การบินไทย สายการบินแห่งชาติ ที่อ้างว่านำธุรกิจเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหุ้น แต่กลับถูกแทรกแซงการบริหารงานโดยนักการเมืองในนามของรัฐบาลมาโดยตลอด ดังนั้นผลปรากฏก็คือรายได้ของการบินไทยถูกนักการเมืองจำพวกฉ้อฉลดูดกินเข้ากระเพาะของตนเองตลอดเวลา
มีคนถามว่ารู้ได้อย่างไรว่านักการเมืองจำพวกโกงบ้านกินเมืองเข้าไปโกงกินการบินไทย คำตอบที่สามารถยืนยันคำถามนี้ได้ชัดเจนตรงประเด็นที่สุดคือ ก็ดูจากการแต่งตั้งบอร์ด และการแต่งตั้ง DD การบินไทยที่นักการเมืองส่งเข้าไป (หลายคนวิพากษ์ว่า DD และบอร์ดจากนักการเมืองนั้น ล้วนแล้วแต่บอดทั้งตา ทั้งจิตใจ และไร้สมอง แล้วที่สำคัญคือจริยธรรมบอดสนิท ชนิดที่ว่าไร้จริยธรรมโดยสิ้นเชิง DD บางคนไม่มีความรู้ด้านธุรกิจการบินพาณิชย์เลยแม้แต่น้อย แต่ยังลอยหน้าเข้าไปรับตำแหน่ง DD โดยไร้ยางอาย)
มีคำถามว่ามีอะไรให้โกงกินในการบินไทยมากนักหรือ จึงทำให้นักการเมืองจำพวกโกงต้องหาทางเข้าไปโกงกินการบินไทย คำตอบคือ หาเรื่องเข้าไปโกงได้สารพัดชนิด เริ่มตั้งแต่โกงด้วยการยัดพวกพ้องที่ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพทำงานเข้าไปเป็นพนักงานการบินไทยทุกระดับ ตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับบริหารสูงสุด เมื่อการบินไทย (จำนวนหนึ่งที่มากพอประมาณ) มีพนักงานที่ไร้ประสิทธิภาพเสียแล้ว การบริหารงานในองค์กรจึงล้มเหลวเละเทะ ไม่มีการต่อต้านคัดค้านอิทธิพลเถื่อนของนักการเมืองที่กินตำแหน่งรัฐมนตรีที่เข้าไปควบคุมการบินไทย
และประเด็นสำคัญยิ่งกว่าที่ทำให้การโกงกินในการบินไทยจับตามอง และถูกวิพากษ์มาโดยตลอดคือการสั่งซื้อเครื่องบินที่ไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่สามารถสร้างผลกำไรให้บริษัทได้จริง โดยเป็นคำสั่งจากนักการเมืองที่ตั้งใจโกงการบินไทย
เมื่อพูดถึงการสั่งซื้อเครื่องบินการบินไทยแล้ว คงไม่มีใครถามอีกนะครับว่าการสั่งซื้อแต่ละครั้ง ซื้อกี่ลำ ลำละกี่พันล้านบาท รวมแล้วเป็นเงินกี่หมื่นกี่แสนล้าน แล้วมีเงินใต้โต๊ะจำนวนมหาศาลอีกเพียงใด
ล่าสุดมีข่าวว่า ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) กล่าวถึงประเด็นที่นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงนามอนุมัติซื้อเครื่องบินแบบ A 340-500 จำนวน 4 ลำ และแบบ A 340-600
จำนวน 6 ลำ ให้การบินไทยระหว่างปี 2545-2547 รวมมูลค่า 53,536 ล้านบาท
ซึ่งการอนุมัติจัดซื้อดังกล่าวส่งผลให้การบินไทยต้องแบกรับภาระหนี้สินจำนวนมหาศาลตามมา ทั้งนี้การไต่สวนเรื่องนี้โดย ป.ป.ช. ยังไต่สวนบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอีก 5 ราย ซึ่งรวมถึงบอร์ดการบินด้วย
สรุปเบื้องต้นประเด็นนี้คือ ป.ป.ช. ตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่เพื่อสอบสวนกรณีทักษิณ สุริยะ และพวกอนุมัติจัดซื้อเครื่องบินการบินไทย โดยไม่ก่อให้เกิดผลคุ้มค่าต่อการบินไทย
หากจะย้อนไปอ่านบทสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของการบริหารงานบริษัทการบินไทย และปัญหาการทุจริตภายในการบินไทย ที่ทำโดยคณะทำงานภายใต้การนำของ ชาญเทพ เสสะเวช ในฐานะประธานคณะทำงานเรื่องนี้ มีการระบุว่าจุดเริ่มต้นของปัญหาการขาดทุนของการบินไทยมีสาเหตุมาจากการจัดซื้อเครื่องบินพิสัยไกลพิเศษ รุ่น A 340-500 และ A 340-600 จำนวนทั้งหมดรวม 10 ลำ มูลค่า 53,043.04 ล้านบาท ซึ่งการจัดซื้อดังกล่าวอยู่ภายใต้โครงการจัดหาเครื่องบินตามแผนวิสาหกิจ ระหว่างปี 2546-2547
คนที่ติดตามเรื่องนี้มาอย่างใกล้ชิดล้วนทราบดีว่าเครื่องบินดังกล่าวถูกนำไปใช้บินในเส้นทางบินตรงระหว่าง กรุงเทพ-นิวยอร์ก และกรุงเทพ-ลอสแองเจลิส รวมถึงเส้นทางอื่นๆ ด้วยอีก 51 เส้นทาง โดยบินในช่วงปี 2548-2556 แล้วประสบผลขาดทุนในทุกเส้นทางที่เปิดบิน ตัวเลขขาดทุนไม่น้อยกว่า 39,859.51 ล้านบาท
หากคิดเฉพะเส้นทางกรุงเทพฯ-นิวยอร์ก และกรุงเทพ-ลอสแองเจลิส พบว่าขาดทุน 12,496.55 ล้านบาทสาเหตุหนึ่งของการขาดทุนหนัก เพราะเป็นเครื่องบินแบบพิสัยไกลที่มีสี่เครื่องยนต์ กินน้ำมันเชื้อเพลิงสูงมาก แต่มีที่นั่งผู้โดยสารน้อย และยังพบว่าเครื่องบินที่สั่งซื้อนั้นถูกใช้งานไม่คุ้มค่า เพราะใช้งานเพียง 6-10 ปี ทั้งๆ ที่ต้องใช้งานได้ 20 ปี แต่ที่สำคัญคือเครื่องบินดังกล่าวถูกปลดระวางไปแล้ว ซึ่งถูกจอดทิ้งไว้มานานหลายปี โดยไม่มีใครขอซื้อต่อไปใช้งาน ทำให้การบินไทยต้องขาดทุนเพราะสาเหตุการเสื่อมค่าหรือด้อยค่าของเครื่องบินเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 22,943.97 ล้านบาท
ดังนั้นโดยภาพรวมของการสอบสวนเรื่องนี้โดยละเอียดแล้ว พบว่าการบินไทยขาดทุนเพราะเรื่องนี้เป็นเงินไม่น้อยกว่า 62,803.49 ล้านบาท
ขอย้ำว่านี่คือตัวเลขการขาดทุนของการบินไทยอันมีสาเหตุเนื่องมาจากการสั่งซื้อเครื่องบินทั้งสองแบบโดยการอนุมัติในยุครัฐบาลทักษิณ ซึ่ง สุริยะ รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เรื่องแบบนี้คนที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่างรู้ซึ้งแก่ใจ แต่ก็มีคำถามว่าแล้วทำไมรัฐบาลประยุทธ์จันทร์โอชา ซึ่งรับหน้าที่บริหารประเทศมากว่า 7 ปี จึงไม่เร่งรัดดำเนินการในเรื่องนี้ แล้วเหตุใดยังปล่อยให้สุริยะ เข้าไปเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ด้วย
การทุจริตในการบินไทยมีอีกมากมายก่ายกอง ซึ่งเหตุทุจริตต่างๆ นานานั้นหลายเรื่องมีต้นเหตุสำคัญมาจากการแทรกแซงการทำงานของการบินไทย และมาจากความไม่นำพาของคนภายในการบินไทย โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นผู้บริหารระดับสูงของการบินไทยที่มาจากอิทธิพลของนักการเมือง แล้วเรื่องราวยิ่งหนักเข้าไปใหญ่เมื่อคนการบินไทยเกือบทุกคนก็กลับจงใจปิดปากนิ่ง ไม่กล้าบอกกล่าวกับสังคมในประเด็นการทุจริตภายในการบินไทย
ไม่ใช่แค่เพียงการทุจริตการจัดซื้อเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังมีการทุจริตการจัดซื้ออะไหล่เครื่องบินอีกด้วย คณะทำงานของชาญเทพยังระบุอีกว่าพบการทุจริตการซื้อเครื่องยนต์อะไหล่เครื่องบินรุ่น A 340-500 และ A 340-600 ด้วย วงเงินที่เข้าข่ายทุจริตก้อนนี้ตกประมาณ 3,523 ล้านบาท และมีการระบุด้วยว่าเครื่องยนต์อะไหล่ที่สั่งซื้อมานั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้งานเลยแม้แต่น้อย
นี่คือแค่เพียงปัญหาการทุจริตภายในการบินไทย ที่เป็นเสมือนยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เพราะหากขุดคุ้ยกันจริงๆ จังๆ ก็จะพบเหตุทุจริตอีกมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดซื้อต่างๆ อาทิ ข้าวของเครื่องใช้บนเครื่องบินชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่ง แล้วยังมีคำถามด้วยว่าการ Hedge น้ำมันเชื้อเพลิง (การป้องการความเสี่ยงในการจัดซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน) ของการบินไทยนั้น โปร่งใสจริงหรือ
คนในการบินไทยโดยเฉพาะฝ่ายบินต่างรู้ดีว่ามีความไม่โปร่งใสภายในการบินไทยตลอดเวลา แต่ปัญหาคือไม่มีใครกล้าพูด เพราะอ้างว่ากลัวต้องประสบปัญหา กลัวถูกตั้งกรรมการสอบ เมื่อคนการบินไทยจำนวนไม่น้อยรู้เรื่องเหตุทุจริตในองค์กรเป็นอย่างดี แต่กลัวตัวเองมีภัย จึงเท่ากับว่าคนการบินไทยจำนวนไม่น้อยเห็นไฟกำลังเริ่มไหม้บ้านของตนเอง แต่กลับไม่ช่วยกันดับไฟ สุดท้ายเมื่อไฟไหม้บ้านทั้งหลัง คนการบินไทยก็จึงต้องประสบกับชะตากรรมอย่างที่สาธารณชนเห็นกันอยู่ในขณะนี้ ซึ่งหลายคนก็บอกแบบไร้ความเห็นใจคนการบินไทยที่ต้องตกงานว่า สมน้ำหน้า เพราะไม่ช่วยกันรักษาบ้านของตนเอง
บอกตรงๆ ว่าเรื่องการทุจริตในการบินไทยนั้น คนภายในการบินไทยต่างรู้ต่างเห็น แต่เมื่อเลือกที่จะหุบปาก ก็ช่วยไม่ได้เมื่อการบินไทยต้องประสบชะตากรรมที่เลวร้ายดังปรากฏในปัจจุบัน ซึ่งก็โทษใครไม่ได้ แต่ต้องโทษคนการบินไทยเท่านั้น
ส่วนนักการเมืองที่มารับหน้าที่เป็นรัฐบาลต่อจากยุคทักษิณ ก็ไม่เคยตั้งใจแก้ปัญหาการบินไทยอย่างจริงจัง มิหนำซ้ำ บางรายยังมีพฤติกรรมเลวทรามไม่ต่างไปจากยุครัฐบาลทักษิณ แม้กระทั่งรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารที่พูดพล่ามตลอดเวลาว่าต้องการเข้ามาทำความสะอาด ความสงบ ความปรองดองให้กับบ้านเมือง ก็ไม่เคยตั้งใจแก้ปัญหาทุจริตในการบินไทย
แน่นอนว่าขณะนี้ทักษิณและสุริยะ และพรรคพวกยังคงเป็นผู้บริสุทธิ์ ในคดีการสั่งซื้อเครื่องบินการบินไทย เพราะยังไม่มีคำตัดสินเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามทุจริตของประเทศไทย แต่สิ่งหนึ่งที่สาธาณชนเห็นได้ชัดก็คือ การทุจริตวงเงินมหาศาลในการบินไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมืองจำนวนตั้งใจเข้ามาโกงแผ่นดินอย่างชัดเจน ส่วนคนการบินไทยจะมีส่วนร่วมโกงด้วยมากน้อยเพียงใดนั้น เรื่องนี้คนการบินไทยต้องรู้ตัวเองเป็นอย่างดี เพราะกินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้องเสมอมา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี