ในขณะที่สังคมไทยยังหมกมุ่นอยู่กับการฉีดวัคซีนของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งหาสาระแก่นสารอันใดมิได้ และจำนวนมากก็ทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องเชียร์ลุงหรือไล่ลุงจนเป็นความแตกแยกแหลกสลายในทั่วทุกวงการ ทำให้ชาติบ้านเมืองของเราก้าวไกลออกมาจากเกราะวิเศษที่คุ้มครองผองภัย และตกอยู่ในความเสี่ยงยิ่งกว่ายุคเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง
ที่ทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องเชียร์ลุงหรือไล่ลุงนั้น สาเหตุสำคัญเนื่องจากมีการจัดตั้งเครือข่ายปฏิบัติการจิตวิทยาหรือ IOชมฝ่ายตน ด่าว่าฝ่ายอื่นอย่างหยาบคาย และไร้ซึ่งความคิดคำนึงว่าเราทั้งหลายต่างก็มีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน ทำการกันจนกระทั่งบ้านเมืองแตกแหลก หาได้มีความกริ่งเกรงใจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่
ที่ซ้ำร้ายกว่านั้นก็คือมีการแอบอ้างโหนสถาบันมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการฟาดฟันทำลายฝ่ายตรงกันข้ามและปกป้องฝ่ายตน ทั้งโหนทั้งแอบอ้างกันสารพัด ดังนั้นเมื่อวันเวลาผ่านไปไม่กี่ปีผลที่แท้จริงที่เกิดขึ้นก็คือเสียงวิพากษ์วิจารณ์สถาบันมากขึ้น มีการเหยียดหยามมาดร้ายสถาบันมากขึ้นชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ โดยที่พวกโหนแอบอ้างเหล่านั้นมิได้สำนึกรับผิดชอบเลยแม้แต่น้อย
เหตุนี้ความแตกแยกแตกสามัคคีจึงขยายทั่วไปทุกหย่อมหญ้ายิ่งแตกแยกแตกสามัคคีกันเท่าใดต่างก็คิดหาสารพัดวิธีและกโลบายหลอกลวงฉ้อฉลหลากหลายชนิด แม้กระทั่งกล้าคิดกรรมทำชั่วได้สารพัด เพียงหวังแค่ให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
โดยมิได้สำเหนียกว่าถ้าบ้านเมืองพังพินาศไปแล้วหรือตกอยู่ภายใต้การยึดครองของชาติอื่นไปแล้ว ตัวเองและลูกเมียญาติพี่น้องก็ต้องตกเป็นทาสเขา ให้เขาเคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย จึงควรที่คนทั้งหลายที่เกี่ยวข้องจะได้สังวรและสำนึกกันได้แล้ว
ศาสดาของทุกศาสนาล้วนเป็นอันตรายของความแตกแยกแตกสามัคคี ดังนั้นหลักธรรมคำสอนในทุกศาสนาในเรื่องนี้จึงมีอยู่เป็นอย่างเดียวกันคืออบรมสั่งสอนให้ศาสนิกตั้งอยู่ในความสามัคคี เพื่อความสุข ความสงบ และความร่มเย็นของบ้านเมืองและสังคม ซึ่งจะทำให้ศาสนาจำเริญรุ่งเรืองด้วย
คำสอนที่เหมือนกันแทบทุกศาสนาก็คือความสามัคคีนำมาซึ่งประโยชน์และความสุขให้แก่ชนทั้งหลาย
ในพระพุทธศาสนาก็มีมาในพระบาลีว่า สุขา สังฆัสสะสามัคคี ซึ่งแปลโดยอรรถว่าความสามัคคีนำมาซึ่งความสงบสุข
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ต่างชาติเข้ามาล่าอาณานิคมในบ้านเมืองของเรา แม้ว่าพระเจ้าแผ่นดินจะต้องรับพายุใหญ่ลมแรงมากกว่าใคร แต่พระองค์ก็ทรงรำลึกถึงความอยู่รอดของชาติว่าตราบใดที่ประชาชนชาวไทยสามัคคีสมานฉันท์กันแล้วถึงจะถูกข่มเหงยำเกรงสักเพียงใด ประเทศไทยของเราก็จะอยู่รอดปลอดภัย
ดังนั้นเพื่อเตือนใจไทยทั้งผอง พระองค์ท่านจึงโปรดเกล้าฯให้สร้างตราแผ่นดินขึ้นไว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง และเพื่อเป็นฐานแห่งการเตือนสติประชาชาติไทยให้สำนึกสังวรในพระธรรมว่าด้วยความสามัคคีนั้น
ทรงโปรดให้จารข้อความไว้ในตราแผ่นดินเป็นภาษาบาลีว่า สัพเพสัง สังฆภูตานัง สามัคคี วุฑฒิสาธิกา ซึ่งแปลได้โดยอรรถว่าการใหญ่ของแผ่นดินจักสำเร็จได้ด้วยความสามัคคีหรือถ้าในบริบทนี้ก็แปลได้ว่าความสามัคคีคือความอยู่รอดปลอดภัยของประเทศชาติและประชาชน
หลังจากนั้นการทำความเข้าใจและการรณรงค์เพื่อให้ข้าราชการขุนนางและประชาชนชาวไทยได้เข้าใจประโยชน์และเกราะอันศักดิ์สิทธิ์ของความสามัคคีกันอย่างกว้างขวางตั้งแต่วงในราชสำนักไปจนถึงข้าราชการขุนนางในชนบทชายแดน
และด้วยพระบรมราโชบายอันเปี่ยมด้วยพระปัญญาและพระปรีชาสามารถ พระองค์จึงสามารถนำประเทศไทยฟันฝ่าการล่าอาณานิคมได้สำเร็จจนล่วงมาถึงแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 การล่าอาณานิคมหนักหน่วงขึ้น ถึงขนาดมีการแข่งขันแย่งชิงกันล่าคืออังกฤษและฝรั่งเศส อังกฤษล่าประเทศฝั่งตะวันตก ฝรั่งเศสล่าประเทศฝั่งตะวันออก บังอาจถึงขนาดจะผ่าประเทศไทยออกเป็นสองซีกแบ่งปันกันตามอำเภอใจ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ก็ทรงสืบทอดวิเทโศบายสืบมาและทรงต่อยอดจนทำให้ประเทศไทยสามารถเข้าถึงและเท่าทันความเป็นไปในโลก สามารถดำเนินวิเทโศบายผูกมิตรกับมหาอำนาจในยุโรปที่จะทัดทานคัดคานอังกฤษและฝรั่งเศสได้ นั่นคือเยอรมันและรัสเซีย ซึ่งได้ช่วยเหลือปกป้องประเทศไทยอย่างแข็งขันเป็นที่ประจักษ์
เพื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการของโลก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิรูปใหญ่ประเทศไทยชนิดพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินและหนึ่งในนั้นก็คือการปฏิรูปกองทัพ โปรดให้จัดตั้งกองทหารแบบใหม่และตั้งโรงเรียนนายร้อย จปร. ขึ้น
เพื่อเตือนใจนักเรียนนายร้อยทั้งหลายซึ่งจะเติบโตเข้ามารับผิดชอบบ้านเมือง จึงมีการปลูกฝังให้ทุกคนได้เรียนรู้ได้ทราบถึงพระคาถาปกป้องคุ้มครองชาติ คือพระคาถาอันจารจารึกไว้ในตราแผ่นดินนั้น ต่อมาก็มีการนำเอาตราแผ่นดินนี้ทำเป็นลวดลายโลหะประตูโรงเรียนนายร้อย จปร. เพื่อให้นักเรียนนายร้อยทั้งหลายทุกครั้งที่เดินเข้า-ออกโรงเรียนจะได้ปลูกฝังสำนึกถึงความสำคัญของความสามัคคีที่จะปกป้องคุ้มครองชาติบ้านเมือง
มาถึงวันนี้บรรพชนไทยจะเศร้าใจสาปแช่งสักเพียงไหนที่คนบางพวกทำลายเกราะอันศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองแผ่นดิน โดยการสร้างความแตกแยกแตกสามัคคีภายในชาติอันเป็นการเปิดโอกาสให้นักล่าอาณานิคมเข้ามาย่ำยี ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ถือได้ว่าเป็นการขายชาติและทรยศชาติ ซึ่งเสียชาติเกิดด้วย
การล่าอาณานิคมในยุคใหม่กำลังยื่นเงื้อมมืออสูรแผ่ปกคลุมประเทศไทยมาหลายปีแล้ว และปรากฏสัญญาณอันตรายที่ถึงขนาดล้มล้างสถาบันต่างๆ ของประเทศไทย เพื่อทำให้ประเทศไทยตกอยู่ภายใต้อาณานิคมในรูปแบบการปกครองใหม่ คือคณะบุคคลหุ่นเชิดที่เป็นขี้ข้าบริวารรับใช้นักล่าอาณานิคม เหมือนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศในทุกวันนี้
ดังนั้นอันตรายสำคัญที่สุดและร้ายแรงที่สุดของประเทศไทยและคนไทยทุกคนในปัจจุบันนี้จึงไม่ได้อยู่ที่นายธนาธรฉีดวัคซีนช้าหรือเร็ว ไม่ได้อยู่ที่คุณโทนี่จะมีโอกาสกลับบ้านหรือไม่ ไม่ได้อยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งหรือไม่ และไม่ได้อยู่ที่ลุงตู่จะเป็นนายกฯไปอีก 20 ปีหรือไม่ แต่อยู่ที่ประเทศไทยจะรอดจากเงื้อมมือของนักล่าอาณานิคมอย่างไร
ก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตกก็มีไส้ศึกแอบเปิดประตูเมืองให้ข้าศึกจึงเสียกรุงให้แก่ข้าศึกอย่างง่ายดาย และในที่สุดไส้ศึกนั้นก็ถูกพม่าประหารชีวิต เพราะไม่มีคนชาติไหนในโลกจะเชิดชูยกย่องคนขายชาติ
ขณะนี้นอกจากมีการจัดตั้งมวลชนเพื่อให้แตกแยกแตกสามัคคีกันในหลายพื้นที่แล้ว ยังมีการจัดตั้งมวลชนเพื่อมีการเรียกร้องให้มีการแยกดินแดน ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ นักการทูตบางประเทศได้เคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างออกนอกหน้า โดยคนมีอำนาจทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นจนเครือข่ายการจัดตั้งขยายตัวไปอย่างกว้างขวาง
บัดนี้มีสถานการณ์สงครามกลางเมืองอยู่ในพม่า โดยมีมหาอำนาจสองขั้วของโลกต่างสนับสนุนแต่ละฝ่าย โดยที่อีกขั้วหนึ่งจะสนับสนุนได้ก็แต่โดยอาศัยการส่งกำลังบำรุงผ่านไปจากประเทศไทย ดังนั้นประเทศไทยจึงตกเป็นเป้าหมายที่จะถูกใช้เป็นฐานทางทหารในการสนับสนุนการสงครามในพม่า ซึ่งเพียงพื้นที่พม่าก็หนักหนาสาหัสเต็มทีแล้ว
เพราะพม่านั้นมิใช่ชาติโดดเดี่ยวเดียวดาย แต่มีมิตรประเทศร่วมรบชนิดถึงไหนถึงกันถึงสองประเทศคืออิหร่านและเกาหลีเหนือ ที่ต่างถูกแซงก์ชั่นร่วมกันมาถึง 50 ปี และยังมีรัสเซีย จีน สนับสนุนอยู่ข้างหลัง ถึงขั้นมีการส่งกำลังทหารและอาวุธเข้ามาปกป้องพม่าเป็นจำนวนมาก
หากสงครามลามให้ไทยและพม่าทำศึกแก่กัน ในที่สุดก็ต้องเผชิญหน้าเป็นศึกใหญ่กับรัสเซีย จีน อิหร่าน เกาหลีเหนือและพม่า ในขณะที่นักล่าอาณานิคมจะยืนยงองอาจปกป้องประเทศไทยไปได้สักเท่าใด
นอกจากพม่าแล้ว ความขัดแย้งในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ก็ขยายตัวลุกลามเชื่อมโยงกับอีกหลายสมรภูมิของโลกกลายเป็นเหตุการณ์ภายนอกประดังสมทบกับเหตุการณ์ภายใน จึงก่อเป็นสาเหตุแห่งภัยอันตรายครั้งใหญ่ครั้งใหม่ที่คนไทยทุกคนจะต้องทำความเข้าใจและร่วมกันป้องกันแก้ไขให้ทันท่วงที
ประเทศจะปลอดภัย คนไทยจะเป็นสุข ก็แต่โดยความสามัคคีปรองดองภายในชาติเป็นรากฐาน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี