นับแต่เกิดความขัดแย้งกัน ถึงขั้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ยิ่งนับวันยิ่งห่างไกล และอาจเป็นทั้ง “พิษและภัย” ทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ด้วย
1) “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” สส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมสส.และสมาชิกพรรค ลงพื้นที่ชุมชนการเคหะท่าเรือคลองเตย เป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกหลังย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อมอบถุงยังชีพ ประชาชนในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 โดยมี ดิว-อริสรา ทองบริสุทธิ์ ดารานักแสดง ร่วมลงพื้นที่ และมีการคาดการณ์ว่า ดิว-อริสรา อาจจะมาทำหน้าที่เป็นโฆษกพรรคเศรษฐกิจไทย ในอนาคต
2) “ร.อ.ธรรมนัส” กล่าวถึงความชัดเจนในการขับเคลื่อนพรรคเศรษฐกิจไทย ว่า จัดประชุมใหญ่ช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคโดยตอนนี้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้เป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรค
3) “ร.อ.ธรรมนัส” ยังกล่าวถึงการส่งผู้สมัคร สส. จะส่งครบทั้ง 400 เขต และจะเน้นคัดเลือกผู้สมัครที่สังคมแต่ละจังหวัดให้การยอมรับ และต้องเป็นคนที่อยากเป็นผู้แทนของราษฎร ส่วนคาดหวังว่าจะได้กี่เก้าอี้นั้น ตนเองมั่นใจว่า สส.ทั้ง 18 คนเป็น สส.น้ำดี และจะได้กลับมาเป็นผู้แทนราษฎรครบทุกคน ส่วนพื้นที่อื่น เราก็คาดว่าจะชนะการเลือกตั้งได้มากพอสมควร
4) ขณะที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมีความพร้อมจะเปิดตัว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเสนอใคร ซึ่งเคยบอกสเปกไปแล้วว่า จะต้องมีเคมีที่เข้ากันกับตนเองได้ และจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อปากท้องของประชาชนได้
5) “ร.อ.ธรรมนัส” กล่าวถึงจุดยืน ทำงานของพรรคเศรษฐกิจไทยว่า เป็นพรรคอิสระที่ไม่ได้ขึ้นตรงกับรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ลงมติต่างๆ เราจะยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก สิ่งไหนที่รัฐบาลเสนอและเป็นประโยชน์ เราก็พร้อมสนับสนุน แต่เรื่องไหนที่ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนเราไม่เห็นด้วย
ส่วนอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสมัยประชุมหน้า ยังยืนอยู่ข้างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหรือไม่ “ร.อ.ธรรมนัส” กล่าวว่า เราประกาศชัดเจนว่าเราจะยืนอยู่ฝ่ายประชาชน หากรัฐมนตรีคนใดที่ถูกอภิปราย และมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าทำให้บ้านเมืองเสียหาย เราโหวตสวนแน่นอน เพราะไม่เห็นด้วยที่จะให้ทำหน้าที่ต่อ ดังนั้นจะพิจารณาเป็นรายกรณีไป
6) ขณะที่ ตัวเลข 260 เสียง ที่จะหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รวมพรรคเศรษฐกิจไทยใช่หรือไม่ “ร.อ.ธรรมนัส”
ระบุว่า 260 เสียง ฝันไปหรือเปล่า ผมไม่ได้ว่าใคร แต่เอาตัวเลขมาจากไหน ใครๆ ก็นับมือได้ แต่ไม่มีพรรคเศรษฐกิจไทยอยู่ในนั้นแน่นอน
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ออกมาจากพรรคพลังประชารัฐก็ยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงไม่ค่อยได้คุยกับใครด้วย เพราะเดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดตลอด
ส่วนการที่ย้ายออกมาอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ตกที่นั่งลำบาก ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนไม่ค่อยได้ใส่ใจ มองเพียงว่ารัฐบาล ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า และไม่สามารถตอบได้ว่ารัฐบาลจะอยู่ยาวถึงปีหน้าหรือไม่ เพราะในทางการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน
7) นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ถึงโควตารัฐมนตรีของพรรคในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะต้องได้หรือไม่ ว่า “ไม่เอา เราไม่เอาตำแหน่งอะไรทั้งนั้นไม่ได้ใส่ใจเรื่องตำแหน่งหน้าที่ในคณะ ครม.ชุดนี้”
เมื่อถามว่ามีโอกาสจะรับตำแหน่งใน ครม.ชุดหน้าหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าค่อยว่ากัน แต่ในรัฐบาลชุดนี้ “ไม่”
เมื่อถามว่าถ้ารัฐบาลต่อไปยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะพิจารณาหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า “พรรคผมก็ต้องเสนอของผมเป็นนายกฯ สิครับ พรรคเศรษฐกิจไทย ก็ต้องเสนอพรรคเศรษฐกิจไทย จะเป็นใครเดี๋ยวค่อยดูอีกที”
8) ต่อมานักข่าวได้พบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส
พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งระบุเสียงที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่ามี 260 เสียงที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ไม่ได้ร่วมเสียงพรรคเศรษฐกิจไทย พล.อ.ประวิตร ย้อนถามว่า ตอนที่นายอนุทิน พูดเขารวมพรรคเศรษฐกิจไทยด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส บอกว่าจะไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขายังสนับสนุนเหมือนเดิม แต่ที่ไปถามว่า 260 เสียงนั้น นายอนุทิน พูดรวมถึงพรรคเศรษฐกิจไทยหรือไม่
เมื่อถามว่าหากถึงเวลาต้องโหวตคิดว่าพรรคเศรษฐกิจไทยยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ยังสนับสนุน แต่ก็ให้เขาเป็นอิสระ
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส ระบุพร้อมที่จะโหวตสวนกับอะไรที่ทำให้เกิดการเสียหาย พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “อ่อ ถ้าทำเสียหายก็ทำเสียหายสิ แต่เขาสนับสนุน”
เมื่อถามว่าสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัส พูดดูเหมือนย้อนแย้ง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า สื่อคิดไปเอง
เมื่อถามว่าการที่พรรคเศรษฐกิจไทยจะเปิดชื่อแคนดิเดต นายกฯ จะมีชื่อพล.อ.ประวิตรหรือไม่ ทาง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ไม่มีอยู่แล้ว ไม่มีชื่อผมอยู่แล้ว”
9) ครั้นนักข่าวได้เจอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ผู้สื่อข่าวก็ถามถึงกรณีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประกาศไม่ขอรับตำแหน่งใน ครม. กับรัฐบาลชุดนี้ แม้มี สส.ในมือแสดงว่าหลังจากนี้จะไม่มีการปรับครม.แล้วใช่หรือไม่โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “ใครจะปรับเหรอ คุณจะปรับเหรอ ไม่ได้ปรับอะไร
ทั้งนั้น”
เมื่อถามว่า สบายใจหรือไม่ที่ร.อ.ธรรมนัส ประกาศเช่นนี้พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า
“ไม่ตอบ”ก่อนเดินขึ้นไปยังห้องทำงาน บนตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที
วิเคราะห์ :
1.พูดกันตามตรง ขณะนี้ผู้กองธรรมนัสเปรียบเหมือน “อนุมูลอิสระ” ในร่างการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ เรียบร้อยแล้ว แม้ยังไม่มากพอที่จะสำแดงพิษ แต่ก็บั่นทอนให้สุขภาพทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ อ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะ “สุขภาพใจ”
2.สุขภาพการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่แข็งแรงแล้ว แม้ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล จะแมะข้อมือ พร้อมโชว์ตำราว่านยา 260 หัว ก็ใช่ว่าจะชัวร์หมดทั้ง 260 เพราะการเมืองที่ไม่มีอะไรมั่นคง ไม่ลงตัว ไม่สมประโยชน์ โอกาสเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ทุกวินาที ก็ดูพลพรรคของหมอหนูเองซี วันดีคืนดีก็ไม่เข้าร่วมประชุม ครม. วันดีคืนดีก็บอกว่า หากกฎหมายกัญชงกัญชาไม่ผ่าน ก็จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ประสาอะไรกับอีกร้อยกว่าเสียงที่ไม่ได้อยู่คอนโทรล จะไม่เล่นแง่ ต่อรอง
3.ลุงป้อมก็ไม่กอดประคองน้องรักเต็มแขนเหมือนเดิมแล้ว เห็นได้จากการปล่อยผู้กองธรรมนัสออกไปให้เป็น “อิสระ” แม้พูดกี่ครั้งก็พูดว่า เขาอยู่ฝ่ายรัฐบาล แต่มันก็ไม่สอดรับร้อยเปอร์เซ็นต์กับท่าทีและคำพูดของผู้กอง จนเกิดสมการ “ตัดกลุ่มธรรมนัส” ออกไปก่อน ไม่ต้องนับรวม
4.จึงน่าสนใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะคุมสถานการณ์ทางการเมืองได้อย่างไร เต็มที่ก็คือ เข้าไปคุมพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังมี “กลุ่มสามมิตร” เป็นกำลังพลหลัก บวกกับกลุ่มที่ไม่ต้องจัดการอะไรมาก อย่างกลุ่มของ สุชาติ
ชมกลิ่น สันติ พร้อมพัฒน์ และชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์
5.แต่พลังประชารัฐพรรคเดียว ก็ไม่อาจประคอง พล.อ.ประยุทธ์ให้มั่นคงได้ในการเมืองสมัยนี้ และไม่อาจส่งขึ้นเก้าอี้นายกฯ ได้ในสมัยหน้าด้วย การเดินต่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงดูสลัวและอึมครึมยิ่ง
6.ช่วงนี้สบายหน่อย ที่ปิดสมัยประชุมสภา มีเวลาจัดการกับปัญหาโรคระบาด ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และเป็นช่วง “ทายา” สมานแผลทางการเมือง แต่เปิดประชุมสภาปลายเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ชะตาชีวิตทางการเมืองของท่านจะเป็นอย่างไร แน่นอน ท่านถือไม้ตาย“ยุบสภา” ไว้ในมือ ฝ่ายค้านคงไม่เร่งรีบเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนได้กฎหมายลูก 2 ฉบับ ที่จะทำให้การเลือกตั้งใหม่ด้วยบัตรสองใบราบรื่น คาดการณ์ว่า กฎหมายจะเสร็จสมบูรณ์ก็ปลายเดือนกรกฎาคม เข้าเดือนสิงหาคมก็มีปัญหาเรื่องการตีความอายุ 8 ปี ของการเป็นนายกฯแม้ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์จะห้อย “หลวงพ่อรอด” ทางกฎหมายเสมอมาตั้งแต่ความเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ และการถวายสัตย์ปฏิญาณที่ไม่ตรงกับรัฐธรรมนูญกำหนด ต้องดูว่าคราวนี้ท่านจะรอดอีกคราวหรือไม่ และรอดไปด้วยเหตุผลใด
7.พ้นสิงหาคมแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงของการทำ พ.ร.บ.งบประมาณ ไม่น่าจะมีพรรคใด อยากให้มีการยุบสภาในช่วงเวลาดังกล่าวแน่ เพราะกระทบต่อภาพรวมทั้งประเทศ หากรอจนทำงบประมาณเสร็จ ก็เข้าสู่การเป็นเจ้าภาพเอเปกพอดี เลยจากนั้นก็สิ้นปี และเหลือ 3 เดือนสุดท้ายก่อนครบเทอม จะยุบหรือไม่ยุบ คงได้รู้กัน
สำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินหน้าการเมืองต่อหรือไม่
และใครจะลงมือหามแห่ให้ท่าน
ในสไตล์การทำงานที่ท่าน “มึนตึง” กับนักการเมืองและพรรคการเมืองเสมอมา
ในเวลาที่กระแสนิยมของท่านทรงกับทรุด
และท่านก็มิได้เป็นศูนย์รวมใจแบบ “เลือกความสงบ จบที่ลุงตู่” อีกต่อไปแล้ว!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี