l และแล้ว วันจาก ก็มาถึง
-วันก่อน เพื่อน ไปลับ
-วันนี้ เพื่อนจาก ไม่กลับมา
-พรุ่งนี้ ก็ คงถึงวันของเรา
l นี่คือ สัจธรรมของชีวิต
เกิด แก่ เจ็บ ตาย
@ จุดเกิด ที่ลงตัว ของสรรพสิ่ง มารวมตัวกัน ก่อเกิด “สิ่งใหม่”ภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสมเติบโต พัฒนา เสื่อม และหมดไป
l มนุษย์เรา แม้เป็นสัตว์ประเสริฐ ก็ยังคงอยู่ในวัฏจักร เช่นนี้
แต่มนุษย์ แตกต่างจาก สัตว์ และสรรพสิ่งอื่นใดคุณค่าความหมายอยู่ที่ การฝึกฝน และ การพัฒนา ได้ ด้วยสติปัญญา ความจริง เพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัวเพื่อพัฒนาคนอื่น และเพื่อพัฒนาชุมชนบ้านเมือง และโลก
l มนุษย์ นี่แสนประหลาดสุดๆ โดยมีหลากหลายประเภท
๑.อยู่เฉยๆ ไม่ยินดียินร้าย ต่อ สิ่งอื่น คนอื่น > นอกจากตัวเอง
สนใจ เอาแต่ตนเอง ทั้งช่วงสร้างตน เติบใหญ่ และยามแก่ชรา :จากไป น่าเสียดาย “ทิ้งความรู้ประสบการณ์ ไปกับเถ้าถ่าน(ศพ) ของตน”เอาตนเอง เป็นใหญ่ : เอา อุดมการณ์ อคติ โลภ โกรธ หลงนำทางชีวิต แต่ก็ยังดีกว่า ประเภท ที่ ๒
๒.เกิดมามีแต่ กอบโกย โกงกิน : ใช้ “ความคิด” อำนาจทุน วาจา > เพื่อตนเอง
โดย “ทำลาย ขจัด สิ่งที่ขวางหน้า ที่ไม่ถูกใจ ไม่ชอบฯ”ทุกวิถีทางสรรหา สิ่ง เรื่องราว อุดมการณ์ ความคิดความเชื่อที่ตรงกับ “อัตตา” ตัวกูของกูทำให้ “ความเก่ง ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์” ถูกใช้ในทางที่ผิดอีกใส่ความคิด อคติของตนให้ลูกศิษย์ ให้มี “อคติ ความเชื่อ ความหลงผิดฯ” เช่นเดียวกับตน
๓.คนส่วนที่น่าเคารพ ยกย่อง คือ
คนที่มีความคิด ใช้ชีวิต เพื่อคนอื่น ส่วนรวม บ้านเมืองอาจจะต่อสู้ดิ้นรนมาชั่วชีวิต ด้วยความยากจนมาก่อนอาจจะมั่งมีศรีสุข แต่สนใจ ทุ่มเท ให้คนทุกข์ ทำได้ทุกเรื่องราว ที่ผ่านมาในชีวิต ที่ได้เห็น ได้ประสบการณ์ อาจกล่าวได้ว่า “ชีวิตที่เกิดมา มีคุณค่าความหมาย และเป็นประโยชน์” ต่อสังคมคนดูภายนอก ที่เป็นคนดีมีคุณธรรม ต่างชื่นชมอาจจะคิดว่า “เขาคงทุกข์ เหนื่อย ลำบากมาทั้งชีวิต” แต่ “ความจริง” เขามีสุข มีความรัก ความภาคภูมิใจ ในสิ่งที่เขาทำมาทั้งชีวิต
l วันนี้ ปู่จิ๊บ สหายสุข ชมจันทร์ และ ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
จะขอกล่าวถึง เพื่อนประเภทนี้
ซึ่งเป็นเพื่อนรัก สหายสู้รบ มาร่วมกัน อย่างต่อเนื่องยาวนาน
๑.หากกล่าวถึง “คนเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง นับได้ ๑๓ คน” ที่ถูกเรียกว่า “เป็นกบฏ คนไม่ดี ต่อบ้านเมือง” : จากรัฐบาล ในยุค ปี ๒๕๑๖ แต่เมื่อเหตุการณ์การต่อสู้ดุเดือดแหลมคมที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ประชาธิปไตยไทย จบลงพวกเขา “ถูกยกย่อง” เป็นคนสำคัญ ๑ ของสังคมไทย
๒.นับมาถึงวันนี้ ๑๓ คน ถูกกาลเวลาหักไปแล้ว ๕ คน เหลือ ๘ คน
(๑) ๕ คน เรียงลำดับ จากการไปก่อน ตามหลัง ดังนี้
อาจารย์ทวี หมื่นนิกร, อาจารย์นพพร สุวรรณพานิช, พี่ไขแสง สุกใส, พี่ประพันธ์ศักดิ์ กมลเพชร, และเพื่อน ธัญญา ชุนชฎาธาร
(๒) อีก ๘ คน หากไล่เรียงตามอายุขัย
ชัยวัฒน์ สุรวิชัย, ธีรยุทธ บุญมี, ปรีดี บุญซื่อ, บุญส่ง ชเลธร,ก้องเกียรติ คงคา, วิสา คัญทัพ, บัญฑิต เองนิลรัตน์, มนตรีจึงสิริอารักษ์
ดูแล้ว เสี่ยวนะ “ปู่จิ๊บ” อาจจะเป็นคนถัดไป หากนับอายุ
๓. ความใกล้ชิด อ๋า กะ จิ๊บ
(๑) อ๋า ธรรมศาสตร์ ปี ๒๕๑๑ : จิ๊บ วิศวะจุฬาฯ ๒๕๑๐
(๒) ธรรมรังสี (สำนักงานทนายความมีชื่อ) ที่ โกอ๋า เป็นคล้าย เจ้าสำนัก จิ๊บ หอพักจารุทวี บางลำพู (อยู่ใกล้ๆ กัน)
(๓) ร่วมในกลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๑๖ ร่วมแถลงข่าว ที่อนุสาวรีย์ทหารอาสาฯ เย็นวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๑๖
๖ ตุลาคม ๒๕๑๖ แจกใบปลิว เรียกร้องให้มีรัฐธรรมนูญ จาก ตลาดนัดสนามหลวง ไปถูกจับพร้อมกันที่ประตูน้ำ ถูกนำมาสอบสวน ที่กรมตำรวจปทุมวัน ตอนเที่ยงคืน ถูกนำขึ้น รถจีเอ็มซี (รถทหาร) วิ่งไป ที่โรงเรียนพลตำรวจบางเขน ถูกขัง จากคืนวันที่ ๖ ตุลา ถึงเช้าวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๑๖ สรุปผ่านเหตุการณ์ใหญ่ฯ นี้มาร่วมกัน
(๔) ร่วมก่อตั้ง กลุ่มปช.ปช. สัญจรประชาธิปไตย ทั่วไทย
(๕) ร่วมก่อตั้ง พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ปี ๒๕๑๗ ที่มีผู้แทนสมัยแรก ๑๕ คน (พรรคพลังใหม่ ๑๒ คน พรรคแนวร่วมสังคมนิยม ๑๐ คน) และร่วมสู้กับ การรุก และกระหน่ำจากฝ่ายขวาจัด ที่ลอบยิงลอบฆ่าผู้นำประชาชนฯ
(๖) ไปเจอกัน ที่ฐานที่มั่นแนวร่วม A30 ปลายปี 2519ก่อตั้ง คณะกรรมการประสานงานผู้รักชาติรักประชาธิปไตย (กปปช.) ที่มี อ.ธีรยุทธ บุญมี เป็นผู้ประสานงาน
(๗) ร่วมงานที่ฐานที่มั่นภูพาน ที่มีสหาย นิสิตนักศึกษาเข้ามากันมากมาย (รวมทั้ง คุณมาลีรัตน์ ติ๊ก) ทั้งในปี ๒๕๒๐ และ ๒๕๒๒-๒๕๒๔
(๘) ออกจากป่า กลับคืนสู่นาคร ยังมีการร่วมงานกันต่อเนื่อง การตั้งกลุ่ม “เพื่อนพ้องน้องพี่” ดูแลน้องๆ และผู้นำฯ ที่ออกมาจากป่า ให้กำลังใจต่อกัน
(๙) การเข้าร่วมในเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง
....รวมทั้ง พฤษภาคม ๒๕๓๕
พธม. ๒๕๔๘ - ๙ - ๒๕๕๑
กปปส. ๒๕๕๖ - ๒๕๕๗
(๑๐) อ๋า ล้มป่วยหนัก ปลายปี ๒๕๖๒ ด้วยเป็น สโตก Storkนอน รพ. และรักษาตัวที่บ้าน ยุค ศรีอาริยะ ชัยวัฒน์ สุรวิชัย,พรชัย วีรณรงค์, เทิดภูมิ ใจดี, ทวีศักดิ์ ใยเมือง ฯลฯ ได้ไปเยี่ยมหลายครั้งให้กำลังใจ และช่วยเกื้อหนุน ตามสภาพ
l อาการป่วยของ “เพื่อนอ๋า” ที่ดูทรงๆ และมีอาการหนักมากขึ้นทุกวัน เรา เพื่อนมิตรสหาย ต่างทยอยไปเยี่ยม และแจ้งข่าวคราว ให้เพื่อนมิตร และคนทั่วไปที่รู้จักทราบ โดยส่วนตัว มองเห็น อนาคต ที่ไม่ไกลนัก ที่เพื่อน อ๋า ต้องเผชิญ ในอีกไม่นาน
หากจะขอกล่าวโดยสรุป ในเรื่องราวของ “อ๋า” ที่เกิด ก่องานใหม่ พัฒนา ป่วย และจากไป
๑.อ๋า เป็นตัวแทนของคนที่มีอุดมคติ ที่กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ดีกว่า ใช้ ชีวิต เวลา ความคิด ร่างกาย ความเหนื่อย และความตั้งใจทุ่มเท เพื่ออุดมคติ รวมทั้ง ครอบครัว ภรรยา ลูก และเพื่อนมิตรฯ ในช่วงเริ่มก่อการ มาถึงคนรุ่นเรา “ผู้รับช่วง ๑ รุ่นน้องๆ ๒ รุ่นลูก ๓” ฯลฯยังอยู่ใน “ช่วงของการต่อสู้ ท่ามกลาง และเปลี่ยนผ่าน” ยังไม่ “บรรลุเป้าหมาย”
๒.สิ่งที่เกิดขึ้น ในช่วงนี้ มีทั้งทำถูกผิด แล้วแก้ไขปรับปรุงพัฒนา ส่วนใหญ่ ก็ย่ำอยู่กับที่ ไปได้ไม่ไกลนัก มีทุกข์มีสุข เสียงหัวเราะเสียงร้องไห้ ดีใจ เสียใจ สมหวัง ผิดหวัง เราส่วนใหญ่ ก็ผ่านมา ในเรื่องของอุดมคติของชีวิต
แต่ส่วนที่เราบางส่วน ผ่านไม่ได้ คือ : เรื่อง สุขภาพ ความเจ็บไข้ได้ป่วย และความตาย
๓.สำหรับอ๋า : กล่าวโดยสรุป ได้ใช้ชีวิตไปอย่างคุ้มค่า มีคุณค่าและความหมายของชีวิต
ทั้งโดยตัวเอง ที่มีความสามารถในการเป็นผู้นำ และเป็นนักคิดนักอ่านคนที่มีบทบาทคนหนึ่ง
บทบาทที่สำคัญ คือ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่มีบทบาทในหลายเหตุการณ์ต่อเนื่องมา
ในยุคเป็นผู้นำนักศึกษา เหตุการณ์ ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖ : พรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทยสหายในสถานการณ์สู้รบที่ปฏิวัติ ในภาคอีสาน เหตุการณ์ พฤษภาคม ๒๕๓๕ พธม. ๒๕๔๙ กปปส. ๒๕๕๖ ฯลฯ
บทบาทหนึ่ง คือ การได้รับความไว้วางใจ จาก “ผู้ใหญ่ ที่ร่วมงาน” เช่น
พี่ไขแสง สุกใส ในการดูแลงาน และเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ไปอยู่ไปใช้บริการของสำนักงานทนายความ ธรรมรังสี
ลุงสยาม ผู้ดูแลเขตภูพานของพรรคฯ สหายแสงธรรม ได้รับมอบให้ดูแลบางส่วนของนักศึกษา และแนวร่วมฯ
พลเอกหาญ ลีนานนท์ อดีตแม่ทัพภาค ๔ ที่ อ๋า สนิทสนมคุ้นเคย และมีบทบาทไม่น้อย
คุณสนธิ ลิ้มทองกุลฯ ในช่วง ที่ “อ๋า” ทำงานให้ที่ลาวและอื่นๆ
๔.ในส่วนของ “ติ๊ก” มาลีรัตน์ ภรรยาคู่ชีวิต
บทบาทส่วนตัว คงไม่ต้องกล่าวมาก
เพราะมีบทบาทเป็นผู้นำนักศึกษา สมัยเรียนในมหาวิทยาลัยบทบาทสหาย ลูกสาวที่ดีของพรรคของประชาชน ในสถานการณ์สู้รบที่ปฏิวัติ (๒๕๑๙ - ๒๕๒๔) บทบาทการเป็น “แม่” ที่ประเสริฐของลูกบทบาททางการเมือง ในยุค พธม. และ กปปส. ฯลฯ
บทบาทการเป็นภรรยา และครอบครัว
ภรรยาของนักอุดมคติ หลายคน ที่ผมมีโอกาสไปเยี่ยมเยือนและพบปะพูดคุยมาเป็นคนสำคัญ ในการดูแล เอาใจใส่ “สามี” ที่ป่วยหนักนอนติดเตียง เป็นเวลายาวนาน ต้องรับผิดชอบ อาการป่วย การดูแล เอาใจ ถนอมน้ำใจ ด้วยความรักและความรับผิดชอบอย่างใกล้ ต่อเนื่องยาวนานหลายปี ต้อง ยกตัวพยุงตัวขึ้นมาจากเตียง มาอาบน้ำ เช็ดตัว กินข้าว กินยา พาไปหาหมอรักษา ที่โรงพยาบาล นำพา ให้พยาบาล มาดูแลเรื่องสุขภาพและกายภาพบำบัด รับอารมณ์ และความรู้สึกของสามีที่ป่วย ทั้งในช่วงดีและไม่ดี สุขภาพดีขึ้น และทรุดตัวลง และการต้อนรับ พูดคุยกับ มิตรสหาย ที่มาเยือน และถามอาการฯ การแจ้งข่าวคราว ให้เพื่อนสนิท ที่ต้องการทราบข่าว และที่สำคัญ การหารายได้สำหรับค่าใช้จ่าย ในการรักษาพยาบาล และใช้ในครอบครัว ฯลฯ
ติ๊ก ทำได้ดีเยี่ยม ขอชื่นชม และให้กำลังใจ
l ณ วันนี้ หลังจากการจากไป ของ “อ๋า”
๑.ในฐานะภรรยา และลูก
ด้านหนึ่ง เป็นความเศร้า จากการสูญเสียบุคคลสำคัญของครอบครัว อันเป็นธรรมดาของชีวิต แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นความภาคภูมิใจ ที่ได้ทำหน้าที่ ให้กับ “คนที่เรารักที่สุด” ทั้งในฐานะของ “ภรรยา ต่อ สามี” และ “ลูก ต่อ พ่อ”
๒.สำหรับ เพื่อนอ๋า
คงรับรู้ตลอดมา ในการได้อยู่ เป็นคู่ภรรยาสามี คู่ชีวิต ติ๊ก และลูกได้ ทำหน้าที่ ได้ดีที่สุดแล้ว ยิ่งในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ในช่วงสุดท้ายของชีวิต และหากมีดวงจิตเห็น “สภาพหลังจากไป”
แม้ด้านหนึ่ง จะเศร้า ทุกข์ แต่อีกด้านหนึ่ง คือ “การพ้นทุกข์ความเศร้า”
หลังจากทำหน้าที่ ได้ค่อนข้างสมบูรณ์แบบต่อไป ทั้งติ๊ก และ ลูกคงทำหน้าที่ ในการดำเนินชีวิตต่อ ส่วนหนึ่ง ที่ติดตัวติดใจมา คือ “การรักษา สืบทอด และถ่ายทอด” อุดมคติที่ดีงาม ต่อไป ขอให้กำลังใจ ขอให้เข้มแข็ง เดินหน้าต่อไป ให้ “อ๋า” และเพื่อนมิตรสหาย ที่จากไปก่อน “มีความภาคภูมิใจและมีสุข”
รักและรำลึกถึงเสมอ ด้วยมิตรภาพอันยาวนาน
สหายสุข ชมจันทร์ และ ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี