เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา แสดงความยินดีกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องชาวกรุงเทพมหานครเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
“นายกรัฐมนตรียืนยัน รัฐบาลพร้อมร่วมทำงานกับนายชัชชาติ และทีมงานทุกคน เพื่อขับเคลื่อน และพัฒนา อะไรที่เป็นผลดี มีประโยชน์ต่อชาวกรุงเทพมหานคร รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ตามที่รัฐบาลเองก็มีนโยบายชัดเจนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป นายกรัฐมนตรี ย้ำ ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ว่าราชการ กทม. มาจากพรรคการเมืองไหน ตนเองในฐานะนายกรัฐมนตรี พร้อมทำงานร่วมกับทุกคนยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ธนกร วังบุญคงชนะ เปิดเผย
1. ที่ผ่านมา งานพัฒนามากมายเกิดขึ้นในพื้นที่ กทม. เป็นโครงการที่ทำให้ กทม.น่าอยู่ในระยะยาว เช่น เอาสายไฟฟ้าลงดิน พัฒนาคลองต่างๆ บ้านที่มั่นคงปลอดภัยริมคลอง สวนสาธารณะพื้นที่สีเขียว โครงข่ายระบบรางรถไฟฟ้า ฯลฯ บางโครงการเสร็จแล้ว บางโครงการกำลังจะเปิดให้บริการในอีกไม่กี่เดือน และอีกหลายโครงการจะทยอยเสร็จในอีกไม่กี่ปี
งานเกือบทั้งหมด สำเร็จได้ เพราะการสนับสนุนจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
2. โครงการพัฒนาทั้งหลาย จะราบรื่นหรือไม่ จึงขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่าย คือ ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ นายชัชชาติ และรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ในทางกฎหมาย ผู้ว่าฯกทม. อยู่ใต้บังคับบัญชาของกระทรวงมหาดไทยโดยตรง
อะไรที่รัฐบาลเห็นว่าเป็นนโยบายที่ดี มีโครงการลงไปให้ กทม.ดำเนินการ แล้วผู้ว่าฯกทม.ขัดขืน เตะถ่วง เกียร์ว่าง ฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ถูกลงโทษได้ ถูกปลดได้
ตรงกันข้าม หากเป็นเรื่องไม่ดี ถ้าในอนาคต รัฐบาลสั่งให้ผู้ว่าฯกทม.ทำความเสียหาย ทุจริตประพฤติมิชอบ ผู้ว่าฯกทม.จำยอมฝืนทำตามไป เหมือนสมัยโครงการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง อดีตผู้ว่าฯ อภิรักษ์ เข้ามาดำเนินการทีหลัง สุดท้าย ระดับรัฐมนตรีในรัฐบาลที่กำกับดูแลก็มีความผิด ส่วนอดีตผู้ว่าอภิรักษ์สุจริตย่อมเป็นเครื่องคุ้มกัน ศาลยกฟ้อง ยืนยันความบริสุทธิ์
3. เรื่องใด ที่เป็นโครงการดี ประเทศชาติ และชาว กทม.ได้ประโยชน์จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่เดินต่อ
แต่โครงการใดหากมีทุจริต ก็เป็นเรื่องที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่สามารถตรวจสอบกลั่นกรอง ตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม โดยไม่กลั่นแกล้งใครให้ได้รับความเสียหาย ก็เป็นเรื่องที่พึงกระทำ
4. นอกจากนี้ โครงการใหม่ที่ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ประกาศเป็นนโยบายไว้ 200 กว่าข้อ ก็มีทั้งเรื่องที่ทำได้สำเร็จโดยลำพัง กทม.เองแต่หลายเรื่องก็จะต้องประสานกับหน่วยงานที่อยู่นอกเหนือการสั่งการของ กทม. ซึ่งหน่วยงานอื่นก็อาจจะมีเหตุผล ข้อจำกัด และความจำเป็นในด้านอื่นๆ
ยกตัวอย่าง เพิ่มรถเมล์สายหลักและรอง ราคาถูกราคาเดียว, ทบทวน BRT เพื่อพิจารณาการดำเนินโครงการ, พิจารณาเดินเรือ เพิ่มตัวเลือกเชื่อมต่อการเดินทาง, รถไฟฟ้าสายสีเขียว ประชาชนต้องได้ประโยชน์สูงสุด, นำร่องพัฒนาคลินิกสุขภาพเพศหลากหลาย, เทศกิจผู้ช่วยจราจร, เสริมศักยภาพสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา หาความเป็นไปได้เพิ่มสะพานใหม่, กรุงเทพฯ เดินได้ พัฒนาทางเดินเท้าคุณภาพ 1,000 กม., เลียบคลองเดินได้ปั่นปลอดภัย ทางเลียบคลองคุณภาพ, ดึงอัตลักษณ์ สร้างเศรษฐกิจ 50 ย่านทั่วกรุงเทพฯ, ขึ้นทะเบียนผู้ค้าแผงลอย พร้อมติดตามการดำเนินการ, ปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง, เรียนฟรี ชุดฟรี ไม่มีเก็บเพิ่ม, After School Program เรียน เล่น หลังเลิกเรียน, เพิ่มสวัสดิการครูให้เหมาะสม, เพิ่มประปาหัวแดงโดยเฉพาะเขตที่อยู่อาศัยหนาแน่น, สายสื่อสารลงดินไม่ซ้ำซ้อน สะท้อนต้นทุน ไม่กระทบประชาชน, โปร่งใส ไม่ส่วย, สวน 15 นาที ทั่วกรุง, พิจารณาให้นำสัตว์เลี้ยงไปออกกำลังกาย ในสวน กทม.ได้, 12 เทศกาลตลอดปีทั่วกรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ มั่นใจ ปลอดภัยโควิด, ตลาดนัดชุมชน ตลาดนัดเขต, เปลี่ยนศาลาว่าการและลานคนเมือง สู่พิพิธภัณฑ์เมืองกรุงเทพฯ และพื้นที่สร้างสรรค์, จัดชุดปฏิบัติการสำรวจตรวจตราคนไร้บ้านและขอทานในเมือง, รถขยะไซส์เล็ก เข้าใจเมือง เข้าถึงบ้าน, ขยายโครงการโรงพยาบาล 10,000 เตียง, สนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวคิดบ้านมั่นคง, เพิ่มสวัสดิการพนักงานเก็บและขนขยะ, ขุดลอกและทำความสะอาดท่อระบายน้ำ 3,000 กม., กวดขันจับ/ปรับ การทิ้งขยะลงแหล่งน้ำอย่างจริงจัง, น้ำดื่มสะอาด ปลอดภัย ฟรี ทั่วกรุง, สร้างลิฟต์รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 2 ฝั่งถนนครบทุกสถานี, ห้องน้ำสาธารณะที่ดีในพื้นที่สาธารณะ, นำร่องผ้าอนามัยฟรี,ผู้ว่าฯ เที่ยงคืน สนับสนุนการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจกลางคืน, เพิ่มเงินสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการชุมชนและการปรับให้เป็นรายปี, บัตรคนพิการ จุดเดียวจบ ทุก รพ.สังกัด กทม. ฯลฯ
5. คุณ Chai Mahachai ให้ข้อมูลน่าสนใจ บอกว่า
“ขอลงเป็นหลักฐานก่อนเลยครับ เผื่อในอนาคต จะเคลมกันไม่ได้
1)..ธันวาคม ปี 2564 AMR ลงนามนำสายไฟลงดินในกทม.มูลค่า 469 ล้านบาท วางกำหนดภายใน 1,080 วัน โดยจะดำเนินการนำสายไฟฟ้าแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสีเขียวลงดินจากสุขุมวิท 81-แบริ่ง โดยกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาผู้ว่าอัศวินอัพเดทการนำสายไฟลงดินไปกว่า 133,050 เมตร ใน 21 เส้นทาง
2)..อาทิ ราชปรารภ, พหลโยธิน ลาดพร้าว, ถนนรัชดาภิเษกถึงถนนพระราม 9, รัชดาภิเษกถึงถนนอโศก, ถนนพระราม 4, ถนนพระราม 3,ถนนจรัญสนิทวงศ์, ถนนวิทยุ, ถนนนานาเหนือ และถนนชิดลม
3)..โดยใน “ขณะนี้” อยู่ในระหว่างดำเนินการอีกกว่า 20 เส้นทาง ระยะทางกว่า 250 กิโลเมตร และวางแผนในการเปลี่ยนสายสื่อสารของกทม.ภายในอีก 3 ปี โดยมีกรุงเทพธนาคมเป็นผู้ดำเนินการอีก 2,228.07 กิโลเมตร
4)..ความจริง พวกโครงการต่างๆ มันก็เดินหน้าไปตามแผนเดิมเป็นส่วนใหญ่ครับ อย่างรถไฟฟ้าสีชมพู เหลือง ก็ตั้งแต่ปี 37/39 คสช.ก็มาทำต่อให้สร้างปี 59 เป็นต้น
5)..เท่ากับว่า จากนี้ไปสามปี ถ้ามีสายไฟลงดินทั้งหมด
ไม่ใช่ผลงานคุณคนใหม่”
สุดท้าย คน กทม. ต้องช่วยกันติดตามการทำงานของผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ให้ทำเพื่อคน กทม.ทุกกลุ่ม เป็นอิสระจากพรรคการเมือง และนักโทษหนีคดีอย่างแท้จริง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี