เพราะเหตุที่ทะเลสาบสงขลาเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำ ดังนั้น ชาวรอบลุ่มทะเลสาบจึงไม่เคยขาดแคลนอาหารจำพวกสัตว์น้ำเลย ไม่ว่า กุ้ง หอย ปู ปลา ที่อาศัยน้ำเค็ม น้ำกร่อย หรือน้ำจืด ชาวรอบลุ่มทะเลสาบสงขลาก็มีกินอย่างอุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่บรรพกาล
แต่ด้วยความปรารถนาดีหวังจะให้ราษฎรอยู่ดีกินดีและบ้านเมืองมีความเจริญ จึงเกิดการพัฒนาอีกชนิดหนึ่ง นั่นคือการสร้างเขื่อนกั้นน้ำและเขื่อนกั้นน้ำนี่แหละได้ทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำของทะเลสาบสงขลาจนวายวอดสิ้นเชิง
อันสัตว์น้ำในทะเลสาบสงขลานั้นมีแหล่งกำเนิดมาจากทะเลหลวงหรืออ่าวไทย และเข้ามายังทะเลสาบสงขลาได้สองทาง คือจากปากอ่าวสงขลาทางหนึ่งและจากปากระวะที่อำเภอระโนดอีกทางหนึ่ง คือเมื่อถึงเทศกาลลมนอกน้ำในอ่าวไทยขึ้นสูง มีคลื่นใหญ่ ลมแรง สัตว์น้ำตัวอ่อนก็จะเข้ามาในทะเลสาบสงขลาจากทั้งสองทาง คือทั้งทางปากอ่าวสงขลาและทางด้านปากระวะ อำเภอระโนด
เป็นธรรมชาติของสัตว์น้ำหลายชนิดที่มีไข่หรือตัวอ่อนมาจากทะเลหลวงหรืออ่าวไทยแล้วเข้ามาฟักตัวในทะเลสาบสงขลา บางชนิดฟักตัวแล้วก็ยังเป็นสัตว์น้ำเค็ม บางชนิดฟักตัวแล้วก็เป็นสัตว์น้ำกร่อย บางชนิดฟักตัวแล้วก็เป็นสัตว์น้ำจืด แต่ละเพศแต่ละพันธุ์ก็ล่องไปตามทะเลสาบสงขลาและไปอาศัยเติบใหญ่ขึ้นในพื้นที่อันเป็นของตน
คือถ้าเป็นสัตว์น้ำเค็มก็จะเติบใหญ่ขึ้นในช่วงน้ำเค็มในทะเลสาบสงขลาจนถึงปากอ่าว ถ้าเป็นสัตว์น้ำกร่อยก็จะเติบใหญ่อาศัยอยู่ในช่วงน้ำกร่อย ถ้าเป็นสัตว์น้ำจืดก็จะอาศัยอยู่ในแดนอันเป็นน้ำจืดนั้น ยกเว้นแต่ที่ทะเลน้อยจะเป็นสัตว์น้ำจืดล้วน
เพราะเหตุนี้ชาวรอบลุ่มทะเลสาบสงขลาจึงมีสัตว์น้ำทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ทุกชนิดกินกันตลอดทั้งปี จนกว่าฤดูกาลใหม่ที่มีคลื่นใหญ่ลมแรงพัดไข่หรือพันธุ์ตัวอ่อนเข้ามายังทะเลสาบสงขลาจากทั้งสองทางนั้นอีกครั้งหนึ่ง เป็นสภาพหมุนเวียนเป็นวงโคจรอยู่เช่นนี้ตลอดมา
เพราะเหตุนี้ทะเลสาบสงขลาจึงอุดมสมบูรณ์มาก ขนาดเรือแล่นไปในทะเลก็มีปลาตัวใหญ่กระโดดขึ้นมาให้ได้จับกินโดยไม่ต้องออกแรง ทั้งปลากะพง ปลาตุ่ม และปลาอื่นๆ อีกหลายชนิด จนกล่าวได้ว่าชาวลุ่มทะเลสาบสงขลาไม่เคยอดอยากขาดแคลนด้วยอาหารสัตว์น้ำเลย
ต่อมาด้วยความปรารถนาดีก็มีการนำวิธีการใหม่มาใช้ เพราะเข้าใจเอาว่าจะต้องมีเขื่อนกั้นน้ำเค็มทั้งสองด้าน คือ ทั้งด้านปากอ่าวสงขลาและที่ปากระวะ ดังนั้นจึงมีการทำเขื่อนหรือฝายกั้นปากระวะไว้ แทนที่จะเป็นเขื่อนทรายธรรมชาติดังที่เคยเป็นมาในอดีต
และเมื่อเป็นเขื่อนที่สร้างขึ้นจึงไม่สามารถเปิด-ปิดน้ำตามธรรมชาติเหมือนที่เคยเป็นมาได้ ปีใดที่น้ำในทะเลสาบสงขลาท่วมก็ท่วมทั้งอำเภอระโนด ต้องไปเปิดประตูน้ำที่ปากระวะเพื่อให้ไหลออกสู่ทะเลหลวง เปิดทันบ้าง ไม่ทันบ้าง หรือเปิดไม่ได้บ้าง น้ำก็ท่วมอำเภอระโนดเสียหายเป็นอันมาก
ครั้นหมดเทศกาลน้ำท่วมก็มีการปิดกั้นเขื่อนปากระวะอีก ไข่และพันธุ์สัตว์น้ำตัวอ่อนที่จะเข้ามายังทะเลสาบสงขลาปากระวะตามธรรมชาติก็เข้ามาไม่ได้เพราะประตูน้ำถูกปิด ดังนั้นสัตว์น้ำจำพวกนี้ที่เคยเข้ามาทางปากระวะจึงสูญพันธุ์และทำลายความอุดมสมบูรณ์ไปครึ่งหนึ่ง
ส่วนทางด้านปากอ่าวสงขลานั้นเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ไม่สามารถทำเป็นเขื่อนกั้นได้ ดังนั้นจึงทำเป็นท่าเรือน้ำลึกและขวางทางน้ำเข้า-ออกไว้ที่ปากอ่าวสงขลา ทำให้การไหลเวียนของน้ำและการเข้า-ออกของสัตว์น้ำและพันธุ์ตัวอ่อนทั้งหลายลดจำนวนลงเป็นจำนวนมาก หลายชนิดเข้ามาไม่ได้ ก็ทำให้ทะเลสาบสงขลาสูญพันธุ์สัตว์น้ำเหล่านั้น ดังเช่น ปลาโคก ปลาตุ่ม เป็นต้น
และเพราะสาเหตุที่ไข่หรือพันธุ์ตัวอ่อนของสัตว์น้ำซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากทะเลหลวงเข้ามายังทะเลสาบสงขลาได้น้อยทางปากอ่าวสงขลาและเข้าไม่ได้ทางปากระวะอำเภอระโนด จึงนอกจากค่อยๆ สูญพันธุ์แล้ว ที่หลุดลอดเข้ามาไม่ถึงกับสูญพันธุ์ก็มีปริมาณไม่เพียงพอต่อการบริโภค
ดังนั้นอำเภอระโนดที่เคยส่งออกสัตว์น้ำจากอำเภอระโนดไปยังจังหวัดสงขลาส่งต่อไปยังยะลา ปัตตานี นราธิวาส จึงไม่มีสัตว์น้ำให้ส่งออกจากอำเภอระโนดอีกต่อไปแล้ว เพราะแม้จะกินเองในอำเภอก็ยังไม่พอ
หลังจากความปรารถนาดีเกิดขึ้นดังกล่าวนี้แล้ว ชาวลุ่มทะเลสาบสงขลาก็ขาดแคลนอาหารสัตว์น้ำ จึงต้องสั่งซื้อเข้ามาจากตัวจังหวัดสงขลาทางหนึ่งและจากจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกทางหนึ่ง ซึ่งเป็นศูนย์ของเรือประมงน้ำลึกที่ไปจับสัตว์น้ำในทะเลหลวงที่ไกลออกไป
บ้างก็เป็นสัตว์น้ำที่ตัวจังหวัดสงขลาสั่งซื้อเข้ามาจากฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งมีรสชาติของสัตว์น้ำอีกแบบหนึ่งอันเป็นผลมาจากพื้นทะเลฝั่งอันดามันและทะเลสาบแตกต่างกันมาก คือฝั่งทะเลอันดามันนั้นพื้นทะเลเป็นทราย ดังนั้นสัตว์น้ำทุกชนิดจึงมีเนื้อแข็ง ขาดความนุ่มหอม ในขณะที่สัตว์น้ำในทะเลสาบสงขลานั้นพื้นทะเลเป็นดินทราย มีอาหารอันอุดมแก่สัตว์น้ำ จึงมีเนื้อนุ่ม มีรสชาติเฉพาะ
สภาพขาดแคลนอาหารสัตว์น้ำของชาวลุ่มทะเลสาบสงขลาเกิดขึ้นเพราะความปรารถนาดีในการพัฒนาบ้านเมือง แต่ขาดความรู้ความเข้าใจที่แท้จริง จึงแทนที่จะทำให้ราษฎรอยู่ดีมีสุขมากขึ้น กลับทำลายอาหารการกินและความเป็นอยู่ของราษฎร ตลอดจนอาชีพของราษฎรทั้งหลายให้ได้ยากลำบากอยู่ถึงปัจจุบันนี้
ปัจจุบันนี้ทะเลสาบสงขลาเมื่อดินทรายในทะเลสาบสงขลาไม่สามารถออกสู่ทะเลหลวงที่ปากอ่าวสงขลาและที่ปากระวะอำเภอระโนด นานวันเข้าดินทรายก็ค่อยทับถมจนตื้นเขินโดยทั่วไป
ทะเลน้อยตื้นเขินเกือบหมดแล้ว ทะเลสาบสงขลาซึ่งเคยมีน้ำลึกถึง 6-7 เมตร ขณะนี้โดยทั่วไปมีความลึกแค่หัวเข่าหรืออย่างมากก็เมตรเศษเท่านั้น จึงกระทบต่อระบบนิเวศของสัตว์น้ำอย่างรุนแรง เพราะทำให้น้ำอุ่นมากขึ้น ร้อนมากขึ้น สัตว์น้ำจำนวนมากก็สูญพันธุ์ไปโดยลำดับ
มาถึงบัดนี้ลุ่มทะเลสาบสงขลาชราภาพใกล้จะตายแล้ว เรียกร้องต้องการให้ผู้มีสติปัญญาและความสามารถมาชุบชีวิตใหม่ให้กับทะเลสาบสงขลา ชาวลุ่มทะเลสาบสงขลาจะรอวันนั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี