คนไทยจำนวนไม่น้อยบ่นและวิพากษ์เชิงตั้งคำถามว่าทุกวันนี้เด็กนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาทุกคนที่ร่ำเรียนอยู่ในเมืองไทยยังคงต้องเรียนวิชาหน้าที่พลเมือง และศีลธรรมหรือไม่ พร้อมกับถามด้วยว่าวิชาทั้งสองนี้ยังถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรหรือไม่
ผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาถามด้วยว่าหนังสือแบบเรียนวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมยังคงมีอยู่เหมือนสมัยก่อน หรือไม่ หรือว่าไม่มีการใช้หนังสือเป็นเล่มๆอีกต่อไปแล้ว
คำถามนี้ถามกันหนาหูมาก แต่ก็ได้คำตอบที่ไม่ค่อยชัดเจนมากนักจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการทุกยุคตั้งแต่ช่วงประมาณ 10-12 ปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งปัจจุบันก็ยังคงไม่ได้ยินเสียงยืนยันอย่างหนักแน่นในเรื่องนี้จากปากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมาจากพรรคแกนนำ
รัฐบาล
แต่สำหรับข้อมูลที่ได้มาจากคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทางสพฐ. ยืนยันว่าทุกวันนี้ยังคงมีหลักสูตรวิชาหน้าที่พลเมือง แต่ไม่ได้กล่าวถึงวิชาศีลธรรม โดยอ้างว่าทุกวันนี้ได้นำวิชาหน้าที่พลเมือง วิชาศาสนา วิชาประวัติศาสตร์ และวิชาเศรษฐศาสตร์ไปรวมไว้ในกลุ่มสาระวิชาสังคมศึกษา
สำหรับวิชาหน้าที่พลเมืองนั้นมีกำหนดในวิชาเรียนและกำหนดในการเรียนภาคปฏิบัติด้วย โดยเรียนเรื่องรัฐธรรมนูญ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
สรุปว่า สพฐ. กระทรวงศึกษาธิการยืนยันว่ามีวิชาหน้าที่พลเมือง แต่ไม่ได้พูดถึงวิชาศีลธรรม แต่อ้างว่ามีวิชาศาสนา ดังนั้นก็จึงตอบคำถามเบื้องต้นสำหรับผู้ที่ถามว่าวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรมยังอยู่ในหลักสูตรการศึกษาหรือไม่
มีคำถามต่อไปว่า ทำไมสาธารณชนกลุ่มหนึ่งจึงส่งเสียงร้องถาม และเสียงเรียกร้องร้องหาวิชาหน้าที่พลเมืองและศีลธรรม
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ผู้เรียกร้อง ร้องหาวิชาดังกล่าวต้องให้เหตุผลต่อสังคมให้ได้ โดยหลายคนบอกว่า การที่เด็กไทยจำนวนมากประพฤติตัวผิดเพี้ยนไปจากทำนองคลองธรรมผิดขนบประเพณีอันดีงามที่มีมาแต่ดั้งแต่เดิม เพราะไม่ได้รับการปลูกฝังอบรมสั่งสอน ไม่ได้รับการศึกษาวิชาหน้าที่พลเมือง และศีลธรรม
นอกจากนี้ยังมีหลายคนตั้งข้อสังเกตเชิงวิพากษ์ด้วยว่าเด็กและเยาวชนไทยยุคหลัง ในช่วงเวลา 20 ปีมานี้ ไม่มีความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย เพราะไม่ได้รับการศึกษาอบรมวิชาประวัติศาสตร์ของไทย และมีข่าวออกมาตั้งแต่ช่วงที่ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะทำรัฐประหารครั้งล่าสุด เมื่อปี 2557 ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีแนวคิดจะนำวิชาหน้าที่พลเมืองกลับมาบรรจุในหลักสูตร แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นเรื่องนี้ปรากฏเป็นรูปธรรม
มีคำถามทิ้งท้ายว่า หากนำวิชาหน้าที่พลเมือง และศีลธรรมกลับมาบรรจุในหลักสูตรจริง จะทำให้เด็กและเยาวชน รวมถึงคนไทยรู้และทำหน้าที่ของตนเองมากขึ้น และมีศีลธรรมประจำใจมากขึ้นกว่าเดิมจริงหรือ เพราะหากเรามีวิชานี้ในหลักสูตร แต่ยังคงปรากฏว่าคนโกงบ้านกินเมืองได้มีอำนาจรัฐคนฉ้อฉลปล้นประเทศซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้เป็นรัฐบาล นักการเมืองจำพวกอันธพาลมาเฟียยังคงได้เป็นรัฐมนตรี แล้วยังพบอีกว่าข้าราชการโกงบ้านกินเมืองยังมีตำแหน่งแห่งที่สูงส่ง แบบนี้จะทำให้ผู้อ่านท่องตำราประพฤติตนกลายเป็นคนดีได้จริงหรือ เพราะในเมื่อความจริงเชิงประจักษ์มันขัดแย้งกับหลักวิชาการอย่างตำตา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี