามกับ สส.พรรค
ที่คุณเชียร์ กลับมาโวยวายฝ่ายข้าราชการประจำว่าทำไมออกมาช่วยรัฐบาลตอบ
ทั้งที่การตอบข้อสงสัยแก่ประชาชน รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องหลังมีคนบิดเบือน นั่นแหละคือสิ่งที่ข้าราชการในกระทรวงควรกระทำ!
ยิ่งเป็นสถานการณ์โควิด จะปล่อยให้ผู้แทนประชาชนบางคน มาพ่นเฟคนิวส์หรือข้อมูลผิดๆ ให้ประชาชนสับสนไม่ได้ มันเป็นอุปสรรคต่อการคุมโรคระบาด
ที่ผ่านมาคนไม่กล้าไปฉีดวัคซีนเพราะเชื่อคำโกหกของฝ่ายคุณมีมากแค่ไหน เคยรับผิดชอบไหม?
แล้วนี่คุณหมอทั้งหลายท่านก็ชี้แจงคู่ขนานจากที่รัฐมนตรีตอบในสภาไปแบบชัดเจนแล้ว แปลกตรงไหน? การทำงานช่วงโควิด ก็ล้วนมีแต่ทีมคุณหมอนี่แหละเป็นพระเอก ส่วนฝ่ายการเมืองเป็นทีมสนับสนุน การวิจารณ์นโยบาย มันก็พาดพิงถึงคนทำงานด้วย
ท่านเองก็เคยเป็นข้าราชการที่เคยช่วยรัฐบาลเพื่อไทยไม่น้อย โดยเฉพาะตอนน้ำท่วมมิใช่หรือ?”
2. ประเด็นด้อยค่าวัคซีนที่ฉีดให้ประชาชน ถึงขนาดด่ากลางสภาว่าโง่
ว่าโกง
หมอได้ทำหน้าที่แถลงข้อมูลต่อสังคมอย่างชัดเจน
เพจ Thailand FACT Today สรุปว่า
“...การอภิปรายไม่ไว้วางใจ กลายเป็นอีเว้นท์ด่า SINOVAC แบบรัวๆ
ด้วยเรื่องเดิมๆ
ทั้งที่ในนั้น ผู้ทรงเกียรติที่อายุน้อยกว่า 60 ปีทั้งหมด ก็ฉีด SINOVAC แล้วก็ยังสุขภาพดีทุกคน บางคง ติดเชื้อ ก็แทบไม่มีอาการ วันนี้หายดี เข้ามาในสภากันแล้ว
หลังฝ่ายค้านถล่มยับ ฝ่ายหมอโอภาส อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงทันที
ระบุว่า “วัคซีน SINOVAC มีการศึกษาประสิทธิภาพจากการใช้จริงไปแล้ว อาทิ จากทีมมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็พบว่า มีประสิทธิภาพสูงมาก ผลการศึกษา กับบุคลากรการแพทย์ ที่จังหวัดเชียงราย ค่าประสิทธิภาพอยู่ที่ 70-80% ก็นับว่าสูง ขอย้ำว่า ไม่มีวัคซีนยี่ห้อไหนที่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% ไปจนถึงป้องกันการเสียชีวิตได้ 100% ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก
ได้ซื้อวัคซีน SINOVAC เพื่อใช้ในโครงการโคแวกซ์ (COVAX) หลายร้อยล้านโดสการมาด้อยค่าวัคซีน จึงไม่ถูกต้อง”
พร้อมย้ำว่า
“วัคซีนทุกชนิด เมื่อมาเจอกับสายพันธุ์เดลต้า ปรากฏว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนทุกชนิดล้วนลดลง ประเทศไทยต้องปรับตัว ใช้สูตรวัคซีน SINOVAC +AstraZeneca ซึ่งทางคณะนักวิชาการจากหลายสถาบันทางการแพทย์ ทั้งศิริราช จุฬาฯ ไปจนถึงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ย้ำว่า วัคซีนสูตรนี้มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย”
ก่อนจะขอร้องบางคน “มาถึงจุดนี้ อย่าด้อยค่าวัคซีนกันเลย เพราะวัคซีนชนิดนี้ ช่วยให้เรามาตั้งแต่ต้นปี ในการควบคุมการระบาด จากนี้ เราจะเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่ประชาชน”
นอกจากนี้
“...ฝ่ายค้านอภิปรายกรณีการฉีดวัคซีนไขว้ ประเด็นหนึ่งที่โจมตีมาก คือสูตรนี้ ยังไม่เคยตีพิมพ์ในนิตยสารระดับโลก แต่ไทยกลับเลือกใช้ หลังการอภิปรายของฝ่ายค้าน ฝ่ายหมอฟอร์มทีมทันที
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า เป็นความจำเป็นที่ต้องมีการอภิปรายซ้ำเพราะมีการตั้งข้อสงสัย แต่ต้องเรียนว่าการระบาดในช่วงแรกจะเป็นสายพันธุ์อู่ฮั่น วัคซีนที่ผลิตทุกชนิดเป็นรุ่นแรกซึ่งมีสารตั้งต้นจากไวรัสดั้งเดิม แต่เมื่อมีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์จี อัลฟ่า และเดลต้า คณะวิชาการที่เกี่ยวข้องไม่นิ่งนอนใจในการนำวัคซีนมาใช้ มีการติดตามภูมิคุ้มกันหลังรับวัคซีนว่าสามารถสู้กับสายพันธุ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้มากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ มีการกล่าวถึงอาจารย์แพทย์หลายท่าน แต่ขอเรียนว่า ทุกท่านมีความเมตตาต่อกระทรวงสาธารณสุข ที่เข้ามาร่วมให้คำแนะนำ บริหารจัดการ ดังนั้น การที่เราจะใช้วัคซีนใด อย่างไร ท่านได้พิจารณาให้ความเห็นมาโดยตลอด
“มีคนบอกว่าเราไขว้สูตรวัคซีนด้วยซิโนแวค และแอสตราฯ เราไม่ได้ตีพิมพ์วิจัยในวารสารวิชาการ ต้องเรียนว่ากรมวิทย์ กำลังส่งตีพิมพ์ แต่งานวิจัยระดับโลกหลังจากที่ได้ผลวิจัยแล้ว กว่าจะส่งให้วารสารตีพิมพ์ จะต้องใช้เวลานาน ขณะที่ รพ.ศิริราช ร่วมกับกรมวิทย์ ได้ทำงานวิจัยออกมา และอยู่ในระหว่างการตีพิมพ์ในวารสารระดับโลกเช่นกัน ดังนั้น สถานการณ์เช่นนี้หากใครก็ตามที่เป็นผู้บริหารรอให้ตีพิมพ์ก่อนจึงมาบริหารจัดการ ถือว่าโง่มาก”
3. ประเด็นที่โจมตีส่วนต่างราคาซิโนแวค กล่าวหารุนแรงถึงขนาดว่ามีเงินทอน มีการทุจริต ค้าความตาย
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ให้ข้อมูลชัดเจนว่า
“เรื่องราคามีการนำเข้า 16 ช่วง ซึ่งจะมีราคาที่แตกต่างกันไปแต่ละช่วงตั้งแต่ 17 เหรียญดอลลาร์ แต่ในเวลาต่อมาเราก็ซื้อในราคาถูกเป็นลำดับ เพราะมีการต่อรองราคา จนมาถึงราคาสุดท้าย 8.9 เหรียญดอลลาร์ เฉลี่ยราคา 11.99 เหรียญดอลลาร์ ส่วนที่มีการอภิปรายว่ามีส่วนต่างจำนวนมาก ของชี้แจงว่า มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างมาก เพราะเราได้ใช้เงินองค์การเภสัชฯ จัดซื้อไปก่อนจำนวนหลายพันล้าน จากนั้นเมื่อได้ของแล้ว ก็กำหนดราคาขาย ซึ่งเราต้องแบกรับอัตราแลกเปลี่ยน ยืนยันว่า ไม่มีส่วนต่าง กรอบการอนุมัติเป็นการขอเผื่อไว้ แต่เมื่อมีการเรียกเก็บก็เก็บราคาตามจริง โดยบวกค่าดำเนินการ ค่าขนส่ง และส่วนต่างที่เหลือไม่มีใครได้แน่นอน 100% ซึ่งงบประมาณตรงนี้กรมควบคุมโรคเป็นผู้ดูแล และมีการเบิกจ่ายตามจริง”
4. ดังนั้น คนที่จะเป็นจะตายกับการที่หมอ ข้าราชการ คนทำงาน ออกมาให้ข้อมูลความจริงต่อประชาชน เกี่ยวกับเรื่องที่ถูกนักการเมืองนำไปอภิปรายในสภา ที่มีการบิดเบือนในสาระสำคัญที่อาจทำให้สังคมสับสน แตกตื่นนำไปสู่ความวุ่นวายต่อการแก้ปัญหาสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19
คนที่จะเป็นจะตายกับการที่สังคมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน ก็คงจะมีแต่พรรคพวกของฝ่ายค้านที่เสพแต่ข่าวเท็จ ข้อมูลปลุกปั่นของ สส.ฝ่ายค้าน
พอถูกแหกด้วยความรู้จริง โดยคนรู้จริง จึงไปไม่เป็น
กลัวสังคมจะรู้ว่าฝ่ายค้านที่บิดเบือนข้อมูลนี่มันโง่จริงๆ หรือมันหน้าด้านปั่นเฟคนิวส์กลางสภาจริงๆ
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี