มีกระแสข่าวมานานแล้วว่า คณะผู้บริหารในรัฐบาลประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนส่วนใหญ่ เป็นอเมริกัน ตลอดถึงผู้นำในกองทัพยูเครน 80% อยู่ใต้บังคับบัญชาของทหารอเมริกัน
ยูเครน เป็นประเทศที่ยอมรับ ผู้ถือสองสัญชาติและอนุญาตให้เป็นผู้บริหารหรือรับราชการระดับสูงได้
ตัวอย่างที่ชัดเจน เช่น รัฐมนตรีสาธารณสุขหญิงของยูเครน เธอเกิดที่สหรัฐอเมริกา ก่อนปี 2556 เธอเป็นแพทย์ทั่วไปชาวอเมริกัน เธอเดินทางไปยูเครนในปี 2557 แปลงสัญชาติเป็นยูเครนในปี 2558 และได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขในปี 2559 ในปี 2562 เซเลนสกีแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข
เพราะมีคนถือสัญชาติอเมริกัน เป็นผู้บริหารระดับสูง อยู่ในยูเครนนี้เองจึงไม่แปลกใจว่าทำไมรัฐบาลนายโจ ไบเดนถึงได้ดิ้นพล่านเมื่อประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียลงนามรับรองโดเนตสก์กับลูฮันสก์เป็นรัฐอิสระ
ตั้งแต่นาทีแรก ที่รัสเซียรับรองสองรัฐอิสระ นายไบเดน คว่ำบาตรรัสเซียทันทีก่อนที่นายปูตินจะประกาศส่งทหารเข้าไปปฏิบัติการเพื่อสันติภาพและความมั่นคงปลอดภัยในสองรัฐอิสระที่เพิ่งรับรองด้วยซ้ำ
และเรื่องที่สหรัฐไปตั้งรัฐบาลลูกนอกไส้ไว้ในยูเครนก็มีความชัดเจนขึ้นเมื่อรัฐสภาสหรัฐฯเปิดเวทีให้นายเซเลนสกีวีดีโอคอนเฟอเรนซ์เข้ามาด่าประณามรัสเซียและเรียกร้องให้สหรัฐผลักดันนาโตให้ประกาศปิดน่านฟ้าห้ามบินผ่านประเทศยูเครน (No fly zone) และถ้าทำไม่ได้ขอให้สหรัฐติดตั้ง S-300 (ระบอบต่อต้านตอบโต้ขีปนาวุธ) ในยูเครน และขอให้รัฐสภาสหรัฐช่วยผลักดันให้นายไบเดน ส่งเครื่องบินรบไปให้ยูเครนต่อสู้กับสิ่งที่นายเซเลนสกีเรียกว่าผู้ก่อการร้ายรัสเซีย
ก่อนฉายวีดีโอ คำปราศรัยของนายเซเลนสกี นางแนนซี่ เพโลซี ประธานสภาฯได้กล่าวแนะนำในที่ประชุมว่า สมาชิกในที่นี้จะได้พบกับวีรบุรุษผู้รักชาติ ที่กล้าหาญต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวกับผู้รุกรานจากประเทศใหญ่ที่สมรรถภาพในการรบเหนือกว่าหลายเท่าซึ่งเราจำเป็นต้องช่วยผู้กล้าหาญประธานาธิบดีเซเลนสกีแห่งยูเครน
นายเซเลนสกี เมื่อได้รับการยกหู ชูหางจากแม่ยก ซึ่งเป็นถึงประธานสภาสหรัฐก็แสดงวาทกรรมที่ก๊อบปี้มาจากนักวรรณกรรมผู้ยิ่งใหญ่ เหมือนกับตัวตลกการเมืองในประเทศไทย ที่ตอนเปิดตัวใหม่ๆ ก็ก๊อบปี้วลีเด็ดของท่านเสนีย์ เสาวพงศ์ จากหนังสือ “ปีศาจ” มาใช้ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจว่าคำพูดเหล่านั้นกลั่นจากสมองของหัวหน้าและเลขาฯพรรคอนาคตใหม่
แต่ตลกระดับโลกอย่างนายเซเลนสกี ต้องเหนือชั้นกว่าเช่นเมื่อคราวีดีโอคอนเฟอเรนซ์เข้าไปในสภาอังกฤษ นายเซเลนสกีก๊อบปี้คำพูดของ วินสตัน เซอร์ชิล และก๊อบปี้วลีเด็ดจากเชคสเปียร์ ให้ สส.อังกฤษนั่งฟังปากอ้าตาค้างแล้วลุกขึ้นปรบมือให้โดยไม่อายวิญญาณเชอร์ชิลและเชคสเปียร์
การปราศรัยให้รัฐสภาสหรัฐฟังเมื่อคืนวันที่ 17 มี.ค. (เวลาประเทศไทย) นายเซเลนสกีเปิดฉากด้วยคำพูดว่า “ทักทายจากยูเครนประเทศที่ถูกผู้ก่อการร้ายรัสเซียยิงจรวดทิ้งระเบิดใส่คล้ายกับสายฝน...แล้ว เขาก็ขอบคุณสหรัฐอเมริกาที่อุปถัมภ์ค้ำชูเลี้ยงดูกันอย่างดีตลอดมาแล้วพล่ามต่อไปว่า
“พวกท่านยังระลึกถึงเหตุการณ์ที่เพิร์ล ฮาร์เบอร์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 1941 ได้ไหม วันนั้นท้องฟ้าเหนือเพิร์ล ฮาร์เบอร์ดำมืดเพราะฝูงบินของศัตรูทิ้งระเบิดทำลาย...” ถึงตอนนี้คนอเมริกันที่ฟังอยู่คงรำพึงในใจว่า “รื้อขอนหาตะเข็บขึ้นมาอีกทำไม ในเมื่อเวลานี้อเมริกาหามิตรประเทศได้ยากขึ้นทุกวัน
ทางเอเชียก็เห็นมีแต่ญี่ปุ่นกับสิงคโปร์ที่ยังพอคบได้แล้วดันพูดถึงเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ที่หน่วยกามิกาเช่ของญี่ปุ่นถล่มทหารอเมริกันทำไม...”
นายเซเลนสกี ยังไม่สำเหนียกพล่ามต่อไปถึงเหตุการณ์ 11 ก.ย.2543 หรือ 9/11 ว่า “มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายเมื่อปีศาจพยายามทำให้เมืองที่มีอิสรภาพเสรีภาพ กลายเป็นสนามรบเมื่อประชาชนถูกโจมตีทางอากาศ...”
“เหตุการณ์ในวันนั้นก็เหมือนกับประเทศของเราวันนี้ ประชาชนของเราในประเทศยูเครนที่ถูกโจมตีทางอากาศและขีปนาวุธทั้งวันทั้งคืนมากว่าสามอาทิตย์แล้ว การโจมตีทางอากาศของรัสเซียทำให้มีพลเรือนตายเป็นหมื่นคน...”
เซเลนสกีพล่ามต่อไปให้รัฐสภาสหรัฐฟังว่า..“เราจึงมีคำถามไปทั่วโลกว่า ช่วยปกป้องชีวิตชาวยูเครนได้ไหม..เรา
ขอให้ท่านปิดน่านยูเครน (No fly zone) เราขอมากไปไหม? หากท่านทำไม่ได้เราขอเสนอทางเลือกใหม่ให้ท่านคือติดตั้ง S-300 (ระบบต่อต้านตอบโต้ขีปนาวุธและอากาศยาน) ให้พร้อมทั้งส่งเครื่องบินรบไปให้เราต่อสู้กับรัสเซีย เพื่อป้องกันชีวิตชาวยูเครน..
..ท่านจัดหา S-300 กับเครื่องบินรบให้เราเท่ากับท่านปกป้องยูเครนและยุโรป เมื่อรัสเซียทำลายยูเครนได้ยุโรปก็
เป้าหมายที่ถูกทำลาย..
คำพูดที่เหมือนจงใจจะลากยุโรปและอเมริกาเข้าสู่สงครามกับรัสเซีย ซึ่งอาจบานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
คำขอของลูกนอกไส้ ยังไม่มีคำตอบจากนายไบเดน ส่วนเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวผู้ไม่ประสงค์ออกนามบอกกับสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็นว่า “สหรัฐกระตือรือร้นในการช่วยเหลือยูเครนโดยการส่งอาวุธและปัจจัยไปให้ วันนี้ ปธน.ไบเดน ลงนามในความช่วยเหลือยูเครนเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งพันล้านดอลลาร์ ส่วนเรื่องเครื่องบินรบนั้นวอชิงตันยังยืนท่าทีเดิมคือไม่ส่งไปให้..เพราะอาจเป็นเงื่อนไขให้เผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย”
คำพูดของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ซึ่งก็ตรงกับการสำรวจล่าสุดของพิว (Pew) พบว่า 63% ของผู้ตอบคำถาม 10,400 คน ชาวอเมริกันที่บรรลุนิติภาวะตอบว่า “คัดค้านการทำสงครามกับรัสเซียของอเมริกา” แต่อีกด้านหนึ่งของการสำรวจพบว่าชาวอเมริกันถึง 85% สนับสนุนให้นายไบเดนส่งอาวุธและปัจจัยต่างๆ ไปให้ยูเครนสู้รบกับรัสเซีย
ส่วนเรื่องห้ามบินเหนือน่านยูเครนนั้น นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป ย้ำว่า อียูไม่ได้กำลังทำสงครามกับรัสเซีย พร้อมแนะนำบรรดาชาติตะวันตก ไม่ควร
เข้าไปพัวพันในความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับยูเครน การเผชิญหน้าใดๆ ระหว่างรัสเซียกับนาโต อาจไม่ต่างอะไรจากสงครามโลกครั้งที่ 3
ซึ่งประเทศยุโรปส่วนใหญ่เห็นด้วยกับชาร์ลส์ มิเชล ที่ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรงเช่นการประกาศห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน ถ้าประกาศ No fly zone อาจต้องเผชิญหน้ากับรัสเซีย
และรัสเซียก็ประกาศตั้งแต่ต้นว่ามีเป้าหมายทำลายกองทัพยูเครนเท่านั้น ไม่ได้มีเป้าหมายทำร้ายประชาชน และจรวดนำวิถีของรัสเซียมีความแม่นยำสูง ตั้งแต่ 10 วันแรกของสงครามรัสเซียสามารถทำลายจุดยุทธศาสตร์ทางทหารยูเครนได้ทั้งหมด ทำให้กองทัพนาซีใหม่ที่อเมริกันก่อตั้งไว้หนีตายและใช้พลเรือนเป็นเกราะกำบัง
อาทิ อาคารที่พักอาศัยโรงเรียน โรงพยาบาลที่พลเรือนอพยพออกไปแล้วทิ้งร้างเอาไว้ กองทัพนาซีใหม่ก็ฉวยโอกาสใช้สถานที่ร้างเหล่านั้นหลบซ่อนตัว
เมื่อทหารรัสเซีย ยิงจรวดทำลายนายเซเลนสกีก็ออกข่าวโพนทะนาว่ารัสเซียถล่มโรงเรียน โรงพยาบาลและ
บ้านเรือนประชาชน
นายเซเลนสกี คงมัวแต่คิดมุขตลกจนลืมไปว่าปูตินคือเคจีบีคนสำคัญท่านถึงได้พูดว่า “ผมรู้นะว่านายเซเลนสกีหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน แต่ไม่ต้องการฆ่าเขาให้ตาย รัสเซียอยากให้ยุติความรุนแรงโดยการเจรจา”
ดังนั้น การพล่ามขอโน้นนี้นั้น จากอียูจากอเมริกา พวกเจ้านายเหล่านั้น ก็ช่วยเท่าที่ทำได้ เช่น คว่ำบาตร ตัดเส้นทางธุรกรรมทางการเงินกับนานาชาติ แต่จะให้ถลำลึกเข้าไปร่วมสงครามคงเป็นไปไม่ได้
เฟซบุ๊คของคุณ Siriwan Hanpaiboon เขียนว่า 80% ของคณะบริหารในรัฐบาลเซเลนสกีเป็นอเมริกันแปลงสัญชาติ ส่วนเซเลนสกีเป็นยิวที่ทรัพย์สินส่วนใหญ่ซ่อนอยู่ในอเมริกา..ตอนหนึ่งเขียนว่า
...“วงในการตัดสินใจหลักของประธานาธิบดี Zelensky แห่งยูเครนนั้นจริงๆ แล้วมีพื้นฐานมาจากกลุ่มเพื่อนของเขาตอนที่เขาเป็นนักแสดง
1.Andre Yemark เสนาธิการทำเนียบประธานาธิบดี Andre Yemark เป็นโปรดิวเซอร์ตลก
2.อังเดร บดินทร์ หัวหน้าฝ่ายบริหารประธานาธิบดี เป็นทนายความในวงการบันเทิง
3.หัวหน้าที่ปรึกษานโยบายของประธานาธิบดี Sergey Sheffey เป็นนักเขียนบทตลก
4.อีวาน บาคานอฟ รองประธานหน่วยข่าวกรองสูงสุดแห่งยูเครน เป็นหัวหน้าบริษัทภาพยนตร์ตลก
5.ที่ปรึกษาอาวุโสของคณะกรรมการป้องกันประเทศยูเครน Sergei Sivoko ยังเป็นนักแสดงตลกและเป็น
หุ้นส่วนของ Zelensky ในการแสดง
หากคุณเพียงแค่ดูประวัติย่อของพวกเขา คุณไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นบริษัทภาพยนตร์และโทรทัศน์หรือหน่วยงานที่มีอำนาจตัดสินใจของประเทศ
เหตุใดยูเครน จึงเพิกเฉยต่อความสัมพันธ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ของมหาอำนาจสำคัญๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา? ดูเหมือนว่าความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและการพัฒนาประเทศไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมืองเหล่านี้ เพราะจริงๆ แล้วพวกเขาไม่ใช่ชาวยูเครน
เนื่องจากยูเครนยอมรับสองสัญชาติ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล 80% เป็นชาวอเมริกัน และ 90% ของความมั่งคั่งและคนรวยอยู่ในลอนดอนหรือสวิตเซอร์แลนด์
รัฐมนตรีสาธารณสุขหญิงของยูเครน เป็นตัวอย่างที่ธรรมดาที่สุด
■ เลขาธิการกระทรวงการคลังเป็นชาวอเมริกัน
■ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นชาวจอร์เจีย
■ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจเป็นชาวลิทัวเนีย
■ อดีตประธานาธิบดีแห่งจอร์เจียเป็นผู้ว่าการออแดซา
■ ประธานาธิบดีคนสุดท้ายคือ Petro Poroshenko เป็นผู้ให้ข้อมูลของ CIA
สำหรับกองทหารระดับรากหญ้า ผู้บัญชาการแนวหน้าจำนวนมากเป็นชาวอเมริกันและได้เข้าร่วมกับยูเครนในช่วง
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในแง่ของสถิติเชิงปริมาณ ตัวชี้วัดจะเป็นดังนี้:
■ 80% ของเจ้าหน้าที่อาวุโสถือสัญชาติอเมริกัน (การถือสองสัญชาติถูกต้องตามกฎหมาย)
■ 90% ของความมั่งคั่งของคนรวยอยู่ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
■ Zelensky ไม่ใช่ชาวรัสเซียหรือชาวโปแลนด์ แต่เป็นชาวยิว และเขายังมีคฤหาสน์และทรัพย์สินมหาศาลในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
มีความหวังสำหรับคนธรรมดาในประเทศดังกล่าวหรือไม่?
เมื่อสงครามมาถึงใครจะคิดเกี่ยวกับดินแดนแห่งนี้จากมุมมองของประเทศและประเทศชาติ?
ดังนั้นเป้าหมายสูงสุดของผู้คนจำนวนมากที่มีสัญชาติอเมริกันและยุโรปตะวันตกแทรกซึมยูเครนคืออะไร?
รัฐบาลยูเครนเป็นรัฐบาลที่มีเสียงดังในนามของรัฐยูเครนและชาวยูเครนหรือไม่
นี่คือเหตุผลใหญ่ว่าทำไมวอชิงตันจึงเดือดร้อนเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อรัสเซียมีเป้าหมายทำลายกองทัพยูเครน
แต่สหรัฐฯก็ช่วยได้เพียงน้ำลายคือออกข่าวใส่ร้ายรัสเซียต่างๆ นานา และยังส่งอาวุธไปให้กองกำลังเถื่อนที่จัดตั้งไว้ ตราบใดที่ทหารรับจ้างเหล่านั้นยังก่อกวนกองทัพรัสเซียได้ หากไปต่อไม่ไหววอชิงตันก็ปล่อยให้หนีตายเหมือนในอัฟกานิสถาน
จึงทำนายว่า ในไม่ช้านายเซเลนสกีและสหายก็ต้องหนีตายเหมือน นายอัชราฟ ฆานี ประธานาธิบดีชาวอัฟกันที่วอชิงตัน อิมพอร์ต จากสหรัฐอเมริกามาเป็นรัฐบาลหุ่นเชิด
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี